“วิทยา” มองน่าจะดี กรธ. โยนอำนาจถอดถอนจาก ส.ว. ไปให้องค์กรอิสระ เหตุควรกลั่นกรองกม. เป็นหลัก แถมถอดถอนไม่เป็นผล ควรให้ศาลจัดการ แต่ไม่ควรเพิ่มภาระให้ ป.ป.ช. หนุนเลิกส.ส. บัญชีรายชื่อ ชี้ ไม่ใช่ที่ซ่องสุมคนเจตนาดี มีแต่กลุ่มทุนสร้างปัญหา
วันนี้ (22 พ.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตแกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ไม่ให้ ส.ว. มีอำนาจถอดถอน แต่จะให้อำนาจดังกล่าวเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระ ว่า น่าจะดี เพราะ ส.ว. ควรมีอำนาจหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมายเป็นเรื่องหลัก ส่วนอำนาจถอดถอนก็ควรจบไป ที่ผ่านมา อำนาจการถอดถอนของ ส.ว. ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร กระบวนการไต่สวนเรื่องการถอดถอนจึงควรให้เป็นอำนาจของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลยุติธรรม แต่กรณีที่จะให้อำนาจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีอำนาจถอนในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบนั้น เห็นว่า ไม่สมควรไปเพิ่มภาระหน้าที่การทำงานให้กับ ป.ป.ช. มากกว่าเดิม เพราะการทำงานของ ป.ป.ช. ยังมีคดีที่ต้องพิจารณาค้างอยู่เยอะ หน้าที่ในการถอดถอนจึงควรจะแบ่งเบาไปยังศาลยุติธรรม หรือศาลรัฐธรรมนูญ ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมน่าจะดีกว่า
นายวิทยา ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง สปท. มีแนวคิดให้ กรธ. ยกเลิก ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ ว่า ในที่ประชุม กมธ. การเมือง มีการถกเถียงกันในเบื้องต้น และเห็นว่า สมควรจะต้องยกเลิก ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากที่ผ่านมา ส.ส. บัญชีรายชื่อ ไม่ใช่ที่ซ่องสุมของคนดีตามเจตนารมณ์ แต่กลายเป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มทุน และสร้างปัญหาขึ้นมากกว่า ทั้งที่ตามเจตนารมณ์ของ ส.ส. บัญชีรายชื่อ คือ ต้องการคนดีเข้ามา แต่สุดท้ายจากการตรวจสอบย้อนหลัง เราเห็นว่า พรรคการเมืองมักจะเอาคนที่มีอิทธิพลต่อพรรคเข้ามาจึงไม่ตรงตามเจตนารมณ์ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีแนวคิดหลักในการแก้ปัญหา คือ กระบวนการในการป้องกันทุจริตการเลือกตั้ง เพราะมาตรการการปฏิรูปในเบื้องต้นควรจะเริ่มจากตรงนั้น ถ้าเราแก้ปัญหาเรื่องการทุจริตเลือกตั้งไม่ได้ การแก้ปัญหาในสังคมก็จะยากขึ้น
