ศรีสะเกษ - ทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ กัมพูชาลงพื้นที่ “ช่องสะงำ” หารือผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ-ผู้ว่าฯ อุดรมีชัย เพื่อศึกษาสภาพพื้นที่ และเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยมจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา รับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
วันนี้ (12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา และคณะเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยได้เดินทางมาประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ประเทศ ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตไทยได้เดินทางมาศึกษาพื้นที่ และเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ในระหว่างวันที่ 10-15 ก.ย.2558
ทั้งนี้ เพื่อศึกษาสภาพพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดน และเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อไทย-กัมพูชา และหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับส่วนราชการ เรื่องการค้า การท่องเที่ยว ของจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งใช้โอกาสในการเดินทางดังกล่าวนี้จัดกิจกรรมกงสุลสัญจรเยี่ยมคนไทย และสถานประกอบการของไทยในกัมพูชา
นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ตนมารับตำแหน่งที่ประเทศกัมพูชา 8 เดือนแล้ว และเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ได้พบกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้ชายแดนไทย-กัมพูชา ระยะทาง 800 กม. เป็นชายแดนมิตรภาพ นำไปสู่ความร่วมมือที่ดีต่อกัน อย่าให้ปัญหาเส้นเขตแดนเป็นอุปสรรคในการพัฒนาตามแนวชายแดน เราต้องหาวิธีร่วมมือกันพัฒนาเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนทั้ง 2 ชาติ
อยากเห็นผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ร่วมมือกันในการพัฒนา การทำงานร่วมกันให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในวันที่ 19 ธ.ค.2558 สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาจะนำคณะรัฐมนตรีกัมพูชาไปประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีของไทย นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยอย่างเป็นทางการที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้มีการประชุมพิจารณาอนุมัติให้เปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา เพิ่มขึ้นอีก 4 จุดแล้ว
และในวันที่ 22-24 ก.พ.2559 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจะเป็นการฉลองความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ครบรอบ 65 ปีอีกด้วย
นายซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย กล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชาจะขออนุญาตวางตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาที่ช่องสะงำ โดยจะมีการสร้างห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้บริการนักท่องเที่ยว ขอให้เอกอัครราชทูตไทยไทยช่วยผลักดันในเรื่องนี้ด้วย และหากมีการจับกุมชาวกัมพูชาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ส่งตัวชาวกัมพูชากลับหากว่าไม่ผิดกฎหมายอาญาอื่นใดของไทย
อีกทั้งขณะนี้ฝ่ายกัมพูชาได้ขอซื้อกระแสไฟฟ้าจากไทยจึงขอให้เร่งพิจารณาอนุมัติ และในวันที่ 3-4 พ.ย.2558 นี้ จ.อุดรมีชัย จะจัดงานแข่งเรือ จึงขอเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำเรือไปแข่งขัน และร่วมงานนี้ด้วย เพื่อมิตรไมตรีที่ดีต่อกันจะทำให้ประชาชนทั้ง 2 ชาติ ได้รู้จักกันมากกว่าเดิม ซึ่งเอกอัครราชทูตไทยรับว่าจะนำไปหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าด้วยว่า หลังจากการประชุมร่วมกันเสร็จแล้ว นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อสำรวจเส้นทางการค้า การท่องเที่ยว เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปลายปี 2558 นี้