ปธ.สปท. แจง ต้องประสานแม่น้ำสายต่าง ๆ เพื่อสอดคล้องกันมากขึ้น ทั้งเวลา ทิศทางปฏิรูป เตรียมตั้งวิปฯประสาน 4 องค์กร รับดำเนินการต่างๆต้องระวัง เล็งลงพื้นที่รับฟัง ปชช. ครม. ใช้โอกาสแจงผลงาน
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่รัฐสภา ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ (สปท.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ การทำงานของ สปท. จะต้องมีการติดต่อประสานงานกับแม่น้ำสายต่าง ๆ เพื่อให้มีความสอดคล้องกันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเงื่อนเวลา และทิศทางการปฏิรูปประเทศที่จะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาผลงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้มีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว ซึ่ง ครม. ก็ได้มีมติออกมาหลายเรื่อง และได้ส่งไปให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เสนอความเห็นกลับมาว่า ถ้าจะปฏิรูปและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จะต้องดำเนินการอย่างไร มิเช่นนั้น อาจเกิดความขัดแย้งกันได้ เพราะแนวทางปฏิรูปกับการปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ อาจไม่สอดคล้องกัน ดังนั้น การจะดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ จึงต้องระมัดระวัง
ร.อ.ทินพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตนได้ประสานงานกับ ครม. ไปแล้วว่า ต่อไปนี้การทำงานต้องสอดคล้องกัน โดยองค์กรหลักทั้ง 4 สาย ประกอบด้วย ครม. สปท. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะลงพื้นที่หาข้อมูลรับฟังความเห็นของประชาชนไปพร้อมกันเพื่อเป็นการประหยัดเวลา ประหยัดงบประมาณ และการทำงานจะได้ไม่เกิดซ้ำซ้อนกัน โดย ครม. จะได้ใช้โอกาสในชี้แจงการแก้ปัญหากับประชาชน ว่า ได้ดำเนินการถึงอะไรไปแล้วบ้าง ดังนั้น จึงจะมีการตั้งคณะกรรมการประสานร่วมกันของ 4 องค์กร หรือ วิป ขึ้นมา เพื่อประสานทำงานให้สอดคล้องกัน ส่วนการทำงานระหว่าง สปท. กัน กรธ. นั้น ล่าสุด ทาง กรธ. ก็ได้มีการชี้แจงถึงกรอบการทำงานแล้ว ซึ่งสปท. จะเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญเป็นภาพรวมให้กับ กรธ. ในโอกาสต่อไป