“ปู” ฉงนทำอะไรสร้างความเสียหายต่อรัฐร้ายแรง ถามยึดทรัพย์ชาวบ้านได้ประโยชน์อะไร

“ยิ่งลักษณ์” เหน็บไม่อยู่ในฐานะเรียกร้องความเป็นธรรม แต่โวยชาวบ้านแทน จวกให้จ่ายค่าเสียหายทั้งๆ ที่คดียังไม่เสร็จ ใช้อำนาจตุลาการแทนศาล แถมใช้ ม.44 ให้รัฐและเจ้าหน้าที่รอดถูกฟ้องกลับหรือไม่ เมินข้ออ้างใช้มานาน บอกไม่เหมือนเพราะนายกฯ เลือกตั้งที่ถูกยึดอำนาจ ถูกดำเนินคดีจากนโยบายรัฐ ถามประชาชนได้ประโยชน์อะไร ซัดอะไรเรียกทำสร้างความเสียหายต่อรัฐร้ายแรงทั้งที่เงินถึงมือชาวนา ขู่นำไปเป็นบรรทัดฐานเล่นรัฐบาลต่อจากนี้

วันนี้ (16 พ.ย.) เว็บไซต์เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตีพิมพ์ข้อความระบุถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงคดีโครงการรับจำนำข้าว ว่าคงไม่อยู่ในฐานะจะเรียกร้องอะไรหลังจากนี้ แม้แต่คำว่าความเป็นธรรม เพราะทุกอย่างคงจะดำเนินการไปตามที่รัฐบาลนี้ต้องการ ตนอยากจะขอฝากข้อคิดให้กับประชาชนได้พิจารณาว่า การกระทำแบบนี้หรือที่ คสช.อ้างว่ายึดอำนาจแล้วจะสร้างความปรองดอง ความเป็นธรรม และหลักนิติธรรมในประเทศนี้ได้ ดังนี้ 1. รัฐบาลเลือกใช้วิธีให้กระทรวงการคลังออกคำสั่งให้ตน ชำระค่าเสียหายทั้งที่คดีอาญายังไม่เสร็จสิ้น เท่ากับว่ารัฐบาลใช้อำนาจตุลาการแทนศาล และยังเลือกใช้มาตรา 44 คุ้มครองรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่สอบสวนข้อเท็จจริงให้พ้นจากการถูกฟ้องร้องใดๆ จากตนใช่หรือไม่

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า 2. ที่อ้างว่า พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 นั้นใช้มานานกว่า 19 ปี และกว่า 5,000 คดี ตนเห็นว่าเวลาและจำนวนคดีไม่ใช่สาระสำคัญที่จะใช้เป็นข้ออ้าง เพราะเชื่อว่ายังไม่มีคดีไหนเหมือนตนซึ่งเป็นคดีแรกที่นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชนถูกยึดอำนาจ ถูกดำเนินคดี จากนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาเพื่อช่วยเหลือประชาชน จะเป็นเรื่องของการที่ทำให้รัฐต้องเสียหาย และต้องรับผิดชอบทั้งที่คดีอาญายังไม่เสร็จสิ้น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า 3. รัฐบาลต้องตอบกับประชาชนด้วยว่า การที่เลือกใช้วิธีให้กระทรวงการคลังออกคำสั่งให้ตนชำระค่าเสียหายนั้น ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร และจะรับประกันได้หรือไม่ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ ไม่อยู่ภายใต้การชี้นำ แต่สามารถใช้ดุลพินิจได้อย่างถูกต้องและเที่ยงธรรมเช่นศาล แม้รัฐบาลพยายามที่จะพูดว่าขั้นตอนยังไม่เป็นที่สิ้นสุดและสามารถใช้วิธีการฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้ แต่กลับไม่มีคำตอบว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ให้กระบวนการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นไปตามขั้นตอนของศาลยุติธรรมเพื่อเป็นหลักประกันแห่งการอำนวยความยุติธรรมแทนการใช้วิธีให้กระทรวงการคลังออกคำสั่งให้ตนชำระค่าเสียหาย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุอีกว่า 4. อะไรที่เรียกว่าสร้างความเสียหายต่อรัฐอย่างร้ายแรง ทั้งๆ ที่โครงการรับจำนำข้าวได้จ่ายเงินตรงถึงมือชาวนาผ่าน ธ.ก.ส.ทุกบาททุกสตางค์ 5. การเพิ่มประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเป็นพยานล่วงหน้าในคดีอาญา ถือเป็นข้อสังเกตที่เป็นนัยสำคัญว่าอาจนำผลการสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีแพ่ง ทั้งที่ยังไม่มีข้อยุติมาทำให้เป็นผลร้ายกับตนในคดีอาญาหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นข้อสังเกตที่ตนขอฝากไว้กับประชาชนเพื่อพิจารณา คงไม่คาดหวังความเป็นธรรมจากรัฐบาลนี้อีกแล้ว ดังนั้น หากรัฐบาลตัดสินใจอย่างไร กรณีนี้ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่คงต้องจารึกในหัวใจของตนและประชาชน และจะเป็นบรรทัดฐานที่นำไปใช้กับนายกรัฐมนตรีที่ดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนหลังจากนี้ต่อไป