รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม บอกผลสอบอุทยานราชภักดิ์เสร็จไม่ต้องมารายงานตน เป็นเรื่องของกองทัพบก หากพบโกงต้องส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. รับ 7 วันไม่น่าทัน ต้องดูจุดบกพร่องตรงไหน ด่าสื่อ “ไอ้ห่...นี่” ก่อนยิ้มให้ บอกควรสอบถึงหล่อพระรูปด้วย ลั่นฟันหมด ป.ป.ท.ก็สอบได้ ยันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่ผิดกฎหมายทั่วไป ย้ำเงินบริจาคไม่ใช่งบรัฐ ไม่กังวลผลกระทบกองทัพ ชี้สอบกันเองเพราะเป็นเรื่องภายใน อย่าเพิ่งมโน ให้เขาหาตัวให้ได้ก่อน
วันนี้ (17 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.45 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวถึงการสอบความผิดปกติการใช้งบประมาณก่อสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ หลังกองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่า เมื่อสอบสวนเรียบร้อยแล้วไม่จำเป็นต้องมารายงานตน เพราะตนไม่ใช่ตุลาการ ไม่ใช่ศาล เพราะตนไม่ได้สั่งให้เขาทำ เป็นเรื่องของกองทัพบกที่จะต้องตัดสินตามระเบียบวินัย หากพบว่ามีการทุจริตก็ต้องส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนการสอบสวนใช้เวลา 7 วัน คาดว่าไม่น่าจะทัน เพราะต้องมีการสอบสวนว่ามีจุดบกพร่องตรงไหน ทั้งเรื่องการหล่อพระรูปและเรื่องอื่นๆ ซึ่ง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.รับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะเป็นโครงการของกองทัพที่จะเทิดพระเกียรติ เมื่อถามว่าตกลงใช้เวลาสอบ 7 วันไม่น่าจะทันหรือไม่ พล.อ.ประวิตรหันหน้าไปยังผู้สื่อข่าวที่ถาม พร้อมกล่าวว่า “ผมไม่รู้ คุณต้องไปถาม ผบ.ทบ. ไอ้ห่านี่เป็นอะไรวะ พูดไม่เข้าใจ เดี๋ยวผมถามนะ เรียนหนังสือมาจากไหน เดี๋ยวจะยุ่ง” โดยหลังจากพูดจบได้หันมายิ้ม
เมื่อถามว่า เวลา 7 วัน รวมถึงการสอบในขั้นตอนการหล่อพระรูปด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องสอบทั้งหมดในภาพรวม ส่วนรายละเอียดตนไม่รู้ ซึ่งอยู่ในฐานะผู้บริหารก็คิดอย่างนั้น อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ต้องไปถาม ผบ.ทบ. เมื่อถามว่า หากผลสอบไปถึงใคร ยืนยันหรือไม่ ดำเนินการทั้งหมดทันที พล.อ.ประวิตรตอบว่า แน่นอน ถ้ามีหน่วยงานใดผิดกฎหมาย ผิดวินัย หรือใครไม่โปร่งใส เมื่อถามต่อว่าหากส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช.แล้ว ป.ป.ช.มีสิทธิสอบได้ตามขั้นตอนใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่รู้ หากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ป.ป.ช.ก็สอบได้ รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องผิดกฎหมายทั่วไปเหมือนกรณีคลองด่าน เมื่อถามว่ามีการใช้งบฯ เป็นพันล้านบาท ทำไมถึงมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ พล.อ.ประวิตรกล่าวสวนทันทีว่า “คุณรู้ได้ไงว่าพันล้านบาท และก็ไม่ใช่เป็นเงินงบประมาณ ไม่ใช่เงินหลวง แต่เป็นเงินบริจาค” เมื่อถามว่า เมื่อสอบสวนในคดีนี้แล้วหากมีทหารเป็นผู้กระทำความผิดจะส่งผลต่อภาพลักษณ์กองทัพบกและคสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เสีย คดีมันระดับไหน มีหลายระดับ แต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ผู้สื่อข่าวเองก็มีทั้งที่ทำถูกและผิด คนจะเหมือนกันทุกคนได้อย่างไร ไม่เหมือนกัน ตนไม่กังวลอะไรทั้งสิ้น เพราะมีข้อเท็จจริงของมัน
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าในกองทัพบกตั้งคณะกรรมการภายในสอบกันเอง ทำไมไม่ให้หน่วยงานภายนอกเข้าไปสอบ พล.อ.ประวิตรตอบว่า เป็นเรื่องกองทัพบก ถ้าผิดอาจจะมีภายนอกเข้าไปสอบด้วยก็ว่ากันไป เมื่อถามอีกว่า อย่างกรณีการใช้เงินกองทุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังให้หน่วยงานอื่นเข้าไปสอบ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “คุณอย่าเพิ่งไปมโน ให้เขาสอบก่อน คุณไม่ต้องสอนผม รู้สึกว่าจะสอนผมอยู่เรื่อย คุณรู้มากกว่าผม งั้นคุณมาแทนผมดีกว่า” เมื่อถามว่าต้องมีการกำชับ ผบ.ทบ.อะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องกำชับอะไร คนเป็น ผบ.ทบ.เขามีความรับผิดชอบ มีวุฒิภาวะมากมาย คุณอย่าไปสอนเขา ให้เขาหาตัวให้ได้ก่อน ใจเย็นๆ