นายกรัฐมนตรี ขอร้องเกษตรกรปลูกพืชในพื้นที่ไม่มีน้ำฟังข้าราชการพูด เผยโครงการใหม่ปรับเปลี่ยนการปลูกโดยสมัครใจ รัฐสนับสนุนตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ให้พาณิชย์ดูผลผลิตพอตลาดหรือไม่ ยันส่งเสริมทุกภูมิภาคให้มีเกษตรอุตสาหกรรม อย่าขัดขวางเขตเศรษฐกิจพิเศษ ย้ำหวังทุกคนมีรายได้ แต่ไม่สร้างภาระกับสิ่งแวดล้อม ระบุ ครม. อนุมัติ 1.2 หมื่นล้าน ชดเชยต้นทุนการผลิตชาวสวนยาง เจ้าของสวนได้ 900 คน กรีดยางได้ 600 ให้เฉพาะคนที่มีเอกสารสิทธิ ชี้ช่วยพวกฝ่าฝืนคำสั่งไม่ได้
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ว่า ได้เตือนกันมาตลอด ถึงวันนี้มีน้ำ 4,400 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่วันหนึ่งสามารถจ่ายได้ไม่เกิน 20 - 30 ล้าน ในเรื่องการผลักดันน้ำเค็ม การอุปโภคบริโภค แต่ตัวเลขที่มีจะใช้ได้ถึงสักกี่วันก็ไม่รู้ ต้องขอร้องอีกครั้งการปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่มีน้ำ หากฝนไม่ตกแล้วและเกิดความเสียหายจะทำอย่างไร จึงอยากให้ไปฟังที่ฝ่ายข้าราชการพูด ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะไม่ค่อยรับฟัง จะบอกว่าเคยชินกับการทำแบบนี้และจะทำต่อไปให้เป็นหนี้เป็นสินอีกหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่หากเชื่อฟังคำแนะของส่วนราชการก็จะดีขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อว่า โครงการใหม่ที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรฯจะทำในล็อตที่ 2 คือ เรื่องการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชโดยความสมัครใจ ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนตั้งแต่เมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ ปุ๋ย เพื่อให้เห็นผลว่าทำแล้วจะได้แบบนี้ เพราะถ้าหากไม่ให้อะไรเลยเกษตรกรจะไม่มีทุนในการทำ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ จะดูว่า ผลผลิตที่ทำจากความสมัครใจทั้งหมดทั้งประเทศมีเท่าไหร่ ตลาดจะพอเพียงหรือไม่ โดยจะเป็นการดูแลทั้งระบบตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการขาย มิเช่นนั้นจะเดินไปไม่ได้เพราะบังคับก็ไม่ได้ สมัครใจก็ไม่มา
“ส่วนประเด็นหากเกษตรกรเปลี่ยนการปลูกพืชแล้วจะกินอะไรนั้น ไม่ว่าจะปลูกพืชอะไรก็กินอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพราะการปลูกพืชต้องใช้ระยะเวลาในการออกผล แต่ถ้าถามผมว่าจะอยู่กันได้อย่างไร ก็อยู่กันอย่างเก่าเคยอยู่กันยังไงก็อยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่ผมทำให้พวกท่านอยู่ดีขึ้น คือ การส่งเสริมทุกภูมิภาคให้มีเกษตรอุตสาหกรรม ให้เงินจากภาคอุตสาหกรรมช่วยเลี้ยงดูพัฒนาโครงสร้างชีวิต ในระหว่างที่พืชเหล่านั้นยังไม่ออกผลิตผล เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถที่จะแจกจ่ายเงินให้กับท่านได้ ขอทำความเข้าใจ และอย่าได้ไปขัดขวางการทำเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ เพราะเรามุ่งหวังให้ทุกคนมีรายได้ใช้เท่านั้น แต่ต้องไม่สร้างภาระกับสิ่งแวดล้อม หรือทำให้คนเดือดร้อน และไม่เคยคิดให้ใครเอื้อประโยชน์ใครทั้งสิ้น ผมหวังให้ประชาชนทุกคนได้ประโยชน์” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ครม. มีมติอนุมัติงบประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ชดเชยต้นทุนการผลิตเกษตรกรชาวสวนยาง โดยแบ่งให้เจ้าของสวนยาง 900 บาท คนกรีดยาง 600 บาท คิดเป็นสัดส่วน 60 ต่อ 40 โดยจะชดเชยให้เฉพาะเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์ ส่วนผู้ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ เข้าไปดูแลเพื่อหามาตรการช่วยเหลือต่อไป ขณะเดียวกัน เกษตรกรปลูกข้าวโพด ที่มีการบุกรุกที่ดินโดยกลุ่มนายทุน และมีปัญหาผลผลิตล้นตลาด จะให้ลดพื้นที่การปลูกรวมถึงชาวนา ที่ขอความร่วมมือให้ปลูกพืชทดแทนชนิดอื่น เช่น ถั่วเหลือง แต่หากฝ่าฝืนรัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้ ทั้งนี้ควรชั่งน้ำหนักความสมดุลว่าควรปลูกพืชอะไรที่เหมาะสม