นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. บ่นแก้จราจรคงต้องสร้างถนนใหม่ หรือห้ามรถเก่าวิ่ง หรือแบ่งวิ่งทะเบียนคู่-คี่ ถามทำได้ไหม หรือจะให้ย้ายนายกฯ รับเป็นปัญหาหมักหมม ย้ำชงสร้างอาคารจอดรถในพื้นที่ค้าขาย ทำถนนคนเดินไปสู่รถไฟฟ้า สั่งทำแผนใช้ตั๋วใบเดียวขึ้นได้ทุกสิ่งให้ได้ เตือนคนไทยจะเอาแต่ใจไม่ได้ เหตุไม่ให้ใช้อำนาจเต็มที่ เผยปีหน้าเริ่มปฏิรูประบบงบประมาณไตรมาส 1 ต้องเรื่องเร่งด่วน ถ้าทำไม่ได้ต้องเรียกคืน
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรว่า คงต้องสร้างถนนใหม่ หรือเพิ่มขึ้นอีก 100 สาย หรือไม่ก็ยกเลิกห้ามรถเก่าวิ่ง หรือจะให้แบ่งวิ่งโดยใช้เลขทะเบียนคู่-คี่ แบบนี้ทำได้ไหม จะให้แก้อย่างไร หรือจะให้แก้โดยย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือย้ายนายกรัฐมนตรี ยังทำไม่ได้เลย เพราะเป็นปัญหาที่หมักหมม ในระยะจึงได้เสนอไปว่าให้สร้างอาคารจอดรถให้มากขึ้นในพื้นที่ชุมชนค้าขาย เวลาไปซื้อของจะได้เดินเข้าไปถือเป็นการออกกำลังกาย ส่วนข้างหน้าทำเป็นถนนคนเดิน แล้วจะนำไปสู่รถไฟฟ้าที่จะต้องเนื่องเชื่อมโยงกัน เพราะวันนี้ไม่มีการเชื่อมโยงกัน จึงสั่งการให้ไปทำแผนทั้งหมดมาให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้ทั้งระบบ โดยใช้บัตรโดยสารเพียงบัตรเดียวให้ได้
“ถ้าจะแก้ปัญหาจราจรวันนี้มันแก้ไม่ได้ เพราะรถมันแน่น รถมันมาก บางคนถามว่าทำไมไม่ทำให้เหมือนประเทศอื่น มันทำไม่ได้ เพราะประเทศไทยสั่งซ้ายหันขวาหันยังไม่ได้เลย คุณต้องไปทบทวนดูตัวเองด้วย คนไทยเอาแต่ใจมันไม่ได้ทั้งหมด เพราะท่านก็ไม่ให้ผมใช้อำนาจเต็มที่ แต่ท่านต้องการหมด แบบนั้นมันยาก เพราะความขัดแย้งอย่างไรก็มีสูง แล้วหากผมมีความขัดแย้งมากๆ ในเรื่องที่ไปไม่ได้ ผมก็ทำงานใหญ่ไม่ได้ เช่น การปฏิรูป ทำไมเราไม่มองว่าอะไรคืองานใหญ่ หรืองานเล็ก อะไรคือโรดแมประยะที่ 1-2-3 หรืออะไรที่เป็นนโยบาย 5 ปี 10 ปี เราต้องคิดแบบนี้ ผมถามว่าเขาสอนแบบนี้ไหมในโรงเรียน ไม่สอนหรอกแบบนี้ เขาสอนแต่ในตำรา ผมให้ประสบการณ์ในการบังคับบัญชาในหน่วยทหารให้ทำงานได้ และสนับสนุนรัฐบาลทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ผมสอนแบบนั้น วันนี้ทุกคนบอกไม่ต้องมีทหาร มันทำได้ไหมเหล่า กระทรวงแต่ละกระทรวงมีคนตั้งกี่คน มันต้องจัดซื้อจัดจ้างทั้งสิ้น แต่หากมีทหารอยู่จะน้ำท่วม ไฟไหม้ ฝนแล้ง เรียกมาได้ทั้งหมด จะเรียกเดี๋ยวนี้ก็ได้ เพราะทหารอยู่ในค่าย และมีรถมีน้ำมัน นั่นแหละคือความจำเป็น หากจะไม่ให้มีทหารก็ได้ แต่ท่านต้องไปจ้างกันเอาเอง จะจ้างยาม หน่วยรักษาความปลอดภัยก็จ้างไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการจัดทำงบประมาณค้างท่อว่า ต้องทำความเข้าใจ โครงการของเราเป็นโครงการที่หลากหลาย เป็นโครงการเล็กๆ เพื่อให้เกิดความทั่วถึง จะต้องมีผู้จัดซื้อจัดจ้างรายเล็กรายน้อย แต่เดิมไม่จำเป็นต้องมี แต่เป็นการเหมาจ่ายในพื้นที่เพียงบริษัทเดียว ดังนั้นจึงเกิดปัญหาทำไม่ทัน ทำไม่ได้ ขีดความสามารถไม่เพียงพอ ซึ่งตนสั่งการไปแล้วว่าในปีต่อไปถ้าทำได้ มีขีดความสามารถก็ให้ทำในไตรมาสที่ 1 ไม่ต้องค้างไปในไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ต้องทำปีงบประมาณใหม่ โดยในไตรมาสที่ 1 ต้องเป็นงบประมาณเร่งด่วน หรือเป็นนโยบายให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเรียกคืน และอาจจะมีคณะกรรมการอุทธรณ์ที่พิจารณาเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ที่ต้องการขยายเวลาออกไป ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปด้วย
ส่วนเรื่องกองทุนหมู่บ้านในต่างจังหวัดนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนก็ให้ไปแล้วผ่านกระทรวง ทบวง กรม อาจมีความล่าช้าบ้างเพราะข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ โครงการบางอย่างตรงบ้างไม่ตรงบ้างกับระเบียบของราชการก็ต้องแก้ไข จึงต้องมีการสร้างการเรียนรู้การจัดทำแผนงบประมาณระดับท้องถิ่นและประชาชนด้วย และตนสั่งการให้ไปดูกองทุนชุมชนในพื้นที่ กทม.ว่าเป็นอย่างไร และหาเงินเพิ่มเติมในส่วนนี้และนำไปพัฒนาให้เหมือนในพื้นที่ต่างจังหวัดได้ เพื่อเป็นการทำให้คน กทม. เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่นำไปกู้หนี้เพิ่มขึ้น