“ศรีวราห์” เผยพนักงานสอบสวนยื่นศาลทหารออกหมายจับแก๊งวางบึ้มราชประสงค์ทั้งเก่า-ใหม่ รวม 16 คน เป็นคนไทยหนึ่งราย ยังไม่เคยถูกออกหมายจับ ขณะเดียวกันได้รับรายงานข้อมูลการสอบสวนเมื่อวานนี้( 24 ก.ย.) ยืนยัน"อาเดม คาราดัก" เป็นชายเสื้อเหลือง พยานหลักฐานชัดเจนจนนำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับ ส่วนกรณี “ตั๊น-จิตภัสร์” ได้เซ็นหนังสือขาดสอบเรียบร้อยแล้ว เท่ากับหมดสิทธิการสมัครตำรวจครั้งนี้
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา12.20 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่าเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับศาลทหารกว่า 10 ราย มีปะปนกันไปทั้งผู้ต้องหาเก่าและผู้ต้องหาใหม่ โดยหนึ่งในนั้นมีนายอาเดม คาราดัก หรือ นายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมย่านหนองจอก ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนใช้พยานหลักฐานอื่นนอกจากภาพกล้องวงจรปิดนั้นอยู่ในสำนวน โดยสรุปได้ว่าคำสั่งจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่าจะให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับภายในวันนี้
ส่วนกรณี น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น ถอนตัวจากการเข้าเป็นตำรวจในตำแหน่งรองสารวัตร กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 นั้น เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ตนได้ลงนามหนังสือคำสั่งว่า น.ส.จิตภัสร์ขาดสอบเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องมายื่นถอนชื่อเป็นลายลักษณ์อักษร เท่ากับหมดสิทธิการสมัครตำรวจครั้งนี้ ส่วนตำแหน่งดังกล่าวจะเปิดต่อหรือไม่นั้น ต้องให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นผู้อนุมัติ เนื่องจากตำแหน่งนี้ที่ถูกร้องขอให้เปิดตำแหน่งที่ขาดแคลนยังคงอยู่ซึ่งอาจจะต้องเปิดรับบุคคลใหม่ที่มีความเหมาะสมเข้ามาแทน เพราะในเมื่อยังขาดแคลนบุคลากรอยู่ก็ต้องสรรหาบุคคลอื่นเข้ามาแทน ในขั้นตอนนี้จะเป็นหน้าที่ของ ตร.ที่จะทำการคัดสรรบุคคล โดยการนำเสนอของหน่วยงานที่รับผิดชอบผ่านมายัง บช.น.เพื่อเสนอเรื่องขึ้น ตร.ให้อนุมัติต่อไป
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า นายอาเดมเป็นชายสวมเสื้อเหลืองหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ต้องรอให้ทางศาลเป็นผู้พิจารณาในการดำเนินการออกหมายจับ ส่วนการเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหานั้น เมื่อวานที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน บช.น.ไม่ได้มีการสอบปากคำผู้ต้องหาแต่อย่างใด ฝ่ายสืบสวนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้ทำการบันทึกถ้อยคำผู้ต้องหา โดยทางพนักงานสอบสวนได้เชิญทางเจ้าหน้าที่ทำการบันทึกถ้อยคำของผู้ต้องหามาสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนคดีดังกล่าว ส่วนที่ใช้ศาลทหารเนื่องจากเป็นการดำเนินการไปตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนหมายจับทั้ง 10 รายเป็นใครบ้างนั้น รอศาลอนุมัติมาก็จะทราบ การแจ้งข้อหาร่วมกันไม่ตัดสิทธิที่ศาลจะพิจารณาลงโทษสนับสนุนในข้อหาเดียวกันทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กรณีที่ทหารความยืนยันว่านายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดมออกมายืนยันรูปพรรณไม่ตรงกับภาพกล้องวงจรปิด พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ทนายสามารถมาให้การในสำนวนได้ โดยเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนให้การลักษณะดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีข่าวออกมาว่าทางตำรวจจะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาแต่ไม่สบายนั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ใครเป็นผู้ยืนยัน ถ้าเป็นทนายกล่าวก็ให้ทนายมาให้การ ส่วนการไปสอบปากคำผู้ต้องหานั้นเนื่องจากผู้ต้องหาอยู่ในที่ควบคุมพิเศษ การจะซักถามจะต้องผ่านทางระเบียบของทางกรมราชทัณฑ์ การดำเนินการทุกขั้นตอนดำเนินการภายใต้การนำกองทัพ ไม่ใช่เราทำเองโดยพละการ ชุดสืบสวน คสช.ก็มี เขาก็ดำเนินการไปตามความรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาได้แล้วถือว่าครบกระบวนการตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามพยานหลักฐาน การสอบสวนจะกระทำที่ใดเวลาใดก็ได้ แต่ให้กระทำโดยไม่ชักช้า แต่เมื่อปรากฏพยานหลักฐานก็ดำเนินการไปตามนั้น ถามว่าตัวละครในขบวนการวางระเบิดครบหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ยังไม่ครบ แต่เอาเท่าที่มีและสืบสวนสอบสวนได้ ถึงครึ่งหรือไม่ยังตอบไม่ได้ แต่ถ้าพาดพิงถึงใครอีกก็จะต้องดำเนินการต่อ
มีรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีศาลทหารออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น สืบเนื่องจากผลตรวจของกลางที่พบในที่เกิดเหตุแยกราชประสงค์จากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พบว่ามีสารประกอบวัตถุระเบิดสารประกอบระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ เมื่อนายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ได้ก็ตีเป็นอาวุธสงคราม เพราะฉะนั้น คดีที่เกิดขึ้นที่ราชประสงค์เลยต้องขึ้นศาลทหาร สอดคล้องกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 50/2557 ให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม โดยที่การกระทําความผิดฐานมีหรือใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะ แต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พุทธศักราช 2490
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกศาลทหารออกหมายจับนั้นมีทั้งสิ้น 16 ราย เป็นคนเดิมที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว 15 ราย และอีก 1 รายเป็นคนไทยที่ยังไม่เคยถูกออกหมายจับ ทั้งหมดมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์
ล่าสุด พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า เมื่อวานยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด แต่ภายหลังจากที่ได้รับรายงานข้อมูลการสอบสวนเมื่อช่วงวันที่ 24 ก.ย. เวลาประมาณ 21.00 น.ที่ผ่านมา ยืนยันว่านายอาเดม คาราดัก เป็นชายเสื้อเหลือง พยานหลักฐานชัดเจนจนนำไปสู่การขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับ ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับ