“มาร์ค” หวั่น กรธ.ไม่ปรับปมบัญชีนายกฯ ทำยิ่งขัดแย้ง ชี้ตามหลัก หน.พรรคควรได้เก้าอี้

หัวหน้าประชาธิปัตย์ ชี้ กรธ.ผุดบัญชีชื่อนายกฯ เอาปัญหาหลายปมมาปนกัน บอกถ้ายึดหลักนายกฯ ต้องเป็น ส.ส.ก็ไม่ยุ่งยาก ติงทำพรรคคะแนนน้อยอาจถือดุลอำนาจได้ เชื่อคงกังวลประเด็นไอ้โม่งดันนายกฯ แนะถอดทีละสลัก ต้องยืนยันนายกฯ มาจาก ส.ส. แต่ยกเว้นคนนอกได้กรณีไหนบ้าง เพิ่มบทบัญญัติเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับพรรค ระบุหากไม่ปรับจะขัดแย้ง ชี้โดยหลักหัวหน้าพรรคควรได้เก้าอี้

วันนี้ (19 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้พรรคการเมืองเสนอบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนนอกว่า เป็นการนำมาจากปัญหาที่เอาหลายเรื่องมาปะปนกัน หาก กรธ.ยึดประเด็นว่า นายกฯ ต้องเป็น ส.ส.ก็จะไม่ยุ่งยากเพราะต้องอยู่ใน ส.ส.500 คน ตามหลักแล้วระบบพรรคการเมืองต้องมีความชัดเจนในการหาเสียงระดับหนึ่งว่า หากมีเสียงข้างมากหรือรวบรวมเสียงข้างมากได้ ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ กรธ.คงไปกังวลจะเป็นการจำกัดไปหรือไม่ จึงคิดจะเปิดช่องให้คนนอก ซึ่งตนมองว่าหากจะมีเงื่อนไข เหตุการณ์พิเศษ ก็ควรจะกำหนดว่าต้องมีมติพิเศษ เหมือนข้อเสนอของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่ กรธ.ชุดนี้ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขพิเศษทำให้เกิดปัญหาว่าเป็นการเตรียมไว้ให้มีการสืบทอดอำนาจหรือไม่ เมื่อ กรธ.กำหนดให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ พรรคที่ได้คะแนนเสียงน้อยอาจจะถือดุลอำนาจได้ด้วยระบบเลือกตั้งที่ทาง กรธ.ออกแบบทำให้สลัดความระแวงของบางฝ่ายไม่พ้นว่าเป็นช่องทางการสืบทอดอำนาจหรือไม่

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ กรธ.ยังกังวลกรณีในไอ้โม่งในบางพรรคการเมืองที่หลบซ่อนอยู่ เช่น ปรากฏการณ์กรณีนายสมัคร สุนทรเวช ได้เป็นนายกฯ จากผลการเลือกตั้งเสียงข้างมาก แต่ต้องพ้นตำแหน่งนายกฯ เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่ากระทำการต้องห้าม แต่สภายังสามารถเลือกกลับเข้ามาได้ แต่ปรากฏว่าเจ้าของพรรคกลับให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นมาเป็นนายกฯ แทน หรือกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลุดพ้นตำแหน่งนายกฯ แล้วมีการดึงนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ขึ้นมารักษาการ ดังนั้น กรธ.จึงต้องการให้พรรคการเมืองมีความว่าจะให้ใครเป็นนายกฯ จึงทำให้เกิดความสับสนและเถียงกัน

“ผมจึงเสนอให้ กรธ.ถอดสลักทีละเรื่อง เช่น 1. ยืนยันหลักการก่อนว่านายกฯ มาจาก ส.ส. 2. มีข้อยกเว้นให้มาจากคนนอกในกรณีไหนได้บ้าง 3. ถ้าอยากจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองเอาคนไปหลบๆ ซ่อนๆ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็มีบทบัญญัติเฉพาะเรื่องนั้นไปอีกทีเกี่ยวกับพรรคการเมืองคิดว่าน่าจะตอบโจทย์ได้หมด แต่หากวางอยู่อย่างนี้ผมมองว่าจะมีความขัดแย้งกันมาก เพราะเชื่อว่าไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะลดราวาศอกในเรื่องนี้ เพราะเริ่มมีลักษณะการตอบโต้ในเชิงกล่าวหากันไปกันมา ซึ่งจะทำให้บรรยากาศไม่ดี” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่นายกรัฐมนตรีต้องมาจากหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โดยหลักก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะระบบการบริหารและกลไกการทำงานของประชาธิปไตยโดยบทบาทของพรรคการเมือง เจตนารมณ์ของประชาชน ความโปร่งใส การตรวจสอบทุกอย่างก็จะง่าย และมีความเป็นสากล เพราะเป็นระบบที่ชัดเจนสำหรับประชาชนที่ใช้สิทธิ์ ดังนั้นต้องคิดถึงจุดนี้ หากพยายามไปทำอะไรที่มันแตกต่างแล้วเปิดช่องเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็จะเกิดการโต้แย้งกันได้อย่างไรก็ตามคงต้องรอให้ กรธ.ตกผลึกก่อน