xs
xsm
sm
md
lg

มหากาพย์สาวไส้ ปชป. เกมชิงอำนาจ “มาร์ค-เทือก”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ป้อมพระสุเมรุ 

ยามศึกเราไม่ร่วมรบ แต่ยามสงบเรารบกันเอง คือคำเปรียบเปรยที่เหมาะสมกับสถานการณ์ภายใน “พรรคประชาธิปัตย์” ในยามนี้ได้อย่างดี เพราะมีแต่เรื่องอีรุงตังนังฟัดกันเองแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น

“ชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดนเป็นเหยื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมเป็นเป้านิ่งที่ “แก๊ง 2 ว.” วัชระ เพชรทอง-วิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.ปชป. เด็กในคาถา “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เปิดไฟเขียวให้ออกมาเรียงคิวถล่มรายวัน

พร้อมทำตัวเป็นเด็กดี ส่งหนังสือเรียกร้องให้ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (คสช.) ช่วยปลดล็อกให้เรียกประชุมพรรคการเมือง เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้

แต่รู้เกม-รู้เหลี่ยมกันดีว่า งานนี้ “เดอะมาร์ค-ผองเพื่อน” หวังผลแยบยลยึดพรรคไว้ในอุ้งมือ ไม่เปิดโอกาสให้ “มือที่มองไม่เห็น” แต่รู้กันดีในพรรคว่า “ใคร” เข้ามาแทรกแซงการบริหารงานของ “เดอะมาร์ค” ได้

ตามเกมที่ “ขุนทหาร” ก็ยังไม่แน่ใจในโรดแมปว่าจะอยู่ต่อได้นานอีกเท่าไร แถมยังเผื่อใจว่า ต้องลงสนามเลือกตั้งตามโรดแมปเดิมที่วางไว้ หากจะให้ “เดอะมาร์ค” เรียกประชุมพรรคตามแผนที่เคยวางกันไว้กับ “คนรู้ใจ” อาจจะพังลงได้

ข้อเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะพ่วงให้ คสช. หาช่องทางผ่อนปรนให้ แต่ฟันธงได้เลยว่างานนี้ คสช.ไม่เอาด้วยกับ “ค่ายสีฟ้า” เด็ดขาด เพราะเคลียร์ทางให้ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน ปฏิบัติการยึด “ปชป.” มาเป็นอะไหล่ชั้นดีให้ได้

อีกทางหนึ่ง คสช.รู้ดีว่า หากอนุญาตตามที่พรรคประชาธิปัตย์ขอ ก็จะไปเข้าทาง “ขั้วตรงข้าม” อย่างพรรคเพื่อไทย ที่จ้องจะประชุมลูกพรรค เพื่อสร้างบรรยากาศการเมืองให้กลับมาอีกครั้ง แถมยังเกรงว่า “นช.แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร จะสบช่องมาแสดงบทบาทนำใน “ค่ายสีแดง” ให้เห็นอีก

คสช.ก็ต้องเพลย์เซฟไว้ก่อน เลือกเกมเดิม คือ ไม่ให้มีการประชุมพรรคเพื่อดำเนินการกิจกรรมการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะห้ามไว้ได้นานเท่าไรยิ่งดีต่อ คสช.-ขั้วทหาร เพราะเงินทุนในพื้นที่จะไม่ได้กลับมาอู้ฟู้เหมือนเก่าก่อน
 
ทำให้ “ปชป.สายเดอะมาร์ค” ต้องขย่มเล่นเกมแรงใส่ “ชายหมู” เพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่อง“ท่อน้ำเลี้ยง” ที่เหือดแห้งขาดส่งมานานของ กทม. และยังระแคะระคาย “ชายหมู” ที่มีชื่อเป็นตัวเต็ง ที่ “ลุงกำนัน” จะหยิบขึ้นมานั่งหัวหน้าพรรคแทน หากยึดอำนาจโค่นบัลลังก์ “พี่มาร์ค” ลงได้

เพื่อเปิดสงครามกับทำลายล้างผู้ไม่หวังดี ทีมงาน “เดอะมาร์ค” จึงพุ่งเป้าที่ “ชายหมู” เล่นแรงถึงขั้นแฉกันรายโครงการ จากแฉเบาะๆ ว่ามี “รองผู้ว่าฯกทม.” ใช้งบฟุ่มเฟือยเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง ล่าสุดมาถึง “ข้อหาหนัก” ที่กล่าวหา กทม.ทุจริตในการจัดหาเครื่องดนตรี กับ “บริษัทดนตรียักษ์ใหญ่”

ตรงนี้ “เฮียวิลาศ” จัดหนักไล่เรียงถี่ยิบตั้งแต่ริเริ่มโครงการเมื่อปี 2551 จนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งในช่วงต้นของโครงการนี้อยู่ในยุค อภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง แต่พอเริ่มเข้าสู่ยุค “ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์” ก็มีความผิดปกติเกิดขึ้น โดยมีการขออนุมัติงบประมาณจำนวนมาก อ้างเป็นงบผูกพัน ในการจัดซื้อ “เครื่องดนตรี” ให้แก่โรงเรียนในสังกัด กทม. รวมแล้วมากว่า 1,300 ล้านบาท

เครื่องดนตรีที่ว่าก็ประกอบไปด้วย เปียโน คีย์บอร์ด กีตาร์อะคูสติก กีตาร์ไฟฟ้า พร้อมแอมป์ กีตาร์เบสพร้อมแอมป์ และกลองชุด เป็นต้น ซึ่งแต่ละชนิดเป็นเครื่องดนตรีราคาแพง และต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการฝึกสอน จึงมีคำถามว่า โรงเรียนในสังกัด กทม.มีความพร้อมแล้วหรือ ??

ที่สำคัญซื้อให้แต่ละโรงเรียนเป็นสิบๆ ชิ้น จนปัจจุบันโรงเรียนในสังกัดกทม.มี “เปียโน” ในครอบครองครบทุกโรงเรียน รวมแล้ว 437 หลัง

เรื่องก็มาถึงบางอ้อ เมื่อ “เฮียวิลาศ” แฉต่อไปอีกว่า นอกจากตั้งงบเพื่อจัดซื้อเครื่องดนตรีโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังมีการตั้งงบเป็น “ค่าอบรบครูผู้สอน” อีกหลักร้อยล้านบาท ต่อปีด้วย ตรงนี้เองที่กลายเป็น “ใบเสร็จ” และคำสารภาพในตัว ถึงความไม่พร้อมของโรงเรียนในสังกัด กทม. ก็เท่ากับว่าซื้อเครื่องดนตรีมาเก็บไว้ให้ฝุ่นจับเล่นๆ ในระหว่างที่รออบรมครูผู้สอน ไม่เท่านั้นยังไม่พอ ในสัญญายังมีค่าบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ดนตรีปีละ 20,000 บาทต่อโรงเรียนทุกปี อีกต่างหาก

ส่วนเรื่อง “หัวคิว” อันนี้น่าจะไม่พลาด อย่าง “กลองชุดไฟฟ้า” ที่ กทม.สั่งซื้อ ระบุราคาไว้ที่ 65,000 บาทต่อชุด “เฮียวิลาศ” ก็ไม่รอช้าลงพื้นที่สำรวจตลาดทันที ได้ความว่า กลองชุดยี่ห้อเดียวรุ่นเดียวกันเมื่อซื้อที่ร้านทั่วไปใช้เงินเพียง 38,400 บาท หากซื้อในจำนวนมากก็จะได้ส่วนลดอีกต่างหาก
 
จน “เฮียวิลาศ” ต้องถามว่า มูลค่าที่หายไปกว่าครึ่ง แปลสภาพเป็น “เงินทอน” หรืออย่างไร

พอเรื่องนี้แดงขึ้นมา “ผู้ว่าญสุขุมพันธุ์” ก็ใช้ท่าไม้ตาย ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว แถมสั่งการไม่ให้คนใน กทม.ตอบโต้กรณีดังกล่าวด้วย ผิดวิสัยคนที่ถูกกล่าว แบบนี้ท่าจะทะแม่งๆอยู่นะ “ชายหมู”

ดูโหงวเฮ้ง “ชายหมู” เหมือนคนดวงตก ความวัวยังไม่หาย ความควายก็มาทันที เรื่องเครื่องดนตรียังไม่เคลียร์ ก็มีกรณีจ้างบริษัทเอกชนเช่ารถเก็บขยะมูลฝอยและรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ จำนวน 12 สัญญา รวมวงเงินกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งพบว่า “บ.เอกชน” รายดังกล่าวแจ้งจดทะเบียนที่ตั้งเดียวกับ “อีกบริษัท” ซึ่งเคยรับงาน กทม.มาแล้วหลายครั้ง วงเงินหลายร้อยล้านบาท
 
“ชายหมู” จึงโดนตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงเลือกใช้งานในบริษัทที่มีความซ้ำซ้อนกันอยู่

ข้อพิรุธของ “ชายหมู” ถูก “แก๊ง 2 ว.” ขยายปมร้อนต่ออย่างแน่นอน เพราะมี “เดอะมาร์ค” คอยหนุนหลังอยู่ให้ใส่เกียร์ 5 ถล่มได้เต็มที่ ไม่ต้องไว้หน้าใครทั้งสิ้น
 
จนนำมาสู่ข่าวลือที่ว่า “ลุงกำนัน” ที่เคยอุ้มชู “ชายหมู” จนได้เป็นผู้ว่าฯเมืองหลวง 2 สมัย พยายามต่อสายไปถึง “แก๊ง 2 ว.” เพื่อขอเคลียร์ข้อกล่วหาให้ “ชายหมู” ป้องกันไม่ให้คนที่ “ลุงกำนัน” จะดันขึ้นกุมบังเหียน “พรรคสีฟ้า” ต้องมีจุดด่างพร้อย

แต่ความพยายามของ “ลุงกำนัน” ดูจะเสียแรงเปล่า เมื่อ “ว.วิลาศ” รับสายโทรศัพท์ในฐานะคนคุ้นเคยกัน แต่ปฏิเสธที่จะทำตามที่ “ลุงกำนัน” ได้บอกกล่าว เพราะอย่าลืมว่า “วิลาศ” คือสายตรงของ “เดอะมาร์ค” หากเลือกเล่น 2 หน้า อาจจะเป็น“หมาหัวเน่า” ได้

ส่วน “ว.วัชระ” รู้งานตัดปัญหาไม่อยากให้ “เดอะมาร์ค” ต้องขับข้องใจ ไม่รับโทรศัพท์จาก “ลุงกำนัน” ส่งสัญญาณชัดเจนว่าเลือกข้างแล้ว

สถานภาพของ “ลุงกำนัน” ที่เคยคิดว่าคุมเกมใน “ค่ายสีฟ้า” อยู่ จึงยิ่งลำบากเข้าไปอีก “เด็กในคาถา” ก้เข้าขั้นโคม่า รอเพียงอาณัติสัญญาณ “ถีบหัวส่ง” อย่างเป็นทางการเท่านั้น ขณะที่แผนการยึดพรรคก็ต้องชะลอไปก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะพยุง “ชายหมู” ให้มีที่ยืนในพรรคให้ได้เสียก่อน

ตอนนี้ก็อยู่ที่ขนาดหัวใจของ “พี่มาร์ค” ว่าจะใจถึงพอจะเฉือนเนื้อร้ายออกไปได้เมื่อไร ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกระแสข่าวว่า หลังงานมงคล 5 ธันวาคม ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะมีแถลงการณ์ตัดเยื่อใยกับ “ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์” เพื่อกู้ศรัทธาคนกทม. ที่มีต่อพรรค หลังเจอฤทธิ์ “ชายหมู” จนมองหน้าคนกรุงไม่ติด แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไร้ความเคลื่อนไหวจาก “พี่มาร์ค” 
 
ออกรูปนี้ "คุณชายหมู" ก็ยึด “เสาชิงช้า” นั่งจิบไวน์ชิลชิล สบายใจเฉิบ ส่วน “พี่มาร์ค” ก็ได้แต่ “หงอ”ต่อไป

กลายเป็น "เสี่ยโย่ง" องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแล กทม. ที่ออกมารับไม้ต่อ แต่ก็ดัน “หน่อมแน้ม” ไม่เด็ดขาดเหมือนกัน วันก่อนนัดนักข่าวแถลงที่พรรค นึกว่าจะประเด็นใหญ่โต สุดท้ายแค่ทวง คสช. เรื่องที่ร่อนจดหมายไปขอเปิดประชุมพรรค 
 
แถมมีข่าวเมาท์สนั่น "ศาลาเสาชิงช้า" ว่า หลังจากที่ "พ่อมาร์ค" ถูก "หม่อมหมู" ปฏิเสธการเคลียร์ใจกันถึง 2 ครั้ง ก็ส่ง "เสี่ยโย่ง" บุกไปถึงศาลาว่าการกทม. แต่กลับถูก "ผู้ช่วยคนสวย" ไล่ตะเพิด เพราะไปรบกวนขณะที่"ชายหมู" ติดภารกิจอยู่อยู่ในห้องทำงาน

ถือเป็นสัญญาณตัดขาดจากทาง “ชายหมู” ไปโดยปริยาย ไม่น่ามีอะไรค้างคาใจ

นาทีนี้ “พี่มาร์ค” ควรจะขยับให้ได้น้ำได้เนื้อ มากกว่ากอดหลักการ โชว์ความหล่อ แต่รับประทานไม่ได้อยู่แบบนี้ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า “ลุงกำนัน” ก็ยังไม่ได้พับโครงการยึดพรรค เพียงแต่ซอยเท้ารอจังหวะเข้าตีมากกว่า หาก “พี่มาร์ค” ยังแสดงให้เห็นถึงความไร้ภาวะผู้นำ จนแม้แต่คนในพรรคยังเอือมระอา ก็อาจจะเป็นช่องทางให้ข้าศึกเข้ามาโจมตีได้
 
สุดท้ายจะกลายเป็น “พี่มาร์ค” เองที่จะไม่มีที่ยืนในพรรค ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ ก็อาจไม่มีที่ยืนในกทม.ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น