สปท.พิจารณาร่างข้อบังคับประชุม ก่อนเห็นชอบเคาะ 11 กมธ.ขับเคลื่อนปฏิรูป-วิปแม่น้ำ 5 สาย สปท.ขาดลงมติเกิน 1 ใน 3 ประชุมรอบ 90 วันพ้นเก้าอี้
วันนี้ (2 พ.ย.) การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มี ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท.ทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม สปท.ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างข้อบังคับฯ ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธานพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีทั้งสิ้น 104 ข้อ แบ่งเป็น 7 หมวด สาระสำคัญ คือ กำหนดให้มี กมธ.สามัญขับเคลื่อนการปฏิรูป 11 คณะ มีจำนวน 11-23 คน สมาชิก สปท.สามารถเป็น กมธ.ได้เพียงคณะเดียว ให้ประธานกมธ.แต่ละคณะมาจากการแต่งตั้งของประธาน สปท. ส่วน กมธ.วิสามัญมี 2 คณะ คือ กมธ.วิสามัญ ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และ กมธ.วิสามัญ กิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.)
นอกจากนี้ยังให้มีคณะกรรมการประสานงานการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิปแม่น้ำ 5 สาย) เพื่อให้ สปท.ร่วมประสานงานกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกำหนดว่า หากสมาชิก สปท.ขาดลงมติเกิน 1 ใน 3 ของจำนวนการประชุมรอบ 90 วันโดยไม่มีใบลา ก็จะขาดสมาชิกภาพ สปท.ทันที โดยนายเสรีกล่าวว่า ข้อบังคับฯ ทั้งหมดจะสอดคล้องกับมาตรา 27 และมาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 ซึ่งจะเน้นให้การทำงานของ สปท.มีเอกภาพสอดคล้องกับทิศทางของ คสช. จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบข้อบังคับการประชุม สปท.ทั้ง 3 วาระ ด้วยคะแนน 164 ต่อ 4 งดออกเสียง 2