สปท.เตรียมเปิดประชุมให้สมาชิกเสนอแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญก่อนส่งให้ กรธ.พิจารณา พร้อมเชิญทูตไทยและต่างประเทศแจงเป้าหมายในการปฏิรูปประเทศสัปดาห์หน้า
นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ และ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ทีมโฆษกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แถลงถึงแนวทางการทำงานของ สปท. โดยนายคำนูณกล่าวว่า หลังจากที่ประชุม สปท.ให้ความเห็นชอบร่างข้อบังคับการประชุม สปท. เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท.จะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการสามัญปฏิรูปประเทศทั้ง 11 คณะของ สปท. ขณะนี้มีสมาชิก สปท.แสดงความจำนงเข้ามาเป็นคณะกรรมาธิการสามัญคณะต่างๆ เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมการพิจารณาการดำรงตำแหน่งฯ จะพิจารณาเกลี่ยรายชื่อของสมาชิก สปท.ไปดำรงตำแหน่งตาม กมธ.สามัญชุดต่างๆ ส่วนตำแหน่งประธานและรองประธาน กมธ.สามัญการปฏิรูปชุดต่างๆ นั้น แม้ประธาน สปท.จะมีอำนาจแต่งตั้งเองได้ แต่ประธาน สปท.จะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาบุคคลมาดำรงตำแหน่งประธาน กมธ.สามัญชุดต่างๆ เพื่อให้เกิดความรอบคอบต่อไป
นายคำนูณกล่าวว่า สำหรับข้อเสนอเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญนั้น แม้ สปท.จะไม่มีหน้าที่โดยตรงในการเสนอความเห็น แต่การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องบรรจุในรัฐธรรมนูญ อีกทั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.มีหนังสือถึงประธาน สปท. ขอรับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น สปท.จะเปิดประชุมให้มีวาระอภิปรายทั่วไปเพื่อให้สมาชิก สปท.แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะเปิดประชุมเพื่ออภิปรายวาระดังกล่าวได้ในวันที่ 10 พ.ย. เมื่อได้ข้อสรุปอย่างไรจะส่งให้ กรธ.ทราบต่อไป ขณะเดียวกัน ที่ประชุม สปท.เตรียมเปิดประชุมให้มีวาระอภิปรายเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตด้วย แต่ยังไม่ได้กำหนดวันและเวลา
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า แนวทางการทำงานของ สปท.จะยึดตามกรอบวาระและข้อมูลที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ศึกษาไว้ และเลือกเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนขึ้นมาดำเนินการก่อน ขณะเดียวกันจะประสานงานกับแม่น้ำทุกสายในการทำงาน เชื่อว่าภายใน 1 เดือน กมธ.สามัญปฏิรูปทุกชุดจะสรุปแนวทางการทำงานส่งมาให้ที่ประชุม สปท.พิจารณาได้ โดยต้องมีการรายงานผลงานตลอดในช่วง 1 เดือน แต่หาก กมธ.ปฏิรูปชุดใดมีมติที่เปลี่ยนแปลงไปก็สามารถทำได้ แต่เรื่องใหม่ๆ ควรคิดให้น้อยที่สุด ควรสานต่องานเดิมของ สปช.
นายสุวัฒน์กล่าวว่า ในวันที่ 11 พ.ย. เวลา 10.00 น. สปท.จะเชิญคณะทูตต่างๆ ประจำประเทศไทย จำนวน 76 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 19 องค์กรมารับฟังแนวทางการปฏิรูปประเทศของ สปท.ที่ห้องสารนิเทศ รัฐสภา เพื่อให้ทูตแต่ละประเทศเข้าใจเป้าหมายและแนวทางการปฏิรูปประเทศเพื่อไปชี้แจงกับประเทศของตัวเอง พร้อมเปิดโอกาสให้ทูตต่างประเทศได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ ซึ่ง ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท.จะเป็นผู้กล่าวเปิดการชี้แจงวัตถุประสงค์
ส่วนในวันที่ 14 พ.ย.จะเชิญเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศจำนวน 96 ประเทศมารับฟังแนวทางการปฏิรูปประเทศของ สปท.ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับทราบแนวทางการปฏิรูปประเทศของ สปท. เป็นข้อมูลไปชี้แจงให้นานาประเทศรับทราบ