รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ย้ำ ต้องสานสัมพันธ์ และสร้างความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน เน้นงานด้านการข่าวเรื่องสำคัญ เฝ้าระวังปัญหาที่มาจากโซเชียลมีเดีย พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมต้อนรับประชาชนในพื้นที่กลับมาเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐพัฒนาพื้นที่
วันนี้ (21 ธ.ค.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม ได้นำคณะ โดยมี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางไปประชุม และมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4
โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึงการทำงานของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ว่า ต้องพัฒนาสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือในระดับพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น และเน้นย้ำการประสานและบูรณาการทำงานร่วมกันในพื้นที่ให้เป็นหนึ่งเดียว สนับสนุนนโยบายประชารัฐของรัฐบาล ด้วยการสร้างความเข้าใจและให้ประชาชนมามีส่วนร่วมกับภาครัฐให้มากขึ้น โดยมองเป้าหมายที่ผลประโยชน์ของส่วนรวม และประเทศชาติ ขณะเดียวกัน ก็ให้เน้นงานด้านการข่าว ต่อปัญหาที่สำคัญ เช่น แรงงานต่างด้าว และการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ ยาเสพติด การลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งหัวหน้าหน่วยงานในทุกระดับของแต่ละส่วนราชการ ต้องนำขับเคลื่อนปฏิบัติอย่างเต็มกำลัง โดยกระทำทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาควบคู่กันไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ก็ต้องสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจต่อปัญหาความไม่มั่นคงในพื้นที่ โดยเฉพาะการติดตามเฝ้าระวังปัญหาที่มาจากโซเชียลมีเดีย และการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน พร้อมทั้งกล่าวย้ำถึงการทำงานของฝ่ายปกครอง และศูนย์ดำรงธรรมในพื้นที่ ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ ว่า ต้องทำงานเชิงรุกควบคู่กันไปและพยายามแก้ปัญหาให้ได้เบ็ดเสร็จในพื้นที่ เพื่อร่วมสร้างความเป็นธรรมและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชนในระดับพื้นที่ ให้ความสำคัญกับการดูแลและช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ขณะเดียวกัน ตำรวจในพื้นที่ ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และให้ความยุติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ ต้องเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้นเพื่อลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานต้อนรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จำนวนกว่า 1,000 คน ที่เคยมีความเห็นต่างกับนโยบาย และการทำงานของภาครัฐในอดีต โดยมีความเข้าใจในนโยบายรัฐบาลมากขึ้น จากความพยายามทุ่มเททรัพยากรของภาครัฐ และการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่รัฐที่ผ่านมา เห็นถึงความอดทน ความจริงใจ และความตั้งใจของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่พยายามใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา และต้องการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ จึงเห็นตรงกันว่า การใช้ความรุนแรงไม่มีประโยชน์ จึงรวมตัวกันและมีความประสงค์ที่จะกลับมาเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนส่วนใหญ่ในการพัฒนาพื้นที่ เพื่อการอยู่ร่วมกันของพี่น้อง ลูก และหลาน อย่างสันติสุข จึงถือเป็นสัญญานที่ดีของสันติสุขใต้ที่กำลังเกิดขึ้นและคาดว่าจะมีพี่น้องประชาชนที่เห็นต่างทยอยกลับมาร่วมพัฒนาพื้นที่เพื่อสันติสุขที่ยั่งยืนมากขึ้นตามลำดับ.