ทนายวืดเยี่ยม “อาเดม” ขอเข้าพบใหม่บ่ายนี้ เชื่อภาพนิ่งใช้ยืนยันชั้นศาลไม่ได้

“ชูชาติ กันภัย” ยังเข้าเยี่ยม “อาเดม” ใน มทบ.11 ไม่ได้ ติดพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำเพิ่ม เตรียมขอเข้าพบใหม่บ่ายนี้ พร้อมให้เซ็นใบตั้งทนายใหม่หลังคดีย้ายมาอยู่ศาลทหาร เผยเตรียมถามมูลเหตุจูงใจเปลี่ยนมารับสารภาพ พร้อมเชื่อหลักฐานภาพถ่ายของตำรวจเป็นเพียงภาพนิ่งและไม่ระบุวันเวลา ใช้ยืนยันชั้นศาลไม่ได้



วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม คาราดัก หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาคดีรอบวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ได้เข้าเยี่ยมลูกความภายในเรือนจำชั่วคราว โดยนายชูชาติเปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมนายอาเดมว่า ในการเข้าเยี่ยมวันนี้เพื่อสอบถามมูลเหตุจูงใจในการกลับคำให้การของลูกความ เนื่องจากการพูดคุยก่อนหน้านี้นายอาเดมให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ที่เข้ามาในประเทศไทยเพื่อไปทำงานประเทศที่ 3 เท่านั้น แต่หลังจากนั้นกลับให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นมือวางระเบิด คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงในการพูดคุยครั้งนี้

รายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศบริเวณหน้ามณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารยังคงวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจสอบรถทุกคันที่ผ่านเข้าออกอย่างละเอียด พร้อมบันทึกภาพหมายเลขทะเบียนด้วยกล้องดิจิตอล ส่วนสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามสถานการณ์นั้น ทหารไม่อนุญาตให้ตั้งกล้องบริเวณด้านหน้า มทบ.11 โดยให้สังเกตการณ์อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. หลังจากเข้าเยี่ยมนายอาเดมนานกว่า 3 ชั่วโมง นายชูชาติกล่าวว่า ในวันนี้ยังไม่ได้เข้าเยี่ยมนายอาเดมแต่อย่างใด เนื่องจากตรงกับช่วงที่พนักงานสอบสวนเข้ามาสอบปากคำนายอาเดมเพิ่มเติม วันนี้เพียงให้นายอาเดมเซ็นใบแต่งตั้งทนายใหม่ หลังศาลทหารได้ออกหมายจับเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้คดีบางส่วนต้องขึ้นกับศาลทหาร ยืนยันว่านายอาเดมมีความต้องการให้ตนเป็นทนายในคดีนี้ต่อ และช่วงบ่ายวันนี้จะได้เดินทางไปยื่นเอกสารดังกล่าวที่ศาลทหารกรุงเทพฯ เพื่อศาลทหารมีคำสั่งให้ตั้งทนายความใหม่อย่างถูกต้อง รวมถึงสถานทูตตุรกีออกใบรับรองล่ามก็จะสามารถเข้าเยี่ยมนายอาเดมในฐานะลูกความได้

นายชูชาติกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่จะสอบถามนายอาเดมคงเป็นเรื่องของการที่นายอาเดมรับสารภาพว่ามีมูลเหตุจูงใจมาจากอะไร พร้อมหลักฐานข้อมูลที่พนักงานสอบสวนพบว่ามีรูปถ่ายยืนยัน ซึ่งรูปดังกล่าวเป็นเพียงภาพนิ่ง อีกทั้งยังไม่มีการะบุวันที่และเวลาจึงทำให้ภาพถ่ายดังกล่าวไม่สามารถใช้ในชั้นศาลได้ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาจากการพูดคุยกับนายอาเดมนั้น นายอาเดมได้ให้การปฏิเสธมาตลอด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่ระบุว่าเป็นนายอาเดมทำให้นายอาเดมจำนนต่อหลักฐานหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนไม่เคยได้รับภาพถ่ายดังกล่าวจากพนักงานสอบสวน เห็นรูปภาพผ่านทางสื่อที่มีการเผยแพร่ ทั้งนี้ทางสถานทูตตุรกีได้ส่งล่ามมาให้ตรวจสอบเพราะไม่สามารถยืนยันได้ว่านายอาเดมมีสัญชาติตุรกีหรือสัญชาติจีน และขอยืนยันว่าพาสปอร์ตทั้งหมดที่มีการเผยแพร่ออกมานั้นไม่ใช่ชื่อจริง แต่ยอมรับว่าชื่อนายอาเดมทั้งสองชื่อเป็นภาษาตุรกี และถ้าหากนายอาเดมรับสารภาพจริงก็จะทำงานง่ายขึ้นเพราะจะหาเพียงมูลเหตุจงใจในการก่อเหตุเท่านั้น ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นห่วงของนายอาเดมคือเรื่องของสุขภาพ เพราะก่อนหน้านี้นายอาเดมมีอาการความดันโลหิตสูง และอาหารเป็นพิษ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด