นายกรัฐมนตรีเผยลงพื้นที่อุบลราชธานี พฤหัสบดีหน้า ดูงาน พบชาวบ้าน ถ่ายทอดสิ่งที่กำลังจะทำ ตอบข้อสงสัย ไปดูอุทกภัยอีสาน จวกมองแค่เรื่องสีแล้วเมื่อไหร่จะเลิกกัน ลั่นไปทุกที่สีอะไรไม่สน แย้มอาจลงใต้ต่อ ตามลำดับความเร่งด่วน รับโยกย้ายนายอำเภอตามวาระแต่บางส่วนไม่ปกติ อาจมีทุจริตอยู่บ้าง ย้ำผู้ตรวจฯ ลงไปดูโกงตรงไหน ขับเคลื่อนยังไง ข้าราชการทำตามนโยบายหรือไม่
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ว่า เป็นการไปดูงาน ติดตามความก้าวหน้าของงาน ไปเยี่ยมเยือนประชาชน และไปถ่ายทอดสิ่งที่รัฐบาลกำลังจะทำ ไปตอบคำถามที่ประชาชนมีข้อสงสัย และทำความเข้าใจถึงสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศ เมื่อถามว่าจะมีการติดตามเรื่องกองทุนหมู่บ้านด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวเขาจะมาสรุปให้ฟังเอง ว่ากองทุนหมู่บ้านมีกี่กองทุน ได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไร ประชาชนพึงพอใจหรือไม่ พบทุจริตหรือไม่จะมีการรายงานมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงการเลือกลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ไปดูอุทกภัยอีสานไง ทำไม หรือไปดูพื้นที่เสื้อแดง ก็มองอยู่แค่นี้ แล้วเมื่อไหร่จะเลิกสีกันเล่า ก็ถามให้มันเป็นเรื่องไง ผมก็รู้คำถามคุณอยู่แล้ว ก็ไปทุกที่ จะสีอะไรผมไม่สนใจ เขาเป็นคนไทยหรือเปล่าล่ะ เป็นประชาชนหรือเปล่า เขารู้รึเปล่า ใครพูดจาอะไรยังไง แล้วมันน่าเชื่อถือกันแค่ไหน ยังไง วันหน้ามันจะได้เข้าใจกันสักที ผมก็จะไปทำให้เขานั่นแหละ”
เมื่อถามว่า หลังจากลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีแล้ว เตรียมไปจังหวัดไหนอีก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่รู้ เดี๋ยวทีมงานจะวางแผนไว้ว่าจะไปไหน ก็อาจจะหมุนไปภาคใต้บ้างหรือเปล่า ฝ่ายมั่นคงก็ต้องไปดูว่าตรงไหนไปได้ ตรงไหนไปไม่ได้ มันพร้อมหรือไม่ กิจกรรมมีการขับเคลื่อนไปบ้างหรือยัง ตอนนี้เขากำลังไปไล่ทุกจังหวัด เราก็ต้องจัดเป็นกลุ่ม เป็นภูมิภาค ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก เขากำลังตามลำดับความเร่งด่วนและความจำเป็น ทุกคนเขาทำงานอยู่แล้ว ไม่ใช่นายกฯ ไป เขาถึงจะทำงานเมื่อไหร่เล่า เขาทำมาตลอด ตนไม่เห็นด้วยตา แต่เขาก็มีการรายงานเป็นเอกสาร มีการถ่ายรูปมา ตนก็อ่านทุกวัน ทุกงานเขารายงานตนหมด เว้นแต่ว่าอะไรที่มันยังไม่ถึงก็อย่ามาถามตน แต่ส่วนใหญ่ตนก็ตอบได้หมดอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการโยกย้ายนายอำเภอของกระทรวงมหาดไทย ที่มีกระแสข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่ามีบางส่วนที่เป็นการโยกย้ายไม่ปกติ ไม่ใช่ทุกคน การทุจริตอาจมีอยู่บ้าง แต่ยังไม่บอกว่าเป็นการย้ายเพราะการทุจริตเพราะถ้าทุจริตต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งทั้งหมดต้องมาจากการร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะไม่เช่นนั้นผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรัฐมนตรีจะรู้ได้อย่างไร ตนยิ่งไม่รู้ใหญ่เพราะอยู่ข้างบนรับผิดชอบนโยบาย อันนี้แสดงว่าผู้ว่าฯ เขาไปสอบมาจากเรื่องร้องเรียน ซึ่งครั้งนี้ก็ถือเป็นการปรับย้ายตามวาระ ไม่ใช่ทั้งหมดเป็นการย้ายแบบไม่ปกติ คงมีไม่กี่คน และตนได้กำชับทุกกระทรวงในเรื่องการป้องกันทุจริต ซึ่งก็ได้ย้ำให้ผู้ตรวจราชการ รวมถึง คสช.ลงเข้าไปดูว่ามีการทุจริตตรงไหน การขับเคลื่อนเป็นอย่างไร จะไปถามประชาชนว่าพอใจหรือไม่ ข้าราชการทำตามนโยบายที่มอบไปหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็พิจารณากันใหม่ แต่งานต้องเดินหน้ากันต่อ