แห่กู้กองทุนหมู่บ้านทำอาชีพเสริมแทนทำนาปรัง

กาฬสินธุ์ - กองทุนหมู่บ้านบ้านเมย ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ อนุมัติเงินกู้สมาชิกในหมู่บ้านแล้ว 90 ราย ประธานเครือข่ายกองทุนฯ ระบุ ส่วนใหญ่นำไปเป็นทุนประกอบอาชีพหน้าแล้ง หลังปีนี้ประสบภัยแล้งชาวบ้านคงงดทำนาปรัง

วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ทำการกองทุนหมู่บ้านบ้านเมย หมู่ 11 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายประยูร เห็มวิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลดงลิง ในฐานะประธานกองทุนหมู่บ้านบ้านเมย หมู่ 11 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านระดับตำบล อำเภอ จังหวัดกาฬสินธุ์ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านบ้านเมย หมู่ 11 เพื่อดำเนินการพิจารณาอนุมัติสมาชิกที่ขอกู้เงินกองทุนหมู่บ้านที่ได้รับวงเงินมาจากรัฐบาลจำนวน 1,000,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย 2 ปี

พร้อมทำความเข้าใจต่อคณะกรรมการฯ เพื่อดำเนินการอนุมัติเงินกู้ และสร้างความเข้าใจถึงกองทุนหมู่บ้านล็อตใหม่

นายประยูร เห็มวิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับเงินกองทุนหมู่บ้านของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งหวังที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด โดยเงินกองทุนส่วนนี้ได้จัดสรรให้แก่กองทุนหมู่บ้านเกรด A-B ทั่วประเทศ เป็นเงินกว่า 60,000 ล้านบาท โดยสมาชิกที่กู้เงินกองทุนหมู่บ้านจะปลอดดอกเบี้ย 2 ปี หลังจากนั้นจะต้องชำระดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นภายในเวลา 7 ปี

จ.กาฬสินธุ์ มีกองทุนหมู่บ้านที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว 1,609 กองทุน แยกเป็นกองทุนหมู่บ้าน 1,584 กองทุน กองทุนชุมชนเมือง 25 กองทุน แยกเป็นกองทุนระดับ A 733 กองทุน กองทุนระดับ B 572 กองทุน รวม 1,305 กองทุน ทั้งนี้ มีการปล่อยกู้สินเชื่อกองทุนหมู่บ้านปลอดดอกเบี้ย 2 ปี ไปแล้ว 756 กองทุน

ในส่วนของกองทุนหมู่บ้านบ้านเมย อนุมัติแล้ว 90 ราย ขั้นต่ำรายละ 10,000 บาท 15,000 บาท และ 20,000 บาท โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะนำเงินส่วนนี้ไปเป็นเงินทุน โดยเฉพาะการทำอาชีพเสริมในช่วงหน้าแล้ง เพราะปีนี้ชาวบ้านไม่สามารถทำนาปรังได้ เนื่องจากสภาวะภัยแล้งที่กระทบอย่างรุนแรง

นายประยูร ระบุอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความไม่เข้าใจถึงความเป็นมาเงินกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งผู้กู้ต้องเป็นสมาชิกกองทุน และเงินกองทุนนี้จะตกมาที่กองทุนเกรด A และ B ก่อน นอกจากนี้ ขั้นตอนอนุมัติเงินกู้ ผู้กู้ซึ่งเป็นสมาชิกจะต้องทำโครงการอาชีพต่างๆ มาเสนอขอกู้ ความเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนคิดว่าเงินกู้นี้จะต้องกู้ได้ทุกๆ คน หรือการอาเงินจำนวนนี้มาหารแบ่งกันในส่วนของคณะกรรมการ หรือญาติพี่น้องซึ่งไม่ใช่

นอกจากนี้ ต้องย้ำว่าเงินส่วนนี้ต้องชำระคืน เพราะรัฐบาลกู้มาจากธนาคาร จ่ายดอกเบี้ยให้แก่ธนาคาร ในส่วนของการปลอดดอกเบี้ย 2 ปี ส่วนปีที่ 3-7 ต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยนั้น เป็นสิ่งที่คณะกรรมการหมู่บ้านจะต้องทำความเข้าใจ และต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเข้าใจอย่างทั่วถึงด้วย