xs
xsm
sm
md
lg

ฟัง “ปู” ร้องจนเบื่อแล้วนะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

การดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากความรับผิด คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ในทุกรูปแบบ โดยล่าสุด ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกผ่านเฟชบุ๊กถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสในการต่อสู้การถูกเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง

จดหมายเปิดผนึกระบุถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งกำหนดระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานให้เสร็จภายใน 120 วัน และขยายเวลาตามความจำเป็นได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน

นางสาวยิ่งลักษณ์อ้างว่า เงื่อนไขเวลาสอบสวนฯ ไม่เพียงพอที่จะทำให้การตรวจสอบมีความรอบคอบ และไม่เป็นธรรมกับตัวเอง ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งยังระบุว่า ความเร่งรีบในการสอบสวน น่าจะมาจากพล.อ.ประยุทธ์ได้รับรายงานข้อกฎหมายที่คลาดเคลื่อน

จดหมายเปิดผนึกฉบับล่าสุด พรรณนาอะไรมามากมาย แต่ใจความโดยสรุปไม่แตกต่างจากคำแก้ต่างหรือข้อแก้ตัวที่ผ่านมา โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ร้องขอความเป็นธรรมในขั้นตอนดำเนินคดี และยืนกรานความเป็นผู้บริสุทธิ์

เสียงร้องที่ดังไม่หยุดหย่อนของนางสาวยิ่งลักษณ์ ทำให้การเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อน่ารำคาญ จนสังคมเริ่มไม่ใส่ใจแล้ว รวมถึงจดหมายเปิดผนึกที่ส่งผ่านเฟชบุ๊กเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

เพราะรู้กันดีว่า นางสาวยิ่งลักษณ์มีแต่หนังเก่ามาฉาย กลายเป็นสาวแผ่นเสียงตกร่อง ท่องอยู่เดิมๆ อ้างว่าบริสุทธิ์ อ้างว่าไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย อ้างอยู่ได้ว่า ไม่มีการทุจริต ทั้งที่โครงการรับจำนำข้าวเสียหายประมาณ7 แสนล้านบาท ต้องใช้หนี้กันชั่วลูกชั่วหลาน

และเป็นโครงการที่ต่างประเทศยกให้ เป็น อภิมหาโกงระดับโลก โกงกันอย่างซับซ้อน และโกงกันทุกระดับชั้น

แม้จะมีการใช้มาตรา 44 เพื่อเร่งรัดสรุปผลการสอบสวน และความรับผิดในทางแพ่งของนางสาวยิ่งลักษณ์ แต่ประชาชนก็ยังรู้สึกว่า ขั้นตอนที่การให้นางสาวยิ่งลักษณ์ชดใช้ความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวยังช้าเกินไป

เพราะควรดำเนินการทันที โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ประกาศอายัดทรัพย์นางสาวยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน

ศาลฎีกาเพิ่งมีคำตัดสิน ลงโทษ 2 อดีตผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่(บทม.) คดีทุจริตการประกวดราคาประมูลปรับคุณภาพดิน สนามบินหนองงูเห่า โดยสั่งจำคุก 3 ปี 4 เดือน 1 คนและจำคุก 5 ปีอีก 1 คน แต่ทั้งสองคนก็เผ่นหนีไปก่อนแล้ว

ถ้าจะมีการตามเรียกค่าชดใช้ความเสียหายในทางแพ่งในการทุจริต ทำให้รัฐต้องเสียหายจาก 2 อดีตผู้บริหารบทม. ก็ไม่รู้ว่า จะเรียกค่าเสียหายจากไหน เพราะน่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปหมดแล้ว

นักการเมืองหรือข้าราชการที่ทุจริต ถ้าหนีเผ่นไปแล้ว เมื่อตัวไม่อยู่ ทรัพย์สินถูกผ่องถ่ายไปหมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะจับใครมาเข้าคุก จะยึดทรัพย์จากใครมาชดใช้ความเสียหายจากเงินงบประมาณแผ่นดิน

แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ยังอยู่ และทรัพย์สินยังติดตามตรวจสอบได้ ทำไมไม่อายัดทรัพย์ไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันว่า ถ้าต้องรับผิดในทางแพ่ง รัฐจะได้รับการชดเชยความเสียหายจากการทุจริตโครงการจำนำข้าว

แม้จะได้รับการชดใช้ไม่คุ้มกับวงเงินที่เสียหายไปประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเสียเลย

“ยิ่งลักษณ์ ”ถือว่าบุญแล้วที่ไม่ถูกอายัดทรัพย์ พล.อ.ประยุทธ์ใจดีขนาดนี้ ยังจะเอาอย่างไรอีก จะร่ำร้องหาอะไรอีก ไม่เบื่อบ้างหรือ

ความเสียหายจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจำนวนเงินมหาศาล จะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่คนทั้งประเทศต้องร่วมกันแบกรับ กลายเป็นภาระหนักอึ้งของเงินงบประมาณในระยะยาว ดั้งนั้นขั้นตอนการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ จึงไม่ควรจะทอดเวลายาวนายเกินไป

ไม่ว่าการรับโทษทางอาญา หรือการชดใช้ความผิดในทางแพ่ง ต้องรีบเร่งตามที่ประชาชนต้องการเห็น

ส่วนเสียงร้องของนางสาวยิ่งลักษณ์ อย่าใส่ใจมาก เพราะก่อนที่จะดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ทั้งนักวิชาการ ทั้งภาคประชาชน เคยร้องให้ทบทวนโครงการแล้ว โดยระบุถึงความเสียหายมหาศาลที่จะตามมา

แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่เคยฟัง

เมื่อโครงการรับจำนำข้าวสร้างความวิบัติใหญ่หลวงไปแล้ว เมื่อต้องรับผิดกับการทุจริตที่เกิดขึ้นอย่างเต็มตัว ถึงตอนนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกมาส่งเสียงร้อง เพื่อให้พ้นผิด ทำไมจะต้องฟัง

ประชาชนฟัง “ยิ่งลักษณ์” แก้ตัวแก้ต่างมาจนเอียนแล้ว และดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์คงชักเอียนเหมือนกัน จม.เปิดผนึกล่าสุดจึงไม่มีการชี้แจงหรือตอบโต้

“ยิ่งลักษณ์” ร้องได้ร้องไป ไม่ฟังเสียอย่าง ไม่นานคงหยุดร้องไปเอง เชื่อเถอะ





กำลังโหลดความคิดเห็น