xs
xsm
sm
md
lg

“อาเดม” ย้ำรับคำสั่ง “อับดุลเลาะห์” วางบึ้มพระพรหม แลกช่วยเหลือเดินทางเข้ามาเลเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่นำตัวนายิาเดม คาราดัก หรือ บิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ไปขออนุญาตศาลทหารฝากขังผลัดที่ 4 เมื่อ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทนายความ “อาเดม” เข้าเยี่ยมลูกความใน มทบ.11 สอบถามมูลเหตุจูงใจวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม และผู้ร่วมขบวนการ แต่ยังไม่ได้คำตอบ ยืนยันเพียงว่ารับคำสั่งจาก “อับดุลเลาะห์” หากทำสำเร็จจะช่วยประสานทางการมาเลเซียเพื่อให้เดินทางผ่านไปยังตุรกี

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (8 ต.ค.) ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม คาราดัก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ได้เข้าเยี่ยมลูกความภายในเรือนจำชั่วคราว หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลทหารฝากขังเป็นผลัดที่ 4

นายชูชาติกล่าวว่า ในวันนี้จะพูดคุยสอบถามประเด็นหลักๆ คือ มูลเหตุจูงใจ พร้อมทั้งเส้นทางที่ใช้ในการเข้ามายังราชอาณาจักรไทยที่ชัดเจนว่าเข้ามาเมื่อไหร่ และเข้ามาอย่างไร รวมถึงวิธีการขั้นตอนในการวางแผนก่อเหตุระเบิดว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ เป็นคนไทยจำนวนกี่คนที่เข้าร่วมขบวนการ อีกทั้งการจัดหาที่พักในเมืองไทยโดยวิธีใดใครเป็นผู้ให้การช่วยเหลือ คาดว่าจะใช้เวลาในการพูดคุยกันประมาณ 2 ชั่วโมง โดยจะยังใช้การสื่อสารผ่านภาษาอังกฤษเหมือนเช่นทุกครั้ง เนื่องจากยังไม่สามารถหาล่ามภาษาอุยกูร์ช่วยในการสื่อสารได้

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. หลังจากที่เข้าเยี่ยมนายอาเดมนานกว่า 2 ชั่วโมง นายชูชาติกล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายอาเดมได้สอบถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ยืนยันว่านายอับดุลเลาะห์ อับดุลเราะห์มาน เป็นคนสั่งการให้เอากระเป๋าที่บรรจุระเบิดไปวางไว้ที่ศาลท้าวมหาพรหมในวันที่ 17 สิงหาคม ก่อนถึงจุดวางระเบิดนั้นนายอาเดมได้เข้าไปยังมัสยิดเพื่อไปละหมาด จากนั้นได้นั่งรถแท็กซี่กลับมาเพื่อนำกระเป๋าไปวางตามจุดที่นายอับดุลเลาะห์ได้สั่งการไว้ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม เมื่อนายอาเดมถามหาสาเหตุว่าเหตุใดจึงต้องไปวางที่ศาลท้าวมหาพรหม นายอับดุลเลาะห์อ้างว่าจุดดังกล่าวนั้นมีบุคคลพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก จากนั้นนายอาเดมจึงได้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและถอดวิกก่อนจะหลบหนีไป ทั้งนี้ นายอาเดมยังบอกอีกว่า หากทำงานตามคำสั่งการเสร็จสิ้น นายอับดุลเลาะห์จะประสานงานกับทางมาเลเชียเพื่อให้นายอาเดมเดินทางผ่านไปยังประเทศตุรกี

นายชูชาติกล่าวอีกว่า นายอาเดมเล่าว่าหลังจากก่อเหตุก็ไม่ทราบข่าวหรือรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดเลยเนื่องจากที่ห้องพักไม่มีเครื่องมือสื่อสารใดๆ แต่เมื่อตนให้ดูภาพเหตุการณ์ดังกล่าวก็มีท่าทีที่สลดใจ รู้สึกผิดต่อสิ่งที่กระทำ อย่างไรก็ตาม นายอาเดมบอกเพียงแค่ว่ามาจากประเทศจีนแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจากเมืองใดเพราะเกรงว่าทางการจีนจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเพื่อนและญาติของตนที่เมืองดังกล่าว

“หลังจากนี้คงจะต้องสอบถามอย่างละเอียดก่อนที่จะดำเนินการขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาล คาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะเข้าเยี่ยมนายอาเดมอีกครั้ง” นายชูชาติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณทางเข้ากองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นเคย มีการตรวจ บันทึกภาพรถและบุคคลที่เข้าออกทุกคัน รวมทั้งยังไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวไปทำข่าว เก็บภาพบริเวณด้านหน้าทางเข้า โดยสื่อมวลชนทำได้เพียงสังเกตการณ์บริเวณฝั่งตรงข้ามเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น