xs
xsm
sm
md
lg

วิชาผนึกกำลังต้านโกง เร่งปลูกจิตสำนึกชุมชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (4พ.ย.) ที่สโมสรทหารบก คณะกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต จัดงานเปิดตัวมูลนิธิต่อต้านการทุจริตอย่างเป็นทางการ โดยมี นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิ กรรมการ และตัวแทนหน่วยงานรัฐ เอกชน และกลุ่มองค์กรต่างๆ เข้าร่วมงาน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดมูลนิธิฯ
สำหรับมูลนิธิดังกล่าว มีนายวิชา เป็นประธาน โดยการจัดตั้งได้รับการผลักดันจากผู้เข้ารับการศึกษา หลักสูตรการอบรมนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) ซึ่งจะทำหน้าที่สนับสนุนกิจกรรม ปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม ให้คนในชาติ โดยเฉพาะเยาชน ส่งเสริมการวิจัย สร้างองค์ความรู้ และพัฒนา บุคลากร ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และยกย่องเผยแพร่หน่วยงาน บุคคลดีเด่น ที่มีความซื่อสัตย์ และบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล
ทั้งนี้ การดำเนินการของมูลนิธิฯ จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งในการเปิดตัวมูลนิธิฯ ได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการต่อต้านการทุจริตระหว่างมูลนิธิฯ สถาบันการศึกษา และมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด จำนวน 11 หน่วยงาน
ต่อมาเวลา 14.40 น. มีเสวนาในหัวข้อ "ทำอย่างไร... ประเทศไทยไร้ทุจริต" โดย นางจุรี วิจิตรวาทการ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า การจะเปลี่ยนพฤติกรรมบุคคล การทำไม่ให้โกงมี 3 ระดับ คือ 1. การใช้กฎหมายและระเบียบบังคับ แต่ไทยไม่ได้เคารพกฎหมายจากจิตวิญญาณ 2. เรื่องบทลงโทษทางสังคม ไทยเราการลงโทษทางสังคมยังไม่เข้มข้น บางประเทศนักการเมืองโกงต้องลาออกทันที เพราะเขาละอาย แต่สิ่งเหล่านี้เรายังไม่มี ยังอ่อนด้อยอยู่ และ 3. การปลูกฝั่งจิตสำนึก แม้ทำยากแต่ต้องทำ โดยเริ่มต้นจากครอบครัว พ่อแม่ต้องชี้ให้ลูกเห็นว่า อะไรผิดอะไรถูก สถาบันครอบครัวต้องเข้มแข็ง ในการหล่อหลอมเด็ก
ดูอย่างประเทศเดนมาร์ก ที่เขาได้รับการประเมินค่าดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันโลก (CPI) เป็นอันดับหนึ่งเสมอ เพราะค่านิยมในสังคมเขาคล้ายกัน เขาจะสอนคนในสังคมว่า การอยู่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องไม่แสดงความมั่งคั่ง นักการเมืองจะต้องไม่อู้ฟู่ หรือโชว์ออฟ เขามีการหล่อหลอมตั้งแต่เด็ก ซึ่งจะช่วยในระดับหนึ่ง ค่านิยมสังคมเขาทำให้คนไม่แตกแถว และต้องคิดถึงใจคนอื่น ส่วนการลงโทษไม่ต้องไปถึงกฎหมาย แต่สังคมจะลงโทษ เจ้าตัวจะลงโทษตัวเอง ทั้งนี้ เราต้องเปลี่ยนสังคมสำหรับความคิดที่ว่า รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน เป็นเปลืองตัวหน่อยไม่เป็นไร หากเราทำเรื่องดีเพื่อช่วย สังคม
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยถูกคนอื่นตราหน้าว่า เป็นคนห่วยในเอเชียในเรื่องคอร์รัปชัน เพราะเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านด้วยกัน เรามีสูงมาก แต่หลายปีที่ผ่านมานี้
ทั้งนี้ ภาคเอกชน ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา การทุจริตเกิดขึ้นเพราะเป็นการสมยอมระหว่างคนให้ กับคนรับ ซึ่งเอกชนเองก็ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องทำให้กระบวนการต่างๆ ระหว่างรัฐกับเอกชนมีความโปร่งใส การทุจริตก็จะเกิดขึ้นได้ยาก โดยตั้งแต่ ครม.ชุดนี้เข้ามา และตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) มีเรื่องหนึ่งที่ทำแล้วมีผลคือ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ในอดีตมีปัญหาสมยอมกันระหว่างรัฐกับเอกชน แต่ต่อไปต้องให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการเข้าไปสังเกตการณ์ว่า กระบวนการประมูลนั้นๆ มีความโปร่งใสหรือไม่ มีการเขียนทีโออาร์อย่างไร และกระบวนการจัดประมูลสมบูรณ์หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้หรือไม่ ราคากลางมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะในอดีตมีการตั้งราคากลางสูงเกินความเป็นจริง ซึ่งตอนนี้มีมาตรการแล้ว โครงการใหญ่ที่อยู่ในความสนใจประชาชน ต้องมีกระบวนการเหล่านี้ และต่อไปจะมี พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างออกมาอีก
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. และประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต กล่าวว่า การทุจริตมีทุกหย่อมหญ้า เป็นปัญหามหาศาลจริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายที่จะแก้ปัญหา แต่เราต้องไม่ท้อแท้หรือสิ้นหวัง ตนได้บอกกับนายกฯไปว่า เราจะทำจากข้างล่าง เพื่อขึ้นไปข้างบน ตรงนี้เป็นพื้นฐานสำคัญมาก เพราะสิ่งที่จะหล่อหลอมจิตสำนึกสังคมก็มาจากคอบครัว โรงเรียน และศูนย์กลางของศาสนาต่างๆ
"ในอดีต มีการทุจริตเรื่องจัดซื้อยาของกระทรวงสาธารณสุข ที่เราจับได้จนติดคุก แต่ปัญหาการทุจริตก็ไม่ลดลง เรายังจับได้ตลอด หรือการทุจริตการประมูล การก่อสร้างเขาก็หาผลประโยชน์อย่างนี้ตลอด ที่หนักกว่านั้นคือ ทุจริตเชิงนโยบาย เราก็ตามจับเหมือนกับว่าตามหลังเขา ทำอย่างไรเราถึงจะดักหน้าเขาได้ จะไม่เดินตามหลังพวกทุจริต หรือกลุ่มที่จะทำลายบ้านเมืองอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้เราต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติชุมชน"
นายวิชา กล่าวว่า ตนคิดว่า โมเดลของฮ่องกงเหมาะกับไทยมากที่สุด เขาทำลายพวกมีอิทธิพลที่ซึมลึกในระบบราชการ ประชาชนของเขาเข้มแข็ง ไม่ยอมเรื่องการทุจริต ดังนั้นการเสริมสร้างการป้องกันการทุจริตต้องมาจากรากหญ้า ต้องมาจากพื้นฐานประชาชน ต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา แต่ไม่ใช่สร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแล้วบอกเขาว่า ขอให้เจริญๆ นะลูก โตเป็นเจ้าคนนายคน แต่ต้องบอกว่า ให้ออกไปรับใช้ประชาชน ถึงจะใช้ได้
" บ้านเมืองของเรามีปัญหามานานที่จะต้องแก้ไขอีกเยอะแยะ มูลนิธิต่อต้านการทุจริตหรือองค์กรต่างๆ จะจับมือกันแบบหลวมๆ คงไม่ได้ แต่ต้องทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ต้องเป็นเครือข่ายแท้จริง ไม่ใช่แบบเทียม ต้องผนึกด้วยจิตวิญญาณของนักต่อสู้ เมื่อเราเห็นประเทศไทยเป็นรัฐล้มเหลว แล้วเราต้องรู้สึกทนไม่ได้ ต้องคิดว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องต่อสู้ ร่วมจิตร่วมใจกัน ผมเชื่อว่า ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองอยู่ คนไทยเก่ง มีสติปัญญา ไม่อย่างนั้นคงรักษาบ้านเมืองไม่ได้จนบัดนี้ แต่จะเอาตัวรอดแบบแต่พอตัวไม่ได้ ต้องรอดทั้งชาติ ต้องขอฝากการเปิดตัวของมูลนิธิครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น ต้องทำงานร่วมกันอย่างเข้มเข็งจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของพวกเรา" นายวิชา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น