เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย เตรียมยื่นหนังสือด่วนถึงนายกฯ ยับยั้ง รมว.พลังงาน ใช้ข้อมูลเท็จเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2 ฉบับ ต่อที่ประชุม ครม. ยันตัวแทน คปพ.ในกรรมาธิการ สนช.คัดค้านมาตลอด เชื่อคนกระทรวงพลังงานรายงานเท็จต่อรัฐมนตรี
เมื่อเวลา 08.42 น. วันนี้ (24 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ต่อกรณีที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เมื่อวัน 23 พฤศจิกายน 2558 ความตอนหนึ่งว่า “โดยที่ผ่านมา ครม.สั่งให้ไปหารือกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ควรจะแก้ไขกฎหมายอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมา สนช.ส่งตัวแทนส่งที่ปรึกษาซึ่งบางท่านอยู่ใน คปพ.มาประชุมร่วมและเห็นว่า ไม่ต้องแก้ไขกฎหมายเพิ่มอีกจากที่กระทรวงเสนอไป เพียงแต่หากต้องปรับระเบียบอะไร ก็ให้ออกประกาศโดยคณะกรรมการปิโตรเลียมได้” นั้น
เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ขอยืนยันว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ ซึ่งผู้แทนกระทรวงพลังงานได้เชิญผู้แทนจากคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม 2514 และพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม 2514 ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 4 ท่าน เข้าร่วมประชุมหารือกันจริง และมีกรรมาธิการ 1 ท่าน อยู่ในเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ด้วย คือ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี
ม.ล.กรกสิวัฒน์ ได้แจ้งให้ คปพ.ทราบมาตลอดว่า ผลการประชุมผ่านไปหลายครั้ง แต่ผู้แทนกระทรวงพลังงานไม่ตอบสนองในการแก้ไขกฎหมายแม้แต่มาตราเดียว อ้างว่าได้รับนโยบายให้มาชี้แจงทำความเข้าใจ ไม่ได้มีหน้าที่ทบทวนหรือแก้ไขกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น
จากท่าทีดังกล่าวข้างต้น เป็นผลทำให้ผู้แทนจากรรมาธิการของ สนช.ทั้ง 4 คนจึงยื่นหนังสือแล้วแถลงในที่ประชุมว่า “ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายของกระทรวงพลังงานทั้งสองฉบับ” พร้อมทั้งขอให้ผู้แทนกระทรวงพลังงานเซ็นรับทราบหนังสือดังกล่าวด้วย แต่ผู้แทนกระทรวงพลังงานกลับแสดงความไม่พอใจ และปฏิเสธที่จะเซ็นรับหนังสือดังกล่าว และยังมีข้อสงสัยว่าไปรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแอบอ้างว่าตัวแทนคณะกรรมาธิการของ สนช.ซึ่งมีตัวแทน คปพ.เข้าร่วมนั้นเห็นชอบในร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว เพื่อจะมาเป็นเหตุอ้างในความชอบธรรมที่จะนำกฎหมายดังกล่าวทั้ง 2 ฉบับไปผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่?
และโชคดีที่ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ได้บันทึกเทปการประชุมทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐานแล้วด้วย ดังนั้น หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำผลสรุปที่เป็นเท็จเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็ต้องรับผิดชอบกับผลของการกระทำนี้ต่อไป และหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโดยอาศัยการอ้างอิงที่เป็นเท็จก็ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
เมื่อคำแถลงที่เป็นเท็จดังกล่าวมีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยื่นหนังสือด่วนที่สุดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อยับยั้งการใช้ข้อมูลเท็จของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กพร. (ฝั่งตรงกันข้ามกับประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล) จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวตามวันและเวลาดังกล่าว