พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบันว่าได้เตือนกันมาตลอด ถึงวันนี้มีน้ำ 4,400 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่วันหนึ่งสามารถจ่ายได้ไม่เกิน 20-30 ล้านลูกบาศกืเมตร ในเรื่องการผลักดันน้ำเค็ม การอุปโภคบริโภค แต่ตัวเลขที่มีจะใช้ได้ถึงสักกี่วันก็ไม่รู้ ต้องขอร้องอีกครั้ง การปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่มีน้ำ หากฝนไม่ตก แล้วเกิดความเสียหายจะทำอย่างไร จึงอยากให้ไปฟังที่ฝ่ายข้าราชการพูด ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะไม่ค่อยรับฟัง จะบอกว่า เคยชินกับการทำแบบนี้ และจะทำต่อไป ซึ่งจะเป็นหนี้เป็นสินอีกหรือไม่ตนไม่แน่ใจ แต่หากเชื่อฟังคำแนะนำของส่วนราชการ ก็น่าจะดีขึ้น
ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯ จะทำในล็อตที่ 2 คือ เรื่องกาปรับเปลี่ยนการปลูกพืชโดยความสมัครใจ ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนตั้งแต่เมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ปุ๋ย เพื่อให้เห็นผลว่า ทำแล้วจะได้แบบนี้ เพราะถ้าหากไม่ให้อะไรเลย เกษตรกรจะไม่มีทุนในการทำ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ จะดูว่าผลผลิตที่ทำจากความสมัครใจทั้งหมดทั้งประเทศ มีเท่าไร ตลาดจะพอเพียงหรือไม่ โดยจะเป็นการดูแลทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการขาย มิเช่นนั้นจะเดินไปไม่ได้ เพราะบังคับก็ไม่ได้ สมัครใจก็ไม่มา
"ส่วนประเด็นหากเกษตรกรเปลี่ยนการปลูกพืชแล้วจะกินอะไรนั้น ไม่ว่าจะปลูกพืชอะไร ก็กินอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพราะการปลูกพืชต้องใช้ระยะเวลาในการออกผล แต่ถ้าถามผมว่า จะอยู่กันได้อย่างไร ก็อยู่กันอย่างเก่า เคยอยู่กันยังไงก็อยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่ผมทำให้พวกท่านอยู่ดีขึ้นคือ การส่งเสริมทุกภูมิภาคให้มีเกษตรอุตสาหกรรม ให้เงินจากภาคอุตสาหกรรมช่วยเลี้ยงดูพัฒนาโครงสร้างชีวิต ในระหว่างที่พืชเหล่านั้นยังไม่ออกผลิตผล เนื่องจากรัฐบาลไม่สามรถที่จะแจกจ่ายเงินให้กับท่านได้ ขอทำความเข้าใจ และอย่าได้ไปขัดขวางการทำเขตเศรษฐกิจต่างๆ เพราะเรามุ่งหวังให้ทุกคนมีรายได้ใช้เท่านั้น แต่ต้องไม่สร้างภาระกับสิ่งแวดล้อม หรือทำให้คนเดือดร้อน และไม่เคยคิดให้ใครเอื้อประโยชน์ใครทั้งสิ้น ผมหวังให้ประชาชนทุกคนได้ประโยชน์" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการสร้างความเข้าใจ และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล โดยนายกฯหยิบวารสารจดหมายข่าวรัฐบาล เพื่อประชาชน ฉบับล่าสุด ขึ้นมาพร้อมกล่าวว่า วันนี้อยากจะให้ทุกคนได้ตระหนักรู้ว่า ประเทศไทยมีปัญหาอะไรบ้าง ใน 5 กลุ่มงาน ถ้าทุกคนไม่รู้ปัญหาก็จะเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง ทุกคนต้องร่วมมือแก้ปัญหาของประเทศ เล็ก กลาง ใหญ่ ถ้าไม่ทำวันนี้ วันหน้าจะแก้ไม่ได้เลย เพราะกลไกปกติมันทำไม่ได้ วันนี้พยายามใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว ทำให้มากที่สุด เว้นบางเรื่องที่ติดขัดแต่ต้องไม่ไปผิดกฎหมาย อะไรต่างๆ เช่น ลดเวลาขั้นตอนลง
"ทุกคนต้องร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว นำพาประเทศชาติให้พ้นจากปัญหา หรือกับดักของเราเอง วันนี้กับดักคือ ประชาธิปไตย และเลือกตั้ง ผมไม่ได้ขัดแย้งเลย ก็กำหนดไว้แล้วจะเลือกตั้ง ก.ค.60 ก็ตั้งไป เลือกไป แต่ถามว่าถ้าเลือกตั้งแล้วกลับมาแบบเก่า ใครเป็นคนสัญญากับผม ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก นักการเมืองสัญญาไหม ที่ออกมาพูดกันทุกวันนี้ยังไม่เห็นนักการเมืองพรรคเมืองใดออกมาพูดเลยว่า เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร มีพูดถึงแต่ว่า จะเข้ามาอย่างไร พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ทำให้ไม่มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน เห็นแต่พูดกันเรื่องอำนาจ ทำไมไม่พูดจะแก้ปัญหาเกษตรกรได้อย่างไร หรือจะต้องเก็บไว้เป็นนโยบายหาเสียง ดังนั้นหาเสียงจะทำอะไรใช้เงินที่ไหนต้องนำมาพูด การสัญญาอะไรไว้กับประชาชนต้องทำตามนั้น และต้องไม่ทำให้เกิดผลเสียหายการเงินการคลังประเทศด้วย " นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรฯ จะทำในล็อตที่ 2 คือ เรื่องกาปรับเปลี่ยนการปลูกพืชโดยความสมัครใจ ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนตั้งแต่เมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ปุ๋ย เพื่อให้เห็นผลว่า ทำแล้วจะได้แบบนี้ เพราะถ้าหากไม่ให้อะไรเลย เกษตรกรจะไม่มีทุนในการทำ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ จะดูว่าผลผลิตที่ทำจากความสมัครใจทั้งหมดทั้งประเทศ มีเท่าไร ตลาดจะพอเพียงหรือไม่ โดยจะเป็นการดูแลทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการขาย มิเช่นนั้นจะเดินไปไม่ได้ เพราะบังคับก็ไม่ได้ สมัครใจก็ไม่มา
"ส่วนประเด็นหากเกษตรกรเปลี่ยนการปลูกพืชแล้วจะกินอะไรนั้น ไม่ว่าจะปลูกพืชอะไร ก็กินอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพราะการปลูกพืชต้องใช้ระยะเวลาในการออกผล แต่ถ้าถามผมว่า จะอยู่กันได้อย่างไร ก็อยู่กันอย่างเก่า เคยอยู่กันยังไงก็อยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่ผมทำให้พวกท่านอยู่ดีขึ้นคือ การส่งเสริมทุกภูมิภาคให้มีเกษตรอุตสาหกรรม ให้เงินจากภาคอุตสาหกรรมช่วยเลี้ยงดูพัฒนาโครงสร้างชีวิต ในระหว่างที่พืชเหล่านั้นยังไม่ออกผลิตผล เนื่องจากรัฐบาลไม่สามรถที่จะแจกจ่ายเงินให้กับท่านได้ ขอทำความเข้าใจ และอย่าได้ไปขัดขวางการทำเขตเศรษฐกิจต่างๆ เพราะเรามุ่งหวังให้ทุกคนมีรายได้ใช้เท่านั้น แต่ต้องไม่สร้างภาระกับสิ่งแวดล้อม หรือทำให้คนเดือดร้อน และไม่เคยคิดให้ใครเอื้อประโยชน์ใครทั้งสิ้น ผมหวังให้ประชาชนทุกคนได้ประโยชน์" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการสร้างความเข้าใจ และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล โดยนายกฯหยิบวารสารจดหมายข่าวรัฐบาล เพื่อประชาชน ฉบับล่าสุด ขึ้นมาพร้อมกล่าวว่า วันนี้อยากจะให้ทุกคนได้ตระหนักรู้ว่า ประเทศไทยมีปัญหาอะไรบ้าง ใน 5 กลุ่มงาน ถ้าทุกคนไม่รู้ปัญหาก็จะเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง ทุกคนต้องร่วมมือแก้ปัญหาของประเทศ เล็ก กลาง ใหญ่ ถ้าไม่ทำวันนี้ วันหน้าจะแก้ไม่ได้เลย เพราะกลไกปกติมันทำไม่ได้ วันนี้พยายามใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว ทำให้มากที่สุด เว้นบางเรื่องที่ติดขัดแต่ต้องไม่ไปผิดกฎหมาย อะไรต่างๆ เช่น ลดเวลาขั้นตอนลง
"ทุกคนต้องร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว นำพาประเทศชาติให้พ้นจากปัญหา หรือกับดักของเราเอง วันนี้กับดักคือ ประชาธิปไตย และเลือกตั้ง ผมไม่ได้ขัดแย้งเลย ก็กำหนดไว้แล้วจะเลือกตั้ง ก.ค.60 ก็ตั้งไป เลือกไป แต่ถามว่าถ้าเลือกตั้งแล้วกลับมาแบบเก่า ใครเป็นคนสัญญากับผม ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก นักการเมืองสัญญาไหม ที่ออกมาพูดกันทุกวันนี้ยังไม่เห็นนักการเมืองพรรคเมืองใดออกมาพูดเลยว่า เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร มีพูดถึงแต่ว่า จะเข้ามาอย่างไร พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ทำให้ไม่มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน เห็นแต่พูดกันเรื่องอำนาจ ทำไมไม่พูดจะแก้ปัญหาเกษตรกรได้อย่างไร หรือจะต้องเก็บไว้เป็นนโยบายหาเสียง ดังนั้นหาเสียงจะทำอะไรใช้เงินที่ไหนต้องนำมาพูด การสัญญาอะไรไว้กับประชาชนต้องทำตามนั้น และต้องไม่ทำให้เกิดผลเสียหายการเงินการคลังประเทศด้วย " นายกรัฐมนตรี กล่าว