นายกฯ ประชุม ครม.เตรียมเห็นชอบกรอบความร่วมมือไทย-จีน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ จับตาบ่ายวันนี้ นายกฯ พร้อมคณะ บินฟิลิปปินส์ประชุมเอเปก 17-19 พ.ย.นี้ เน้นกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจ เตรียมชูวาระพัฒนาศักยภาพธุรกิจเอสเอ็มอีให้ผลงานในระดับโลก และอาเซียน เน้นพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สร้างชุมชนที่เข้มแข็ง
วันนี้ (16 พ.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สำหรับบรรยากาศก่อนการประชุม ครม. ณ บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.00 น. ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำคณะผู้บริหารและเครือข่ายเข้าติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวให้แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงเจตจำนงในการร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ภายใต้แนวคิด “อาเซียนร่วมใจ...ไร้ความรุนแรง” (Stop Violence…Asians Together) ขณะเดียวกัน เจ้ากรมแพทย์ทหารบก นำคณะนักเรียนแพทย์ทหาร นักเรียนพยาบาล และศิลปินดาราเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน “วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” และเชิญชวนร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
สำหรับวาระ ครม.ที่น่าสนใจ เช่น วาระ ครม. (1. การลงนามกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 (2. การลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยสากล โดยวิธีเฝ้าตรวจตราอย่างต่อเนื่อง (Universal Security Audit Programme-Continuous Monitoring Approach : (USAP-CMA)) ระหว่างองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศและราชอาณาจักรไทย (3. การลงนามในร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความตกลงที่เกี่ยวข้องภายในกรอบความตกลงฯ ระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กับสาธารณรัฐประชาชนจีน และ (4. มาตรการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ต้นแบบในภูมิภาค นอกจากนี้ น่าติดตามวาระ ครม. ตามที่กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอ แก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 เพื่อให้อำนาจ รฟม.นำที่ดินของ รฟม. ไปพัฒนาเชิงพาณิชย์และเปิดเช่าสิทธิได้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้นำเสนอร่างแก้ไขส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้ว ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบ สำหรับพื้นที่ที่คาดว่าจะนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ เช่น บริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงอาคารสำนักงาน บริเวณรอบๆ สถานีแต่ละแห่ง เช่น ทางขึ้น-ลง และบริเวณทางเดินบนสถานี เพื่อนำมาเปิดให้เช่าพื้นที่ทำธุรกิจเฉพาะธุรกิจที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ใช้บริการขนส่งของรถไฟเท่านั้น
ในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อาคีโน กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 23 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2558 สำหรับหัวข้อหลักของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 คือ การสร้างเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วม การสร้างโลกที่ดีขึ้น โดยมีวาระสำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ (1) การส่งเสริมประเด็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (2) การบ่มเพาะการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก (3) การลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์ (4) การสร้างชุมชนที่ยั่งยืนและแข็งแกร่ง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก โดยจะเน้นย้ำถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งที่มาจากภายในประเทศ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงนโยบายรัฐบาลในการผลักดันและส่งเสริมให้ SME เป็นวาระแห่งชาติ ให้มีการพัฒนานวัตกรรมและใช้ความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล โอกาสนี้จะมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับกลุ่มพันธมิตรแปซิฟิก นั้น จะเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อผลักดันความร่วมมือที่มีศักยภาพและพลวัตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นร่วมกัน