รอง ผบ.ตร.นำตำรวจ ปคม. ทหารและฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบโรงงานค้าทาสใน อ.มหาชัย ที่ถูกสื่อต่างประเทศตีข่าวว่ามีการค้าแรงงานเด็กชาวพม่า ยันสำนวนทางคดีคืบหน้าไป 80 เปอร์เซ็นต์ จ่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องเพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ประเทศ
วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจ ภูธร จ.สมุทรสาคร พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เดินทางเข้าร่วมประชุมแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.ภจ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม.ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.สมุทรสาคร กรมจัดหางาน จ.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สมุทรสาคร เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับมอบนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้มาดูเรื่องแรงงานค้าแรงทาสใน จ.สมุทรสาคร โดยวันนี้ได้มาประชุมเร่งรัดในคดีใช้แรงงานทาสแกะกุ้งในโรงงานเลขที่ 209/13 ถ.เดิมบาง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังเจ้าหน้าที่สืบสวนสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าช่วยเหลือแรงงานเด็กชาวพม่า 18 ราย ที่ถูกกักขังและบังคับใช้แรงงานโดยไม่มีวันหยุด อีกทั้งยังจ่ายเงินค่าจ้างต่ำกว่าที่กฏหมายกำหนดเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากมาเร่งรัดทางคดีแล้วยังหารือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้ง อุตสาหกรรมจังหวัด กรมจัดหางาน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในเรื่องใบอนุญาตสถานประกอบการ สวัสดิการต่างๆ ของแรงงาน สุขลักษณะของโรงงาน เนื่องจากทางตำรวจไม่ได้มีอำนาจในดรื่องดังกล่าว เรามีหน้าที่เรื่องกฎหมายการค้ามนุษย์เท่านั้น ไม่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนี้จึงขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือป้องกันเหตุต่อไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า หลังกรณีบุกจับโรงงานแกะกุ้งที่เป็นข่าวออกไปตามสื่อต่างประเทศทำให้ประเทศเราที่ถูกจับตามองเรื่องค้ามนุษย์อยู่แล้วก็ยิ่งตกต่ำลง ทางรัฐบาลซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวก็ได้สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้ามาดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งในทางคดีก็ได้เร่งรัดให้ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้คืนกลับมา
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวซึ่งพบว่าได้ปิดไปแล้ว แต่ยังมีคนเฝ้าอยู่ไม่กี่คน โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า สำนวนในคดีดังกล่าวคืบหน้าไป 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่พิจารณาดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติมทั้งเรื่อง พ.ร.บ.อาคาร การบุกรุกที่สาธารณะและเรื่องสาธารณสุขด้วย
ด้านนายแมนรัตน์กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ดูแลและตรวจสอบเรื่องการค้ามนุษย์ โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ รอง ผบ.ตร.มาให้คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการป้องกันปราบปรามเรื่องค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตาม การค้ามนุษย์ลักษณะค้าทาสยังไม่ได้รับรายงานว่ามีในพื้นที่ อ.มหาชัย
ส่วน พล.ต.ต.กรไชยกล่าวว่า จากการตรวจสอบโรงงานที่เป็นข่าวนั้นไม่พบว่ามีการกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือบังคับแรงงานเหมือนทาส เพราะดูจากลักษณะของโรงงานที่อยู่ใกล้ชุมชน และประตูเข้าออกก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือแน่นหนาตามที่สื่อนอกระบุ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องค้ามนุษย์มนุษย์เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย