รัฐบาลนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโต้สื่อต่างชาติ ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนกล่าวหาไทยใช้แรงงานทาสแกะกุ้ง ยันดำเนินการเข้มงวด ดูแลแรงงานต่างชาติตามหลักสิทธิมนุษยชน ตรวจพบโรงงานทำผิดกฎหมายสั่งปิด ดำเนินคดีเจ้าของขั้นเด็ดขาดไปแล้ว ระบุภาพข่าวที่ออกมาสื่อเดินตามก้นเจ้าหน้าที่ขณะเข้าจับกุม ส่วนผู้เขียนไม่ได้ไปทำข่าว แต่ใช้ภาพมาบรรยายจนเสียหาย
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เช่น พล.ร.ท.จุมพล ลุมมิกานนม์ รองเสนาธิการทหารเรือ พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) นายทรงศักดิ์ สายเชื้อ อธิบดีกรมอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศ นายธีรพล ขุนเมือง โฆษกกระทรวงแรงงาน ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกี่ยวกับการใช้แรงงานทาสในไทย
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ข่าวที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันที่ 13-14 ธ.ค.ว่าประเทศไทยมีการค้าแรงงานทาสในโรงงานแกะกุ้ง เจ้าหน้าที่ของรัฐเพิกเฉย และเหตุที่ไทยส่งออกกุ้งเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะใช้แรงงานเถื่อนที่มีต้นทุนต่ำนั้น รัฐบาลไม่อยากขัดแย้งกับสำนักข่าวใดๆ แต่ถ้ามีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนจนส่งผลกระทบในวงกว้างก็ต้องขอความเป็นธรรม เพราะข้อเท็จจริงตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามามีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคเอกชน ข้าราชการ
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า การจะเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ มีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ต้นทุนต่ำอย่างเดียว ส่วนที่มีการรายงานถึงสามีภรรยาชาวพม่าที่ไม่ได้รับการดูแล ข้อเท็จจริงแล้วมีแรงงานต่างชาติในประเทศไทยกว่า 3 ล้านคน อย่าเอาคนไม่กี่คนมาเหมารวม อีกทั้งการรายงานข่าวทำเสมือนสิ่งที่เกิดเพราะสื่อไปเจอแล้วทำให้เจ้าหน้าที่ตามไป ข้อเท็จจริงเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่แล้วมีสื่อติดตามไปด้วย และทราบว่าผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวดังกล่าวไม่ได้ลงพื้นที่ด้วยตนเอง จึงขอความเป็นธรรมในส่วนนี้ด้วย
ส่วนภาพข่าวที่มีเด็กอยู่ด้วยนั้นถือเป็นวิถีชีวิตของคนเอเชียในการร่วมกันทำงานในครอบครัว บางคนไม่มีผู้ดูแลบุตรจึงต้องมาในที่ทำงานด้วย แต่จากนี้จะควบคุมให้เป็นไปตามหลักสากลเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และบริษัทเอกชนรายใหญ่ได้มีการตอบรับและจะกำชับโรงงานรายย่อย ให้ใช้หลักการเดียวกันไม่ให้มีเด็กเข้ามาอยู่ในโรงงาน อาจจะมีการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับเด็กให้มีการพัฒนาตามช่วงวัยที่เหมาะสมโดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป
ด้าน พล.ร.ท.จุมพลกล่าวว่า ข่าวที่ออกมาเป็นการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 9 พ.ย.มารายงาน โดยสิ่งที่หยิบออกมาคือการใช้แรงงานทาส มีการกักขัง มีการขายทอดตลาด เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการจริงจัง ขอชี้แจงว่าภาพข่าวที่ออกมาเกิดจากการดำเนินการอย่างจริงจังของเจ้าหน้าที่ และวันที่ 9 พ.ย.ถือเป็นวันดีเดย์ที่ชุดเฉพาะกิจ 25 ชุด ลงพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล ลงพื้นที่ในการแก้ปัญหา หลังจากสหภาพยุโรป ขอให้ไทยดูแลเรื่องการใช้แรงงานผิดกฎหมาย หลังพบการใช้แรงงานไม่ถูกต้องในเดือน ต.ค.
ส่วนที่ระบุว่าแรงงานถูกสั่งให้ยืนทั้งวันนั้น ภาพข่าวที่ออกมาเป็นการนั่งแกะกุ้ง ภาพในห้องขัง เหมือนต้องการสื่อว่าแรงงานถูกกักขัง แต่ที่จริงเป็นภาพตอนคัดแยกผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการดำเนินการอย่างจริงจังนี้ เราได้ตั้งเป้าหมายตรวจสอบโรงงาน 125 โรงงานและตรวจสอบไปแล้ว 101 โรงงาน ทำให้ขณะนี้โรงงานที่ดำเนินการผิดกฎหมายลงน้อยลง อย่างในพื้นที่ จ.ชุมพร ที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรมีการเรียกรับผลประโยชน์นั้นได้มีการสั่งย้ายออกจากพื้นที่ทันที แสดงให้เห็นถึงความจริงจัง ดังนั้นจึงขอความยุติธรรมแก่คนทำงานทั้งบนบกและในทะเล ทุกส่วนเราบูรณาการกัน ถ้ามีข้อมูลข่าวสารใดต่อการทำงาน นี่เป็นผลประโยชน์ของชาติโดยรวม ขอให้ช่วยกันปกป้องในสิ่งที่ทำด้วยความถูกต้องด้วย ขออย่านำภาพข่าวเพียงส่วนหนึ่งไปขยายในทิศทางที่ผิด
ด้าน พล.ต.ต.กรไชยกล่าวว่า จากเหตุการณ์วันที่ 9 พ.ย. ได้ช่วยเหลือเหยื่อจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบผู้ไม่มีเอกสารเข้าเมือง 19 คน แรงงานต่ำกว่า 18 ปี 10 คน และบุคคลที่เป็นข่าวอีก 2 คนซึ่งขณะนี้อยู่ในการดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ได้มีการสั่งปิดโรงงานและจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังโดยตั้งข้อหาหลายข้อหาด้วยกัน ยืนยันจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด โดยแน่นย้ำการป้องกันและปราบปราม
ขณะที่นายธีรพลกล่าวว่า กระทรวงแรงงาน เน้นการนำแรงงานเข้าระบบ เพื่อจะให้แรงงานได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศต้นทางด้วย ส่วนค่าแรงนั้น ยืนยันว่าได้รับตามข้าแรงขั้นต่ำ แต่ต้องยอมรับในข้อเท็จจริงที่บางส่วนอาจมีการตกลงกับนายจ้างในการแบ่งปันรายได้ที่ได้มาในแต่ละรอบของการออกทะเล และหากมีการร้องเรียนเข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าดูแล หากมีความผิดก็ต้องดำเนินการ ไม่ใช่ไกล่เกลี่ยเพียงอย่างเดียว
นายทรงศักดิ์กล่าวว่า หลังจากมีข่าวออกมากระทรวงการต่างประเทศได้มีการแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ารัฐบาลมีความยึดมั่นแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ และแรงงานประมง มีการประสานกับผู้ประกอบการต่างๆ เอ็นจีโอและภาคเอกชนถึงมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล และมีความคืบหน้าตามลำดับซึ่งได้ชี้แจงรัฐสภาของสหรัฐฯ และยุโรป และเอ็นจีโอไทยอย่างต่อเนื่อง