“นายกรัฐมนตรี” เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ เผยพอใจการทำงานเตรียมเช็กบิลทุจริตท้องถิ่น ย้ำต้องสร้างความไว้วางใจจากประชาชนไม่ให้หวาดระแวงเจ้าหน้าที่ เตรียมเข็นนโยบายออกมาผ่าน ครม. พร้อมเตรียมดูแลเรื่องโครงการตำบลละ 5 ล้าน จัดงานต้านคอร์รัปชันสากล 8-9 พ.ย.นี้
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 7/2558 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนการประชุมว่า ขณะนี้ทุกอย่างมีความก้าวหน้าและสถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่เป็นที่พอใจในทุกเรื่องจึงต้องดำเนินการต่อไปเพื่อไม่ให้การทุจริตคอร์รัปชันกลายเป็นศูนย์รวม ต้องสร้างความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ให้ประชาชนระแวงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกัน เรื่องระเบียบและคำสั่งต่างๆ นั้น รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีจะมีนโยบายออกมา อย่างไรก็ตาม เราจะต้องคำนึงถึงความเชื่อมั่นและความตั้งใจในอนาคต เพราะโครงการต่างๆ จะละเว้นไม่ได้ และการดำเนินการขับเคลื่อนในด้านต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น โดย คสช. กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่างๆ ต้องเข้าไปช่วยกันตรวจสอบทั้งเงินช่วยเหลือประชาชน เงินส่วนต่างๆ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบและเพื่อไม่ให้ล่าช้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังแสดงความยินดีกับนายประมนต์ สุธีวงศ์ และนางจุรี วิจิตรวาทการ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติตามคำสั่ง คสช.ที่ 14/2558
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แถลงภายหลังการประชุมว่า นายกฯ พอใจการทำงานในมิติต่างๆ ของช่วงที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า คตช.จะทำอย่างต่อเนื่อง จะป้องกันการทุจริตในทุกมิติและจะเป็นองค์กรตรวจสอบภายในให้กับรัฐบาลเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะการบริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีการร้องเรียนการทุจริตจำนวนมาก ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างและความไม่เป็นธรรมในการอนุมัติโครงการ ซึ่งจะลงไปเฝ้าระวัง จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่น พร้อมทั้งจะเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ
โดย ศอตช.จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และสภาหอการค้าประเทศต่างๆ กว่า 40 แห่ง ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของนักลงทุนต่างประเทศ โดยตั้งเป้าว่าเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วจะเข้าไปตรวจสอบภายใน 7 วัน ซึ่งสภาหอการค้าทั้งหมดจะมีการประชุมในวันที่ 11 พ.ย. เพื่อจะจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ย. 58 อย่างไรก็ตาม นายกฯ เน้นย้ำว่าในการตรวจสอบทุกโครงการจะต้องไม่ทำให้โครงการชะงักด้วย ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการทุจริตโครงการตำบลละ 5 ล้านบาทนั้น ทาง ศอตช.ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเข้าไปกำกับดูแลในลักษณะของการป้องกัน ทำให้รัดกุมมากกว่า เนื่องจากตอนนี้ยังไม่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการทุจริต
พล.อ.ชาตอุดม ติตถะศิริ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ในฐานะเลขานุการ คตช.กล่าวว่า ในวันที่ 8-9 พ.ย. รัฐบาล ป.ป.ช. และภาคเอกชน จะร่วมกันจัดงานวันต่อต้านคอรัปชั่นสากล โดยมีนายกฯ เป็นประธาน ซึ่งในส่วนกลางจะจัดที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นอกจากนี้ สิ่งที่นายกฯ ได้เน้นย้ำในที่ประชุม คือ การสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในเรื่องการต่อต้านการทุจริต และประชาชนเองเมื่อพบเห็นอะไรไม่ใช่เพียงรับรู้ แต่ต้องนำเรื่องมาแจ้งต่อรัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการ ส่วนการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมนั้นจะมีการจัดทำวีดิทัศน์ต่อต้านการทุจริตขึ้นมา ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจส่งเรื่องเข้ามากว่า 70 คน โดยจะคัดประมาณ 7-8 เรื่อง เพื่อทำเป็นวีดีทัศน์ขนาดสั้นเผยแพร่ทั่วประเทศผ่านช่องทางต่างๆ
