องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอร่วมวงเรียกศรัทธา “กองทัพ” กลับคืน! ขอ “กองทัพ” เปิดให้องค์กรภายนอกเข้าร่วมตรวจสอบ “อุทยานราชภักดิ์” เพื่อความโปร่งใสต่อสาธารณชน ด้าน “ป.ป.ช.” สรุปข้อมูลก่อสร้างเสร็จสัปดาห์นี้ จ่อชงเข้าที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ พิจารณาสัปดาห์หน้า ยังไม่ชัดสอบค่าหัวคิว
วันนี้ (24 พ.ย.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ซึ่งมีเพจเฟซบุ๊กในเครือข่าย เช่น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ และปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน โดยมีผู้บริหารองค์กรฯ เช่น นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน ฯลฯ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กองทัพบกสร้างความชัดเจนในกรณีอุทยานราชภักดิ์ เพื่อป้องกันทุกข้อกังขา และสร้างความโปร่งใสต่อสาธารณชน
โดยระบุว่า นโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ คือ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมมาโดยตลอด มีการจัดการอย่างเฉียบขาดชัดเจน ทั้งในกรณีระดับชาติและระดับท้องถิ่น อาทิเช่น การดำเนินการกับข้าราชการสีเทา ที่พัวพันกับคดีคอร์รัปชัน ด้วยการโยกย้าย ปลดหรือให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งคนที่เป็นข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร นักการเมืองท้องถิ่น การสะสางคดีสำคัญ
เช่น คดีกรุงไทย สหกรณ์คลองจั่น การแก้ไขการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การเร่งผลักดัน พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐฯ พ.ร.บ. อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ และสนับสนุนกลไกสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการดำเนินงานของภาครัฐ เช่น ข้อตกลงคุณธรรม การสร้างมาตรการด้านการป้องกันเพื่อการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งมีการบรรจุหลักสูตรโตไปไม่โกงในชั้นเรียนระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ
ผลงานเหล่านี้ได้สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาต่อการทำงานของรัฐบาลชุดนี้อย่างใหญ่หลวง ประเทศไทยเริ่มมีความหวังในการต่อสู้กับการคอร์รัปชัน แต่ขณะนี้ความหวัง ความเชื่อมั่น กำลังสั่นคลอน หากสังคมไม่ได้รับความชัดเจนในการแก้ไขติดตามกรณีอุทยานราชภักดิ์ หากคำตอบที่ให้กับสังคมยังมีข้อคลางแคลงใจ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ต้องการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคดโกงของประเทศให้มีความต่อเนื่อง
เราจึงขอเสนอแนะเรียกร้องให้รัฐบาลรีบสร้างความกระจ่างชัดในการคลี่คลายกรณีปัญหานี้ โดยเปิดให้องค์กรภายนอกที่มีหน้าที่เข้าไปร่วมตรวจสอบโดยด่วน ทุกข้อกังขาต้องมีการให้คำตอบอย่างชัดเจน โปร่งใส อย่าปล่อยให้กรณีดังกล่าว กลายเป็นจุดสร้างวิกฤตศรัทธา ต่อทั้งกองทัพและต่อความทุ่มเทของรัฐบาล ดังนั้น ความคลุมเครือจึงเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นที่หากเสียไปแล้วก็ยากที่จะกลับคืนอย่าปล่อยให้ศรัทธาประชาชนเสียหาย รีบแก้ไขจัดการอย่างเร่งด่วน ให้ไร้ซึ่งข้อกังขา สมกับที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับคนไทยทั้งประเทศ
แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า เพชรแท้ต้องไม่กลัวการพิสูจน์ ความชัดเจน โปร่งใสจะสร้างความศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและผู้นำในการนำพาประเทศให้พ้นจากความหายนะจากการทุจริตคดโกง อย่าปล่อยให้ศรัทธาประชาชนเสียหาย รีบแก้ไขจัดการอย่างเร่งด่วน ให้ไร้ซึ่งข้อกังขา สมกับที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับคนไทยทั้งประเทศ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) พร้อมเสมอในการเป็นกำลังร่วมในการต่อสู้และแก้ไขปัญหากับการทุจริตคดโกงทุกรูปแบบ และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล
วันเดียวกัน นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าในการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า หลังจากที่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาข้อมูล ได้สั่งการไปยังสำนักการข่าวไปดำเนินการตรวจสอบจากแหล่งข่าวและประชาชนแล้ว และได้มีการทำรายงานสรุปรวบรวมข้อมูล โดยจะส่งมาให้ตนพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งขณะนี้ข้อมูลอยู่ที่ฝ่ายข่าวแล้วกำลังดำเนินการสรุป ซึ่งดูจากท่าทีของกองทัพบกที่แถลงข่าวแล้ว ก็คงจะไม่ส่งข้อมูลการตรวจสอบให้ ป.ป.ช.
“คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้า จะสามารถเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาว่าจะเข้าข่ายอยู่ในอำนาจดำเนินการของ ป.ป.ช. หรือไม่ และมีเหตุอันควรสงสัย ที่ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ เหตุอันควรสงสัยนั้นเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่”
ส่วน ป.ป.ช. จะต้องมีการขอข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกค่าหัวคิว จาก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ที่เคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายสรรเสริญ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องดูข้อมูลในภาพรวม ดูจากรายงานก่อน ยังไม่ลงลึกไปในตัวบุคคล
ด้าน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาว่า ใครเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ รวมถึงต้องพิจารณางบประมาณการก่อสร้างด้วยว่าเป็นเงินอะไร ซึ่งขณะนี้ก็ให้สำนักงานเลขาธิการฯรวบรวมข้อมูลอยู่ ทั้งนี้ หากกองทัพบกส่งข้อมูลในการตรวจสอบมาก็จะถือว่าเป็นข้อมูลส่วนหนึ่ง และหากหน่วยงานอื่น บุคคลอื่นมีข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถส่งมายังสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ ซึ่ง ป.ป.ช. ก็ยินดีรับพิจารณา
วันเดียวกัน นายสรรเสริญ ในฐานะตัวแทนสำนักงาน ป.ป.ช. และ นายมาร์ติน ฮาร์ท ฮานเซ่น ผู้แทนสำนักโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย ได้ร่วมลงนามในปฏิญญาความร่วมมือ ระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. และ UNDP เพื่อยกระดับความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน และสนับสนุนการต่อต้านกาทุจริตให้เป็นรูปธรรม ผ่านกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ที่เป็นการปลูกฝังค่านิยมและสร้างความตระหนักในการต่อต้านการทุจริต อาทิ โครงการเครือข่ายเยาวชนต่อต้านการทุจริตภายใต้แนวคิด “คอร์รัปชัน ฉันไม่ขอรับ” การจัดค่ายเยาวชนสัมพันธ์, การทำกิจกรรมวันต่อต้านการทุจริต เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันการทุจริตอย่างยั่งยืน