นายกฯ เปิดทำเนีบรับ “ฮุน เซน” พร้อมคณะเยือนไทย พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระดับทวิภาคีและพหุภาคี ครอบคลุมทั้งด้านมั่นคง ศก. สังคม ขับเคลื่อนการเติบโตและความเจริญสองชาติและประชาคมอาเซียน มีกำหนดจัดแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 65 ปีความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
วันนี้ (18 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา ที่เกี่ยวข้อง เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองรองนายกรัฐมนตรี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ส่วนรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกัมพูชา ได้แก่ นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา นายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีกัมพูชา พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะ ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาที่ครบ 65 ปี บนพื้นฐานของการพึ่งพาและผลประโยชน์ร่วมกัน และพร้อมที่จะยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนต่อไป และขอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอบคุณการต้อนรับอันอบอุ่นและกล่าวแสดงความซาบซึ้งและพร้อมถวายการต้อนรับและเข้าเฝ้าฯ ด้วยตนเอง ในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เพื่อทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสถาบันเทคโนโลยีพระราชทานที่จังหวัดกัมปงสปือและเยี่ยมชมโครงการพระราชทานของพระองค์ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและวิชาการพระราชทานความช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ ที่ของกัมพูชาตลอดระยะเวลาผ่านมา
ด้านความสัมพันธ์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 65 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกัมพูชา รวมถึงภาคประชาชนจะร่วมกันจัดกิจกรรมและการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยจะมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้แทนพิเศษนายกรัฐมนตรีร่วมงาม โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้มีถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลนัดดังกล่าวทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อร่วมเป็นสัญลักษณ์ความผูกพันระหว่างประชาชนของสองประเทศร่วมกันด้วย
ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาเห็นชอบร่วมกันในการผลักดันเป้าหมายขยายปริมาณมูลค่าการค้าและการลงทุนของสองประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันทั้งสองประเทศมีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 5,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ โดยจะเชื่อมโยงกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.สระแก้ว-จ.บันเตียเมียนเจย การอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรและการเพิ่มปริมาณการเดินรถ การเชื่อมโยงทางบกและเส้นทางรถไฟ เพื่อมีส่วนผลักดันให้ปริมาณการค้าสินค้าของสองประเทศเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนของทั้งสองฝ่าย แสวงหาลู่ทางลงทุนเพิ่มในแต่ละประเทศด้วย
ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนกัมพูชาส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคร่วมกัน ในลักษณะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน ในลักษณะ package tour และ long stay เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของภูมิภาค ซึ่งในขณะนี้ ไทยยังได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่งระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ทั้งท่าเรือ และท่าเรือสำราญ เพื่อรองรับการเติบโตการท่องเที่ยวทางทะเลที่เพิ่มขึ้น
ด้านพลังงาน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวขอบคุณไทยที่ให้ไฟฟ้าให้กับกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึง ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีก็ขอให้กัมพูชาพิจารณาแบ่งปันทรัพยากรน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ
ด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรียินดีที่จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานและข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานไทย-กัมพูชา ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เนื่องจากบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงทั้งสองฉบับนี้ จะช่วยยกระดับความร่วมมือที่ไทยกับกัมพูชามีต่อกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่าง ไทยและกัมพูชายืนยันที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและต่อต้านกระบวนการค้ามนุษย์ โดยจะเร่งรัดการขึ้นทะเบียนแรงงานถูกกฎหมาย เพื่อให้แรงงานกัมพูชาได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทยโดยสมบูรณ์
ความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนและพหุภาคี นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชายินดีที่ไทยและกัมพูชากำลังจะมุ่งหน้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว และหวังว่าภายหลังจากเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนไทยกับกัมพูชาจะมีความร่วมมือร่วมกันมากยิ่งขึ้นในทุกๆ ด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการเชื่อมโยงต่อไป ทั้งนี้ ความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ประชาคมอาเซียน
ด้านการเกษตร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร รวมทั้งการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค้าและเชื่อมโยงกับตลาดสินค้า ขณะเดียวกัน ก็เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสินค้าเกษตรที่ยังมีปัญหาระหว่างกัน
ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ นายกรัฐมนตรีได้เสนอที่จะฝึกอบรมบุลากรด้านสาธารณสุขแก่กัมพูชา พร้อมจะศึกษาการจัดสรรทุนแพทย์แก่กัมพูชา เพื่อประโยชน์ในด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาปัจจุบันนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดียิ่งตลอดระยะเวลา 65 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน เพิ่มการค้าและการลงทุน รวมทั้งการพัฒนาในมิติต่างๆ ภายใต้แนวคิดและนโยบาย Thailand + 1 เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในภูมิภาคเพิ่มขึ้น โดยอาเซียนกำลังจะกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 600 ล้าน โดยไทยจะร่วมมือกับกัมพูชาในลักษณะเกื้อกูลส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับไทย กัมพูชา และประชาคมอาเซียนร่วมกัน