“โฆษกรัฐบาล” ยัน พ.ร.บ.จีเอ็มโอ ยังยึดหลักห้ามผลิตพืชจีเอ็มโอในไทย หากทำวิจัยต้องควบคุมพื้นที่ ส่วนร่างกฎหมายที่ออกมาทำเพื่อควบคุมการตัดต่อพันธุกรรม แต่ต้องปรับปรุงแก้ไขดึงทุกฝ่ายร่วมถกผ่าน สนช. หากไม่ดีจริงคงไม่ผ่าน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ออกมาคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความปลอดภัยทางชีวภาพและเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ พ.ศ. ... ว่า ที่ ครม.เห็นชอบในการหลักการส่วนรวมว่าเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการควบคุมในเรื่องของการตัดต่อพันธุกรรม ทั้งในพืชและสัตว์ วัตถุประสงค์หลักของ พ.ร.บ.ฉบับนี้มีหน้าที่ควบคุม แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องของพืชที่มีการตัดต่อพันธุกรรมมีขายในประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมในเรื่องดังกล่าว หากมีผลกระทบเสียหายขึ้นมากับพืชหรือสัตว์ก็ตามจะไม่มีผู้รับผิดชอบและทำให้ยากในการควบคุม ดังนั้น ที่ประชุม ครม.จึงเห็นในหลักการของ พ.ร.บ.ฉบับนี้เพื่อให้มีความปลอดภัย และมีมาตรการตรวจสอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ก็มีหลายประเด็นที่ ครม.ตั้งข้อสังเกตและได้มอบหมายให้กับทางคณะกรรมการกฤษฎีกา รวบรวมความคิดเห็นเพื่อนำเพิ่มเติมใน พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า การที่กฎหมายผ่านขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งสามารถแก้ไขในขั้นตอนนี้ได้ และไม่ได้หมายความว่าเมื่อผ่านสำนักงานกฤษฎีกาแล้วจะประกาศใช้เลย แต่ยังต้องผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีกครั้งหนึ่ง โดยตนเชื่อว่าเรื่องใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ ทาง สนช.จะให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นมาก อาจถึงขั้นมีการตั้งคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะ โดยเป็นการเชิญผู้ที่เห็นด้วยและเห็นต่างมาให้เหตุผลโดยมุ่งเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ขออย่ามองรัฐบาลในแง่ร้ายจนเกินไปว่าจะไปสนับสนุนกลุ่มทุน เรื่องดังกล่าวเป็นไปไม่ได้เพราะรัฐบาลนี้มีเวลาไม่นาน
“เรื่องที่จะออกเป็นกฎหมายจะมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ถ้าไม่สามารถนำเรื่องนี้ไปเข้าสู่กระบวนการพิจารณาซึ่งจะมีการรับฟังความเห็นจากทั้ง 2 ด้าน เรื่องราวทั้งหลายก็จะไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้เลย จึงขอวิงวอนต่อผู้ที่เห็นต่างให้เข้าใจว่ารัฐบาลเข้าใจท่าน และพยายามนำข้อมูลของพวกท่านมาคิดทบทวน ผมเชื่อมั่นว่าหากในที่สุดกฎหมายมันไม่ดี มีข้อเสียมากมาย ทาง สนช.เองก็จะไม่ให้ผ่าน และขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลจะฟังเสียงทุกเสียงของประชาชน แต่เราต้องทำให้ทุกอย่างเดินหน้าบนฐานของเหตุผลซึ่งกันและกัน อันเป็นข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เป็นผู้เสนอกฎหมายฉบับนี้เข้า ครม.ได้แจ้งมาว่า ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวยังคงยึดหลักการการห้ามทำการผลิตพืชจีเอ็มโอในประเทศไทย ซึ่งตรงกับข้อกังวลของภาคประชาชนส่วนหนึ่งที่มายื่นเรื่อง เมื่อฟังตรงนี้ท่านอาจจะสบายใจมากขึ้น นอกจากนี้ใน พ.ร.บ.ยังมีกฎระเบียบที่ชัดเจนในทำวิจัยมีการควบคุมพื้นที่ไม่ให้แพร่กระจาย และมีบทลงโทษในส่วนของผู้ที่ละเมิด รวมถึงรักษาสิทธิประโยชน์เมล็ดพันธุ์พืชของไทย และจะคุ้มครองประโยชน์ของชาวนาเป็นหลัก
