ประชุม สนช.รับหลักการแก้ไขร่างข้อบังคับการประชุม เพิ่มคณะ กมธ.วิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ ปรับขั้นตอนดถอดถอนนักการเมือง “สมเจตน์” เสนอตั้ง กมธ.สรุปข้อเท็จจริงก่อนลงโหวต
วันนี้ (3 ธ.ค.) ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติเรื่องขอเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับการประชุมจำนวน 13 ประเด็น 18 ข้อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติงานของ สนช.โดยมีประเด็นที่สำคัญ คือกำหนดให้มีคณะ กมธ.วิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เพิ่มขึ้นอีกคณะหนึ่ง รวมไปถึงการกำหนดให้คณะกมธ.สามัญสามารถตั้งคณะอนุ กมธ.เพิ่มได้อีก 1 คณะเพื่อดำเนินงานได้คลอบคลุมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับการพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่ง โดยแก้ไขขั้นตอนการยื่นญัตติ โดยกำหนดให้สมาชิกเสนอญัตติซักถามต่อคณะ กมธ.ซักถามภายใน 7 วันนับแต่วันแถลงเปิดสำนวน และให้ กมธ.ซักถามเป็นผู้ซักถามได้เฉพาะประเด็นที่ได้กำหนดไว้ แต่หากยังไม่ได้คำตอบตามประเด็นที่ซักถาม กมธ.ซักถามสามารถซักถามตามประเด็นที่กำหนดไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง จากเดิมที่กำหนดให้สามารถถามได้เพียงครั้งเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิก สนช.เสนอให้เพิ่มหลักการในแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 โดย ขอให้เพิ่มขั้นตอนการถอดถอน โดยให้ประธาน สนช.ตั้งคณะ กมธ.ขึ้นมาเพื่อสรุปข้อเท็จพยานหลักฐานก่อนที่จะมีการลงมติถอดถอน ซึ่งนายสมชายไม่ขัดข้อง และที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับหลักการที่ พล.อ.สมเจตน์เสนอให้เป็นประเด็นที่ 14 ด้วยคะแนน 103 ต่อ 32 คะแนน งดออกเสียง 6 คะแนน ก่อนที่ที่ประชุมจะรับหลักการร่างข้อคับคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ฉบับที่...) ด้วยคะแนน 129 ต่อ 11 งดออกเสียง 3 คะแนน พร้อมตั้งคณะ กมธ.สามัญจำนวน 17 คน โดยมีเวลาในการพิจารณาภายใน 60 วัน