รองนายกฯ มอง ป.ป.ช.ใหม่เลือกประธานก่อนโปรดเกล้าฯ คราวเดียว เพื่อไม่เป็นการรบกวนสถาบันฯ แต่ไม่รู้ข้อกฎหมายทำได้หรือไม่ ไม่ทราบ ทบ.ของบ กสทช.สร้างราชภักดิ์ ดักเทียบจำนำข้าวไม่ได้เพราะไม่มีเงินอื่นปน เชื่อคลายข้อสงสัยได้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ต่อเมื่อพอมีมูล แจงจ่ายค่าโง่คลองด่านตามคำพิพากษา รับยอมจ่ายเหตุดอกเบี้ยพอกหางหมู เรียกค่าเสียหายอีกเรื่องหนึ่ง เล็งใช้มาตรการศาลปกครอง
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการเลือกประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คนใหม่ หลังมีผู้ท้วงติงว่าไม่สามารถทำได้ขณะนี้ เนื่องจากกรรมการ ป.ป.ช.ใหม่ทั้ง 5 คนยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ว่า ถ้าให้เดา การจะเลือกก่อนหรือหลังโปรดเกล้าฯ อย่างไรก็ต้องเลือก เขาคงคิดว่าพอเลือกประธาน ป.ป.ช.เสร็จจะได้นำกราบบังคมทูลไปพร้อมกัน ไม่อย่างนั้นต้องกราบบังคมทูลถึง 2 ครั้ง ดังนั้น ถ้ากรรมการ ป.ป.ช.ใหม่ 5 คน ร่วมกับกรรรมการ ป.ป.ช.เก่า 4 คน ประชุมแล้วนำมติกราบบังคมทูลขึ้นไปอีก บางทีทำบัญชีล็อตเดียวจะไม่เป็นการรบกวนใต้เบื้องพระยุคลบาท เขาอาจจะคิดอย่างนั้น แต่ข้อกฎหมายทำได้หรือไม่นั้น ตนไม่รู้ แต่วงการอื่นก็มีการทำแบบนี้เหมือนศาลรัฐธรรมนูญ เพราะต้องมีการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เลยต้องเลือกประธานก่อนการโปรดเกล้าฯ ส่วน ป.ป.ช.ไม่ต้องมีการถวายสัตย์ฯ
นายวิษณุกล่าวต่อถึงกรณีสำนักงานข่าวอิศราเปิดเผยเอกสารที่กองทัพบกประสานไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์จำนวน 88 ล้านบาทว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และสมมติถ้า กสทช.สบทบเข้ามาเป็นเงินบริจาคจริง ตนไม่รู้ระบบบัญชีเขาจัดอย่างไร เกิดมาเพิ่งรู้ว่าวันนี้มีมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ อะไรต่ออะไร ไม่รู้เขาแยกบัญชีอย่างไร ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จากการตรวจพบมันจะไปอยู่ในส่วนไหน เรื่องนี้จะนำไปเทียบเคียงกับคดีรับจำนำข้าวไม่ได้ เพราะตรงนั้นไม่มีเงินอื่นมาเจือปน แต่เรื่องนี้ซับซ้อนจึงอยากให้มีการชี้แจงว่าส่วนใหญ่เป็นเงินส่วนอะไรบ้าง ความบกพร่องเกิดขึ้นส่วนไหนอะไรบ้าง เชื่อว่าในไม่ช้าจะมีการชี้แจง เขากำลังตรวจสอบกันอยู่ ซึ่งคนตรวจก็คงงง ขอเวลาให้เขาหน่อย ตนเห็นใจ แต่สุดท้ายต้องมีคำตอบให้กับคนที่สงสัย จะผิดหรือไม่ผิด ไม่สำคัญต้องมีคำตอบอกมาให้คนเห็นและได้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เงินของมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์นั้นการเบิกจ่ายต้องมีการแจ้งบัญชีสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เงินในส่วนของมูลนิธิไม่ต้อง เรื่องของมูลนิธิเมื่อมีการจดทะเบียนต้องจดทะเบียนต่อกระทรวงมหาดไทย แต่หากเกิดอะไรไม่ชอบมาพากลไม่ใช่เรื่องของกระทรวงมหาดไทย ถ้าผิดมันมีวิธีจัดการ ไม่ว่าเงินใคร เงินบริษัท หรือแม้แต่เงินตน ถ้าพบความผิดปกติ มันไม่รอดอยู่แล้ว เพียงแต่ใครจะเป็นเจ้าทุกข์ ร้องในข้อหาอะไรเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ปล่อยให้เขาตรวจสอบสักระยะ การตรวจสอบเรื่องนี้มันจะถึงขั้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ต่อเมื่อพอมีมูลอยู่ วันนี้ยังไม่ถึงขั้นกล่าวหาใครแม้แต่คนเดียวด้วยซ้ำไป เชื่อว่าเรื่องนี้มีการตรวจสอบแล้วคงมีอะไรออกมา
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีประชาชนจ.สมุทรปราการ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อนุมัติให้จ่ายเงินแก่เอกชน ในคดีทุจริตโครงการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย คลองด่าน 9,600 ล้านบาทว่า ตรงนี้ไม่ใช่เงินสมยอม แต่เป็นการจ่ายเงินตามคำพิพากษาของศาลที่กำหนดให้จ่ายภายใน 90 วัน ไม่อย่างนั้นต้องเสียดอกเบี้ยเกือบ 2 ล้านบาท และรับรองเลยถ้ารัฐไม่จ่ายอาจสมใจบางคนว่าถูกแล้ว ตนนึกอยู่เหมือนกันถ้าไม่ต้องจ่ายได้ตนก็ไม่อยากให้จ่าย แต่ในที่สุดวันหนึ่งต้องจ่ายอยู่ดี ดอกเบี้ยมันพอกหางหมู เขาจะฟ้องรัฐบาลได้อีก 1 ข้อหา สุดท้าย ครม.ต้องลงขันจ่ายค่าดอกเบี้ยที่แพงขึ้น
นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนการเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งกำลังดำเนินการกันอยู่ โดยจะใช้มาตรการทางการปกครองเหมือนกัน ขณะที่คดีอาญาก็มีอยู่ในศาล หากวันหนึ่งบอกไม่ต้องจ่ายก็ค่อยมารื้อคดีว่ากันใหม่ ต้องเข้าใจดอกเบี้ยมันเดินทุกวัน ต้อง 3 ศาล อนุญาโตตุลาการ ศาลปกครองชั้นต้น และศาลปกครองสูงสุด ยืนมาเหมือนกันหมด จะไปไหนก็ไปไม่รอดแล้ว ขณะนี้ถือเป็นการตกลงจ่ายเพียงแค่นี้ ถ้ามีใครไปต่อรองได้มากกว่านี้ตนจะดีใจ น่าจะให้รางวัล