รองนายกฯ เปรยไม่เห็นความจำเป็นขยายเวลาเพิ่มให้ “ยิ่งลักษณ์” ในความผิดทางละเมิดโครงการจำนำข้าว หลังขยายให้มาแล้ว ส่วนการชะลอจ่ายค่าโง่คลอดด่านไม่จำเป็น เหตุคนละส่วนกับคดีที่ยังค้างอยู่ในศาล
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องคดีระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชนทั้งที่เป็นโจทก์และจำเลย จำนวน 12 คดีว่า หลังจากตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวอยู่ระหว่างดำเนินการต่ออยู่ในหลายขั้นตอนด้วยกัน บางส่วนอยู่ในชั้นอัยการ ศาล และอนุญาโตตุลาการ อย่างเช่นคดีจำนำข้าว ในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว ชุดที่มีนายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งได้ขยายเวลาไปถึงวันที่ 31 ธ.ค. ส่วนจะขยายเวลาเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องอยู่ที่ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ และการขยายเวลาที่ผ่านมาเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ยื่นขอเพิ่มพยาน ส่วนการขอครั้งล่าสุดนั้นมีการเพิ่มพยาน 7-8 ปาก โดยเวลาที่ขยายไปถือว่าครอบคลุมพยานทั้งหมด ขณะนี้ยังมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะขอขยายเวลาอีก แต่หากมีการขอขยายเวลาอีกก็ยังเร็วไปที่จะพูด ต้องดูก่อนว่าเขาจะขออีกหรือไม่
ทั้งนี้ ยืนยันว่าคดีจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะเรื่องมาจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งเรื่องมาว่าต้องดำเนินการในทางแพ่ง จะให้รัฐบาลไม่ทำอะไรได้อย่างไร
ส่วนที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.เสนอให้รัฐชะลอการจ่ายเงินคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านออกไป เพื่อรอความชัดเจนในศาลชั้นต้น ศาลปกครอง และศาลฎีกาฯก่อนนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ตนเข้าใจว่าได้มีการจ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะชะลอไปทำไม เพราะแม้จะมีคดีความอยู่ในชั้นศาลอื่นๆ นั้นมันก็เป็นคนละส่วนกับที่ศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้รัฐชำระค่าเสียหายภายใน 90 วัน เนื่องจากตรงนี้เป็นส่วนที่รัฐเป็นหนี้เขา แต่ส่วนความรับผิดทางอาญาในข้อหาฉ้อโกงนั้นเป็นคนละส่วนกัน เงินจะจ่ายหรือไม่จ่ายก็เรื่องหนึ่ง จะติดคุกฐานฉ้อโกงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่ว่ามีการติดคุกฐานฉ้อโกงแล้วจะมายกเลิกทางนี้ได้
อย่างไรก็ตาม หากจะชะลอก็สามารถทำได้ แต่ต้องไปดู เพราะก่อนหน้านี้มีการตกลงกันระหว่างรัฐกับเอกชนในการจ่าย 3 งวดในเวลาที่กำหนด โดยจะไม่คิดดอกเบี้ย หากจะชะลอต้องตกลงกันใหม่ว่าดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร
ส่วนความคืบหน้าคดีบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส หลบเลี่ยงภาษีบุหรี่มากกว่า 68,000 ล้านบาท รองนายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ทราบอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วแต่ยังไม่ยื่นฟ้อง และหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจะต้องไปสู้กันอีก 3 ศาล ไม่ใช่จะได้เงินเลย ใช้เวลาอีกนาน