อัยการทหารนำตัว 2 มือระเบิดราชประสงค์ ขออำนาจศาลทหารฝากขังต่อ เหตุยังส่งฟ้องไม่ได้ เนื่องจากยังทำสำนวนไม่เสร็จ ลุ้นฟ้อง 24 พ.ย. ขณะที่ “อาเดม” ตั้งทนายเพิ่มอีก 1 ยอมรับสารภาพเรื่องระเบิดทำให้คนตาย แต่ขอหาอื่นขอดูรายละเอียดในคำฟ้องของอัยการ
ที่ศาลทหารกรุงเทพ วันที่ 12 พ.ย. 58 เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวนายอาเดม คาราดัค หรือบิลาล เติร์ก มูฮัมเหม็ด (BILAL TURK MUHAMMED) อายุ 24 ปี และนายเมียไรลี ยูซูฟู (MEI RAI LI YU SU FU) อายุ 26 ปี สัญชาติอุยกูร์-จีน สองผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีวัตถุระเบิดและยุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 38,74 และ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 มาตรา 15, 42 จากกรณีเหตุระเบิด แยกราชประสงค์ ช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค. 58 ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และเหตุปาระเบิดจากสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่พลาดตกลงไปยังแม่น้ำบริเวณท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 58 จากเรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) แขวงถนนนครไชยศรี มายังศาลทหารฯ เนื่องจากผู้ต้องหาครบกำหนดฝากขัง และรอฟังผลว่าอัยการทหาร จะพิจารณาสั่งคดี
โดยผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางมาถึงในชุดนักโทษขาสั้นสีน้ำตาล พร้อมติดโซ่ตรวน ด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยทั้งสองมีสุขภาพแข็งแรงดี เจ้าหน้าที่ทหารและราชทัณฑ์คุมเข้มเพื่อตัวเข้าไปยังศาลทันที
ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่หารและราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองกลับไปยังเรือนจำชั่วคราวเนื่องจากในวันนี้อัยการทหารยังไม่ได้ยื่นสำนวนฟ้อง
นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม ผู้ต้องหาที่ 1 กล่าวว่า ในวันนี้อัยการทหารยังไม่ได้ยื่นสำนวนฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองเนื่องจากคดีมีความซับซ้อน และเอกสารในสำนวนมีจำนวนมาก ดังนั้น ในวันนี้จึงได้เพียงการนำตัวนายอาเดม และนายเมียไรลี มาขออำนาจศาลทหารฝากขังผัดสุดท้ายซึ่งศาลได้อนุญาตให้ฝากขังนายอาเดมตั้งแต่วันที่ 13-24 พ.ย.นี้ ส่วนนายเมียไรลีนั้นตนไม่ทราบวันแน่นอนเนื่องจากไม่ได้เป็นทนายความจึงไม่ได้ดูเอกสาร แต่คาดว่าจะนายเมียไรลีจะครบกำหนดฝากขังหลังจากนายอาเดมประมาณ 3-4 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าอัยการทหารแจ้งหรือไม่ จะยื่นฟ้องทั้งสองเมื่อใด นายชูชาติกล่าวว่า ส่วนตัวคาดว่าอัยการทหารจะสั่งฟ้องและยื่นสำนวนฟ้องต่อศาลภายในวันที่ 24 พ.ย.ที่จะครบกำหนดฝากขังผัดสุดท้ายของนายอาเดม เนื่องจากศาลเร่งรัดให้ทำสำนวนให้เร็วขึ้น ส่วนจะฟ้องข้อหาใดบ้าง จะเป็นไปตามสำนวนการสอบสวน 7-8 ข้อหาหรือไม่ ตนไม่ทราบเพราะขณะนี้ยังไม่เห็นคำฟ้องอัยการ ก็ต้องให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก่อน จึงจะทราบรายละเอียดทั้งหมด แต่ส่วนตัว คาดว่าอัยการอาจไม่ได้ยื่นฟ้องหมดก็ได้ เพราะใน 7-8 ข้อหาชั้นสอบสวนก็มีทั้งการเข้าเมืองผิดกฎหมาย, การปลอมเอกสารราชการ เช่น หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต, ความผิดเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธในกฎหมายยุทธภัณฑ์ และความผิดต่อชีวิต ซึ่งบางข้อหาไม่น่าจะอยู่เขตอำนาจศาลทหาร แต่เมื่อพฤติการณ์เป็นการทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท จึงอาจมีการฟ้องบทหนักสุดฐานฆ่าผู้อื่นและการครอบครองยุทธภัณฑ์
ต่อข้อถามว่า ทนายความได้ต่อสู้เรื่องเขตอำนาจศาลระหว่างศาลทหารและศาลยุติธรรมสำหรับพลเรือนด้วยใช่หรือไม่ นายชูชาติกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นคำร้อง เพราะต้องรอดูรายละเอียดคำฟ้องอัยการก่อน เพราะเดิมทีคดีนี้เริ่มจากศาลพลเรือน คือศาลจังหวัดมีนบุรีที่มีการกล่าวหาความผิดต่อการครอบครองยุทธภัณฑ์อยู่แล้ว แต่ภายหลังมีการดำเนินคดีคาวมมั่นคงในศาลทหาร ดังนั้นจึงต้องรอดูรายละเอียดคำฟ้องอัยการทหารเสียก่อน
สำหรับแนวทางการต่อสู้คดี นายชูชาติกล่าวว่า ที่ผ่านมานายอาเดมก็รับสารภาพข้อหาร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บฯ ข้อหาพยายามฆ่าและร่วมฆ่าผู้อื่นถึงแก่ตายอยู่แล้ว ส่วนข้อหาอื่นนั้นตนยังไม่ได้สอบถามนายอาเดมเนื่องจากยังไม่ทราบด้วยว่าอัยการจะฟ้องข้อหาใดบ้าง
นายชูชาติกล่าวด้วยว่า วันนี้ในส่วนของนายอาเดมได้มีการแต่งตั้งนายคมสันต์ บุญสวัสดิ์ เป็นทนายเพิ่มอีก 1 คนด้วย เพื่อมาช่วยตรวจสอบสำนวนคดีที่มีรายละเอียดมาก รวมถึงเตรียมประสานขอล่ามชาวอุซเบกิสถานที่สามารถพูดภาษาอุยกูร์ได้ เพื่อแปลภาษาในกระบวนพิจารณาหลังจากมีการฟ้องคดีให้แก่นายอาเดมเพื่อให้ได้ความชัดเจนด้วย เนื่องจากนายอาดมไม่ชำนาญภาษาอังกฤษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้งสองถูกตั้งข้อหา ดำเนินคดีฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพกพาอาวุธระเบิดไปในเมือง หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยหลังเกิดเหตุแล้วในวันที่ 29 ส.ค. 58 นายอาเดมถูกจับกุมได้ที่พูลอนันต์ อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก ส่วนนายเมียไรลี ถูกจับกุมที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ในเดือน ก.ย.58