“ประวิตร” วอน แก๊งแดงอย่าใส่เสื้อแดงให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์” ย้ำทำตาม กม. ชี้ ใส่ได้แต่อย่ารวมตัว จี้ “จตุพร” โชว์หลักฐานกองทุนหมู่บ้านมีหักหัวคิว อย่าพูดลอย ๆ รับจำเป็นต้องใช้คุกทหาร ความรับผิดชอบอยู่ที่ราชทัณฑ์ ชี้ฆ่าตัวตายเคยมีมาก่อน ยัน “หมอหยอง” ยังอยู่ ชี้ ตร. เกี่ยวคดีม.112 เรื่องส่วนตัว เดินหน้าคุยสันติสุขใต้ ขอทุกกลุ่มร่วม ยัน นายกฯเตรียมลงไป ขออย่าระบุถึงวันที่เกิดเหตุในอดีต
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. 58 เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า อยากขอร้องกลุ่มแกนนำว่าอย่าใส่เลย เพราะมันไม่มีประโยชน์ หากมีเรื่องเกิดขึ้นมาก็จะเกิดความวุ่นวายอีก ซึ่งตนฝากขอร้องผ่านสื่อมวลชน ทั้งนี้ยืนยันว่าทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า หากสมมติว่ามีการนัดใส่เสื้อแดงขึ้นมาจริงจะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หากมีการนัดใส่เสื้อแดง คนที่ทำ และเป็นแกนนำต้องรับผิดชอบ เพราะมีกฎหมายในการดำเนินการอยู่ พร้อมทั้งยืนยันว่า ทุกคนสามารถใส่เสื้อสีแดงได้ เนื่องจากทุกวันนี้การแบ่งแยกสีก็ไม่มีแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อไปใส่เสื้อสีแดงแล้วจะมารวมตัวกันนั้นทำไม่ได้ และยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้กลัวการแสดงออกของกลุ่มคนต่าง ๆ เพียงแต่ขอร้องว่าอย่าทำ เพราะใส่ไปก็เท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกระบุว่า มีการหักหัวคิว 20 - 30% ในโครงการกองทุนหมู่บ้าน 5 ล้านบาท ของรัฐบาล พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้นำหลักฐานมาแสดง เพื่อให้เกิดความชัดเจน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงรายละเอียดไปหมดแล้ว แต่หากนายจตุพรมีหลักฐานก็ให้นำมา เพราะเราก็อยากรู้และอยากได้ด้วย ดังนั้น อย่ากล่าวลอย ๆ เพราะมันไม่ดี ขอให้นำหลักฐานมาแสดงว่าใครเป็นคนทำอย่างไร หรือใครที่ได้เงินไป ขอให้นำรายชื่อมา ซึ่งเราไม่มีการละเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น และอยากจับคนผิดให้ได้ด้วย
เมื่อถามถึงมาตรการควบคุมโครงการดังกล่าวไม่ให้เกิดการทุจริต พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรามีมาตรการควบคุมการทุจริต และยังมีโครงการอื่น ๆ อีก โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ดูแลอยู่ ทั้งนี้ตนได้กำชับไปทั้งหมดแล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหาใด ๆ แต่ถ้ามีปัญหาขอให้นำหลักฐานมาแสดงว่าใคร ชื่ออะไร นำเงินไปดำเนินการอย่างไรกับโครงการใด ทั้งนี้ เรามีทหารลงพื้นที่ไปดูแลโครงการดังกล่าวอยู่ด้วย เพื่อติดตามความคืบหน้าว่ามีการดำเนินการอย่างไรไปแล้วบ้าง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ คสช.
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีองค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ภายในกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) ว่า เรื่องนี้มีทางกรมราชทัณฑ์ดูแลอยู่ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็มีการจัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า อาจจะเป็นผลมาจากกรณีที่ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 เสียชีวิตหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่รู้จะตอบอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ตนยืนยันว่า เรายังมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือนจำดังกล่าวอยู่ และจะใช้เฉพาะในสถานการณ์ช่วงนี้เท่านั้น หากสถานการณ์ปกติแล้วเรือนจำดังกล่าวก็ไม่มี แต่ทั้งหมดทางกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดูแลอยู่ ถึงแม้ว่าเรือนจำดังกล่าวจะมีทหารดูแลร่วมอยู่ด้วย แต่ความรับผิดชอบหลักอยู่ที่กรมราชทัณฑ์
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายสุริยัน สุรจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง ผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 เสียชีวิตอีกรายนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากการรับฟังข่าวสารทราบว่า นายสุริยัน ยังดีอยู่ ไม่มีอะไร ตอนนี้อาจจะมีอาการป่วยเล็กน้อย ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้รายงานอะไรขึ้นมา พร้อมทั้งยืนยันว่าการที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล และมีจำนวนไม่มากนัก ซึ่งมีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว ตนคงไม่ต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนต่างก็ทราบอยู่ ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้พูดเรื่องนี้กัน เพราะเกรงว่าจะมีการนำไปขยายความจนทำให้เกิดเรื่องได้
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังครบรอบ 11 ปีเหตุการณ์ตากใบ ว่า ทางเจ้าหน้าที่ก็ดูแลอยู่แล้ว ไม่อยากให้ไประบุว่าเป็นวันนี้ หรือวันใด ทางเจ้าหน้าที่พยายามแก้ไขทุกอย่างที่เกิดความผิดพลาดในอดีต ส่วนความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้นั้น ทางรัฐบาลก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนระดับท้องถิ่นและระดับเหนือขึ้นไป สำหรับกรณีที่มีการออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยเพื่อสันติสุข โดยอ้างว่า มาจากลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น เราอยากให้ทุกกลุ่มมาร่วมกันดูคุยด้วยทั้งหมด จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยทางเจ้าหน้าทีก็อยากทำให้เกิดความสงบและเกิดสันติสุขแท้จริงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ ยืนยันว่า เราไม่ได้กระทำการใด ๆ ที่บิดเบือนและพยายามดำเนินการให้ดีที่สุดและอยากให้ทุกกลุ่มมาร่วมมือกัน