xs
xsm
sm
md
lg

ถึงบางอ้อ “ยิ่งลักษณ์” เตรียมเผ่นยุโรปหนีคุกคดีจำนำข้าว !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา

เพิ่งตาสว่างตาแจ้งก็เมื่อได้เห็นสำเนาจดหมายที่อ้างว่าเป็นของ “รัฐสภายุโรป” ที่ลงนามโดย เอลมาร์ บรอก ประธานคณะกรรมการด้านการต่างประเทศของสภายุโรป และ เวอร์เนอร์ แลงเกิน ประธานคณะผู้แทนความสัมพันธ์กับประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสมาคมประชาชาติแห่งตะวันออกเฉียงใต้ เชิญ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย ณ กรุงบรัสเซลล์ หรือ เมืองสตราสบูกร์ก ตามแต่สะดวก โดยในเนื้อหาของจดหมายดังกล่าวได้สรรเสริญเยินยอถึงความสำเร็จระหว่างที่เธอเดินทางไปเยือนสหภาพยุโรป เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ที่ได้มีการลงนามในการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน

น่าสนใจตรงที่เนื้อหาในจดหมายเชิญดังกล่าวได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยนับตั้งแต่การรัฐประหารเป็นต้นมา ใช้คำว่า “น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง” และเห็นว่า เป็นช่วงของการ “ขาดเสถียรภาพ” และเห็นว่าแผนการร่างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลปัจจุบันมีความ “ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง”

ขณะเดียวกัน ในจดหมายดังกล่าวยังระบุว่า เรามีความกังวลต่อกรณีที่ท่าน (ยิ่งลักษณ์) ถูกถอดถอนออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีย้อนหลัง และการที่ท่านถูกดำเนินคดีในศาลฎีกา”

นั่นเป็นข้อความหรือเนื้อหาโดยสรุปจากจดหมายจากรัฐสภายุโรปที่ลงนามโดยประธานคณะกรรมการด้านการต่างประเทศ และประธานคณะผู้แทนความสัมพันธ์ กับประเทศในกลุ่มเอกเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจสรุปได้ชัดเจนแบบทันทีทันใด ว่า จดหมายดังกล่าวเป็นของจริงของปลอม มีการแอบอ้างชื่อกันหรือไม่ หรือแม้แต่ข้อสังเกตในการใช้คำนำหน้าในการจ่าหน้าซองจดหมายว่า “คุณ” แทนที่จะเป็น “มิส” ในภาษาอังกฤษก็ตาม

อย่างไรก็ดี ก็ได้รับความกระจ่างในบางเรื่องจากปากของ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ผ่านมา มีการล็อบบี้กันในสภาพยุโรปหลายเรื่อง และมั่นใจว่า “คงไม่พลาดที่จะมีเรื่องนี้” นั่นคือ ต้องมี “หนังสือเชิญ” แบบนี้ออกมา และเห็นว่า การใช้คำนำหน้าว่า “คุณ” ก็แสดงว่าคุ้นเคยกัน และรู้ถึงวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี ขณะที่ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นว่า หาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ก็ต้องมีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเอกสารดังกล่าวก่อน ว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร และเห็นว่า มีความ “พยายามทำให้มีจดหมายนี้เกิดขึ้น”

ดังนั้น ถ้าให้สรุปจากคำพูดของทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย และ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ก็ประมวลได้ว่ามีรายการล็อบบี้ในรัฐสภายุโรป เพื่อให้มีจดหมายเชิญแบบนี้ออกมา

แน่นอนว่า สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมไปถึง ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของเธอคงจะมีความสุขมีความหวังมากขึ้น หลังจากที่ในวันรุ่งขึ้นสื่อทุกชนิดได้เผยแพร่ข่าวและข้อความในจดหมายดังกล่าวกันอย่างพร้อมเพียง แม้ว่าในโลกโซเซียลฯก็มีการตั้งข้อสังเกตและจับผิดที่มาที่ไปรวมทั้งข้อความในจดหมายกันอย่างออกรสก็ตาม แต่สำหรับ ยิ่งลักษณ์ กับพวกนาทีนี้ถือว่ามีความสำเร็จขั้นหนึ่งแล้ว อย่างน้อยก็สร้างความกดดันให้กับ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน เพื่อให้ภาพแบบต่อเนื่องก็ต้องมาติดตามความเคลื่อนไหวของคนพวกนี้ ไล่มาตั้งแต่ “หัวหน้าทีม” คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้พื้นที่ในโลกโซเชียลฯอย่างคึกคัก ทั้งโพสต์ภาพของตัวเองมีการเขียนข้อความแสดงท่าทีต้องการ “ปรองดอง” ส่วน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เดินสายไปพบปะกับชาวบ้านที่เป็นฐานเสียงในภาคอีสานและภาคเหนือแบบถี่ยิบ ขณะที่อีกด้านหนึ่งสมาชิกพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. หรือคนเสื้อแดงก็โหมโจมตีรัฐบาล และ คสช. อย่างหนักหน่วงโดยตีเข้าไปที่จุดอ่อนจากกรณีเงินค่าหัวคิวเงินบริจาคโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ รวมไปถึงการคัดค้านการยกร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นนายกฯคนนอก วิธีการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน เป็นต้น

น่าสังเกตก็คือ การเคลื่อนไหวดังกล่าวข้างต้นล้วนเกิดขึ้นในช่วงที่คดีรับจำนำข้าวกำลังงวดเข้ามาเรื่อย ๆ เริ่มจากคดีอาญาที่จะเริ่มไต่สวนพยานในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่คดีทางแพ่งกำลังจะตามมา เนื่องจากคาดว่าในราวต้นปีหน้าจะมีการออกคำสั่งทางปกครองให้เธอชดใช้ค่าเสียหายจากการทำให้รัฐเสียหายซึ่งคำนวณคร่าว ๆ น่าจะประมาณไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท ทั้งสองคดีเสี่ยงต่อคุกและถูกยึดทรัพย์ และยังกลายเป็นพันธนาการมีผลต่ออนาคตทางการเมืองอีกด้วย

ถ้าบอกว่า นี่คือ กระบวนการเคลื่อนไหวตั้งแต่การยื่นมือขอแตะเรื่องการปรองดองของ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินสายพบปะมวลชนแบบขอความเห็นใจ การโหมโจมตีรัฐบาล และ คสช. ของสมาชิกพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. จนกระทั่งมาถึงจดหมายเชิญของสมาชิกรัฐสภายุโรปน่าจะเป็น “เรื่องเดียวกัน” โดยมีเป้าหมายเฉพาะหน้าเพื่อให้ ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งนาทีนี้ก็คือประเทศในยุโรป เพื่อไม่ต้องการติดคุกในคดีรับจำนำข้าว

ขณะเดียวกัน เส้นทางแบบนี้ไม่ได้ต่างจากพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้วิธีให้คณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกของจีนมีหนังสือเชิญมาให้ไปร่วมพิธีเปิด โดยในขณะนั้น มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นคนดำเนินการให้ และเขาก็สามารถหลบหนีคุกจากคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯได้สำเร็จ รวมไปถึงคดีทุจริตอื่นๆอีกหลายคดีจนถึงวันนี้

ดังนั้น ก็ต้องรอดูว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำได้สำเร็จหรือไม่ เพราะต้องขออนุญาตจากศาลและจาก คสช. เสียก่อน ก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศ แต่ถ้าออกไปได้ก็ต้องฟันธงไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า “หนีแน่นอน” เพราะมีการนำร่องไว้แล้วว่า “ไม่เป็นธรรม” หรือ “ถูกรังแก” มันก็ชัด !!
กำลังโหลดความคิดเห็น