xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” นำยื่น 19 ข้อ กรธ.แก้โกง “มีชัย” ส่อตัด ป.ป.ช.จว.-ดึงเรื่อง ป.ป.ท.คืนได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปธ.กมธ.ขับเคลื่อนป้องกันทุจริต นำคณะเข้ายื่นข้อเสนอปราบโกง “มีชัย” 19 ข้อ ครอบคลุมเรื่อง ปชช. นักการเมือง การพิจารณาคดี องค์กรอิสระ ให้ภาครัฐเปิดเผยข้อมูล ฝ่ายค้านเป็น ปธ.กมธ.ตรวจสอบทุจริต กรธ.แย้มตัด ป.ป.ช.จังหวัด เหตุแทรกแซงง่าย ปรับ ป.ป.ช.ใช้ กม.ลูก ให้สิทธิดึงเรื่องกลับจาก ป.ป.ท.มาทำต่อหากทำงานไม่เต็มที่

วันนี้ (18 ธ.ค.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พร้อมด้วยนายประมนต์ สุธีวงศ์ ที่ปรึกษา กมธ., นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ เลขานุการ กมธ. และนายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา โฆษก กมธ. เข้ายื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบเพื่อบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยมีเนื้อหาของข้อเสนอ คือ 1. ประชาชนมีหน้าที่ป้องกัน ปฏิเสธ และต่อต้านการทุจริต ประพฤติมิชอบและถือว่าประชาชนเป็นผู้เสียหายในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 2. ให้สิทธิประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ติดตามและร้องขอให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานรัฐ และเจ้าหน้าที่รัฐ โดยสิทธิดังกล่าวต้องไม่ถูกจำกัดเว้นมีกฎหมายบัญญัติ 3. จัดให้รัฐมีกลไกป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ และให้การบริหารราชการแผ่นดินต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 4. กำหนดให้องค์กรที่ใช้อำนาจรัฐหรืองบประมาณต้องเปิดเผยแผนดำเนินงานประจำปีงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง ต่อสาธารณะ 5. ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกระดับ และผู้เข้ารับการสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องแสดงสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ย้อนหลัง 3 ปี หากไม่แสดงหรือแสดงเป็นเท็จให้ถือว่าพ้นสมาชิกภาพทางการเมือง ทั้งนี้ต้องเปิดเผยรายการดังกล่าวให้สาธารณะรับทราบ

6. ห้ามผู้ที่ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายว่าทำทุจริต ประพฤติมิชอบ ทำการเลือกตั้งไม่สุจริต หรือร่ำรวยผิดปกติ รวมถึงบุคคลที่เคยถูกปลดออก ไล่ออก หรือออกจากราชการเนื่องจากกระทำทุจริต กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือร่ำรวยผิดปกติ ลงสมัครรับเลือกตั้หรือเข้ารับการสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง 7. ห้าม ส.ส.นำงบประมาณที่เหลือจากการแปรญัตติไปจัดสรรเป็นงบของ ส.ส. 8. เว้นเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส.ระหว่างสมัยประชุม กรณีเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาเกี่ยวกับการทุจริต ประพฤมิชอบหรือคดีความผิดเกี่ยวกับทุจริตเลือกตั้ง 9. ให้สิทธิ ส.ส.ฝ่ายค้านเป็นประธาน กมธ.ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต และติดตามงบประมาณภาครัฐ

10. ให้มีศาลชำนัญพิเศษคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยใช้ระบบไต่สวน และสามารถอุทธรณ์ได้ 11. ให้สิทธิผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐใช้จ่ายเงินแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายแต่รัฐอย่างร้ายแรง 12. ต้องเปิดเผยระบบสรรหากรรมการองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ 13. ให้ ป.ป.ช.มีวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี และมีอำนาจไต่สวนและวินิจฉัยคดีทุจริตต่อหน้าที่หรือร่ำรวยผิดปกติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการระดับ 10 ขึ้นไป พร้อมกำหนดะระยะเวลาไต่สวนอย่างไม่ล่าช้า 14. กำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นอิสระและทำงานร่วมกับ ป.ป.ช.อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 15. สร้างกลไกที่บูรณาการการทำงานขององค์กรที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และอค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐ 16. การตรวจสอบคดีทุจริตต้องกำหนดระยะเวลาไต่สวนข้อเท็จจริงและฟ้องดำเนินคดีโดยเร็ว 17. ให้เขียนบทบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในรัฐธรรมนูญตามแนวทงที่กำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน 18. ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนยุติธรรมไม่เป็นที่ปรึกษาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ และ 19. ให้มีการปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติชอบอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะของนายปานเทพยื่นข้อเสนอ ได้ร่วมพูดคุยกับนายมีชัยต่อแนวทางที่เขียนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายมีชัยระบุว่า ในเนื้อหาเตรียมจะกำหนดไม่ให้ ป.ป.ช.ประจำจังหวัด เพราะมีข้อมูลพบว่า ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนั้นมีการแทรกแซงได้ง่าย ขณะที่การปรับการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น ยอมรับว่าในร่างรัฐธรรมนูญนั้นไม่สามารถจะบัญญัติเนื้อหาไว้ทั้งหมดได้ ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะนำไปบัญญัติส่วนของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ที่ กรธ.จะยกร่างขึ้นใหม่ หลังที่รัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ นอกจากนั้นแล้วในส่วนของ ป.ป.ท.นั้นตามที่มีผู้เสนอ คือให้ย้ายสังกัดไปอยู่ในส่วนสำนักนายกฯ แทนสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ แต่มีทักท้วงว่าสำนักนายกฯ และกระทรวงยุติธรรมถือมีผู้กำกับที่มีสถานะเป็นฝ่ายการเมือง ดังนั้นกังวลว่าการทำงานจะไม่มีประสิทธิภาพได้ จึงมีผู้เสนอให้นำ ป.ป.ท.ไปเป็นส่วนหนึ่งของ ป.ป.ช. เพราะตามบทบาทถือว่ามีความคล้ายคลึงกันคือตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ

“ส่วนประเด็นของ ป.ป.ท.ที่อาจพบว่าทำงานไม่เต็มที่ เรื่องที่เสนอให้ตรวจสอบแต่กลับดึงเรื่องไว้ จะให้สิทธิ ป.ป.ช.นำเรื่องกลับมาทำได้ เพื่อแก้ปัญหา” นายมีชัยระบุ












กำลังโหลดความคิดเห็น