xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” แจงคำสั่งคุ้มครองจัดการข้าวหวังทำ จนท.มั่นใจ ลั่นใครไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง ปัดใช้เล่นอีกฝ่าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกรัฐมนตรี ชี้คำสั่งคุ้มครองผู้บริหารจัดการข้าวแค่ตอกย้ำถ้าสุจริตจะฟ้องไม่ได้ หวังสร้างความมั่นใจให้เจ้าหน้าที่ ใครไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง ยันไม่ได้กลั่นแกล้งอีกฝ่าย ชี้เป็นเรื่องนับ ขาย ระบายข้าว ย้ำทยอยขายกันอยู่ เผย กก.สอบค่าเสียหาย ต่อเวลาได้เรื่อยๆ จนกว่าจะสอบเสร็จ แต่อย่าให้หมดอายุความ

วันนี้ (2 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.45 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ออกคำสั่งคุ้มครองผู้บริหารจัดการข้าวที่อยู่ในสต๊อกทั่วประเทศว่า เป็นหลักปกติธรรมดา ไม่เขียนก็ได้ แต่ต้องการตอกย้ำให้รู้ว่าถ้าสุจริตจะได้รับการคุ้มครอง ไม่สามารถจะฟ้องได้ คือต้องทำตามหน้าที่ แต่ถ้าไม่สุจริต ทำเกินหน้าที่ ไปกลั่นแกล้งจะด้วยตั้งใจหรือประมาทเลินเล่อก็ตาม ไม่ได้รับการคุ้มครอง ถูกฟ้องแน่ และถูกลงโทษทางวินัย เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าหน้าที่ เพราะมีคนเกี่ยวข้องมาก คำสั่งเขียนไว้ชัดผู้มีหน้าที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ตามกฎหมายหรือได้รับการมอบหมาย ใครไม่มีหน้าที่อย่าเข้าไปยุ่ง และขณะนี้ก็พบว่ามีบางคนไม่มีหน้าที่แต่เข้าไปยุ่ง และเดี๋ยวจะมีมาตรการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ออกมาตามมา ขณะที่ในเรื่องของโรงสีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่รับมอบหมายและเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะโดนเหมือนกัน ดังนั้น ต้องสุจริตถึงจะรอด เตือนไว้

นายวิษณุกล่าวว่า คำสั่งนี้ไม่ได้ต้องการไปแกล้งอะไรอีกฝ่าย เพราะไม่เกี่ยวอีกฝ่ายเลย เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ถือเป็นดาบสองคม ให้รู้ว่าคุณสบายใจได้เพราะได้รับการคุ้มครอง อีกอันหนึ่งคุณระวังไว้ถ้าไม่สุจริตคุณโดนแน่ บางทีสุจริตแต่ไม่มีหน้าที่ แต่ไปทำก็โดน เมื่อถามว่า แสดงที่ว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่มั่นใจ เกรงถูกฟ้องในภายหลัง นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ เจ้าหน้าที่กลัว ต้องการความมั่นใจ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ ความจริงเราต้องการปรามเท่านั้นเองว่าคุณถูกฟ้องได้ถ้าไม่สุจริต แต่ก็กลัวว่าจะเกียร์ว่างไปหมด ดังนั้น เราต้องพูดกลับว่าคุณไม่ถูกฟ้องถ้าคุณสุจริต แปลว่าถ้าคุณไม่สุจริตโดนด้วย เมื่อถามว่า แปลว่าเป็นการป้องกันไม่ให้คนไปช่วยอีกฝ่ายหนึ่ง นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตรงนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนับข้าว ขายข้าว ระบายข้าวเท่านั้น เพราะตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้เยอะมาก มันทุกจังหวัด บางทีก็เป็นเอกชน เลยทำให้เกิดความไม่มั่นใจ บางทีฝ่ายเถ้าแก่โรงสีเอาไว้ เขาไม่รู้ว่าวันหนึ่งเขาต้องโดนด้วยหรือไม่

เมื่อถามว่า ช่วงปีกว่าทำไมไม่ทยอยนำข้าวขายออกไป นายวิษณุกล่าวว่า เขาก็ทยอยทำกันอยู่ มีการรายงานในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีการรายงานขายไปแล้วประมาณ 9-10 ล้านตันแล้ว ยังเหลืออีก 13 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวดี ข้าวเสีย ข้าวที่ไม่แน่ว่าดีหรือเสีย เมื่อถามว่า คำสั่งคุ้มครองเจ้าหน้าที่ไปถึงเมื่อไร นายวิษณุกล่าวว่า คำสั่งนี้สิ้นสุดเมื่อเจ้าหน้าที่สิ้นสุดหน้าที่หรือจนกว่าคำสั่งนี้จะหมดอายุ ขณะเดียวกันคำสั่งนี้ก็สามารถยกเลิกได้ด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ มีหนังสือชี้แจงโครงการรับจำนำข้าว นายวิษณุตอบว่า สุดแต่แท้ ก็ต้องไปว่ากัน เมื่อถามว่า มีการทักท้วงว่าดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้งที่การดำเนินการกับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงยังไม่แล้วเสร็จ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นคำชี้แจงที่มีมาตลอด ต้องเข้าใจว่าคนที่เกี่ยวข้องมีหลายกลุ่มมีหลายพวก อายุความไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน หลักกฎหมายที่จะเอามาใช้ก็คนละฉบับกัน

“แต่ถ้ากลุ่มเดียวกัน ทำผิดเหมือนกัน มันก็ต้องจัดการตามลำดับ เหมือนจับมือปืน ก็ต้องจับผู้จ้างวาน เพียงแต่ความผิดส่วนนี้มันคนละประเภท กฎหมายมันคนละฉบับ อายุความดันไม่เท่ากัน อายุความฟ้องเอกชน 1 ปี อายุความฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ 2 ปี ฟ้องเอกชนต้องฟ้องศาลแพ่ง ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐต้องไปศาลปกครอง มันเลยต้องแยกกัน เพราะฉะนั้นใครก่อน ใครหลังมาจัดลำดับไม่ได้แล้ว” นายวิษณุกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า อีกฝ่ายมองว่าการออกคำสั่งนี้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการต่ออีกฝ่าย นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ ถ้าคิดในแง่ร้ายก็คิดได้หมด ไม่ได้เอาตัวนี้ไปเล่นงานฝ่ายตรงข้ามเลยแม้แต่นิดหน่อย ไม่อย่างนั้นไม่ต้องมานั่งสอบให้เสียเวลา ใช้มาตรา 44 ยึดทรัพย์ไปเสียเลย ซึ่งก็ไม่มีการทำ และนายกฯ ก็รับปากว่าห้ามทำอย่างนั้นเด็ดขาด

นายวิษณุกล่าวด้วยว่า ส่วนที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลัง ขอขยายเวลาสอบพยานเพิ่มเติมอีก หลังการขยายเวลารอบแรกครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ถือว่ายังสามารถขอขยายเวลาไปได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าสอบเสร็จ เพียงแต่อย่าให้ขาดอายุความภายใน 2 ปีซึ่งล็อกไว้อยู่แล้ว หมดเดือน ก.พ. 60 แต่อย่าคิดว่าจะขยายเวลาไปถึง ธ.ค. 59 ก็ได้ ซึ่งมันไม่ใช่ กระบวนการที่ขยายเวลากันไปกันมา พอถึงจุดหนึ่งก็ต้องส่งให้คณะกรรมการดูอีก 1-2 ชุด ซึ่งช่วงนั้นต้องใช้เวลานานเหมือนกัน ดังนั้นขั้นตอนที่ 1 จะเอาเวลาขั้นตอนที่ 2 มาใช้หมดไม่ได้ คุณอย่าไปขยายเกินเหตุ วันนี้ขยายเพื่อเปิดให้พยานเข้าชี้แจงตามที่เข้าแจ้งมาเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น