xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ โอดคนโกงภาษีเพียบ ต้องปรับโครงสร้างใหม่หมด แย้มขึ้นแวตแน่หาก ศก.กระเตื้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ประกาศงัดกฎหมายเข้มเคลียร์พวกบุกรุกที่ดิน ยก “ภูทับเบิก” เป็นโมเดล ชวนคนเห็นต่างเสนอไอเดียร่างรัฐธรรมนูญ บ่นเปิดหลายช่องทางแต่ไม่มาร่วมเอง ยันนโยบายปราบมาเฟีย อยากจัดระเบียบสังคมให้น่าอยู่ ไม่ได้ตั้งท่าเล่นงานใคร โอดคนโกงภาษีเพียบ ทำประเทศขาดรายได้ ลั่นต้องปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด แย้มขึ้นแวตแน่หากเศรษฐกิจกระเตื้อง


วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาการบุกรุกที่ดินผิดกฎหมายว่า เรื่องของการใช้ที่ดินเพื่อการท่องเที่ยว ที่ถูกกฎหมายนั้นก็ไม่มีปัญหา จัดระเบียบภายในได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นที่ดินที่มีปัญหาอยู่ในการที่จะสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกบุกรุกอยู่ปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ เราจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน โดยในบางพื้นที่ที่อาจจะมีความบกพร่องก็ต้องหามาตรการรองรับ แต่ทุกคนที่บุกรุกอยู่จะต้องยอมรับในกฎหมาย ส่วนในพื้นที่ที่ถูกต้องก็บริหารจัดการกันให้มีความเรียบร้อย สวยงาม สะอาด เป็นที่ท่องเที่ยว ที่พักของนักท่องเที่ยว

“ตอนนี้การท่องเที่ยวเรากำลังบูมอยู่ เพราะงั้นผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายจะต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นมีการกระทำความผิด จะให้รัฐช่วยเหลืออะไรอย่างไร ถ้าไม่ยอมรับกันก็ช่วยอะไรไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อไปถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรว่า ปัจจุบันรัฐบาลกำลังกำหนดมาตรการช่วยเหลือผลิตผลทางการเกษตรทุกชนิด โดยต้องปรับโครงสร้างทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรได้ยืนอยู่อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนด้วยตัวของตัวเอง ขอเตือนบรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ อย่าได้นำเกษตรกรมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล เพราะรัฐบาลนี้จะไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่ไม่เกิดประโยชน์ แต่จะดำเนินการในลักษณะสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร

“ทุกคณะที่มา ผมได้ให้หน่วยงานชี้แจงไปแล้วว่าถ้าฟังเรา แนวทางของเรา แล้วก็ร่วมมือกับเรา เราก็ดูแลได้ แต่ถ้าไม่เอาอะไรสักอย่างเลย แล้วก็ดื้อดึงขัดขืนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

ในส่วนของกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัจจุบันก็เดินหน้าไป เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมาก็ได้พบแม่น้ำ 5 สาย ทำความเข้าใจร่วมกันว่าเราจะเดินหน้าประเทศอย่างไร และได้พูดถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วย โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐธรรมนูญ เพื่อมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เราต้องหารรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับประเทศไทย ขอความร่วมมือทุกคนมองกลับมาที่ปัญหาว่ามีอะไรบ้าง การแก้ปัญหาควรจะเป็นอย่างไร แล้วโรดแมปในแต่ละเรื่องที่จะต้องปฏิรูปเหล่านี้ ต้องมีการลงรายละเอียดว่าจะแก้ได้อย่างไรให้ยั่งยืน ทั้งนี้จะมีการประสานงานและบูรณาการกัน รับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง เปิดช่องทางให้หลายช่อง สามารถเสนอข้อคิดเห็นเข้ามาได้ เมื่อเริ่มร่างรัฐธรรมนูญแล้วก็จะมีการสร้างความเข้าใจทุกพื้นที่ ขอความกรุณาให้มาร่วมกันด้วย

“ที่ผ่านมาผมตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าคนที่มาฟังนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรมากนัก ก็มาเสนอโน่น เสนอนี่ แล้วยังมีคนที่ถูกชักจูงว่าไม่ต้องมา ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งจะปฏิเสธทุกอย่าง ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ไม่ร่วมมือไม่ร่วมใจทั้งสิ้น แล้วก็ไปอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน ไปโน่นเลย แล้วก็บอกรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงเรื่อง Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement (TPP) ด้วยว่า ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ หารือร่วมกันภาคอุตสาหกรรมกับรัฐบาล ธุรกิจ เอกชน เกษตรกรรม การค้า เพื่อหาข้อสรุปว่าดีหรือเสียอย่างไร จะแก้ไขความเสี่ยงได้อย่างไร อย่าไปคิดว่าจะได้อย่างเดียวก็ต้องมีเสีย แต่เราจะเสียได้แค่ไหนเท่านั้นเอง ทุกส่วนจะต้องร่วมมือกันพิจารณาตัดสินใจ ไม่ใช่พอเข้าไปแล้วมีปัญหาก็โทษรัฐบาล

สำหรับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้มีความชัดเจนขึ้นในทุกกระบวนการ ตนและ คสช.ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรตรงนั้นเลย อย่าไปฟังคนที่มาให้ร้าย เรื่องการพิจารณาจะเร็วหรือช้าก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ตามพยานหลักฐาน สังคมอย่ากดดันมากนัก และอย่าไปฟังแต่สื่อหรือโซเชียลมีเดียที่บิดเบือน

“ตอนนี้ก็แอบอ้างกัน เรื่องความไม่เป็นธรรม ความไม่ยุติธรรม เร่งรัดจนเกินไป ก็ผมบอกแล้วไง ถ้าไม่ผิด ก็คือไม่ผิด จะเร็วจะช้า ไม่ผิดก็คือไม่ผิด จะเร็วหรือช้า ถ้าผิดก็ต้องผิด นี่แหละคือเรื่องข้อเท็จจริง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

หัวหน้า คสช.กล่าวถึงนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลด้วยว่า สืบเนื่องมาจากรัฐบาลมีความเป็นห่วงปัญหาสังคมในปัจจุบันที่มีโจรมิจฉาชีพมากขึ้น มีการใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธสงครามเข้าแก้ปัญหาโดยไม่หวาดกลัวกฎหมาย เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ขับขี่รถแซงกันไปมาก็ยกปืนมาขู่ ทะเลาะกันในครอบครัวก็เอาปืนมาฆ่ากัน สังคมเสื่อมโทรม คนเราใช้อารมณ์เหนือเหตุผลมากขึ้นทุกวัน สิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยมาจากสื่อ มาจากโซเชียลมีเดียที่ไม่ดี ทำให้คนเห็นความรุนแรงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ตนจึงมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนช่วยกันสร้างสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบเรียบร้อย และปลอดภัยให้สังคมกลับคืนมาเป็นปกติ ขอให้สื่อต่างๆ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่ไปขยายความว่าเตรียมจะใช้อำนาจต่างๆ ไปใช้สร้างความรุนแรง ไปเขียนให้เป็นเรื่องเป็นราว บางสื่อชอบทำให้เกิดความขัดแย้ง ขยายความขัดแย้ง โดยไม่ช่วยตนเลย

“คำว่าผู้มีอิทธิพลมีคำจำกัดความอยู่แล้ว หมายถึง บุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมาย รวมความไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด นโยบายนี้ไม่ได้เป็นการไล่ล่าฆ่าฟันใครเพียงแต่กำชับให้มีมาตรการที่เหมาะสมทางกฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

ในส่วนของกระบวนการสร้างความปรองดอง หัวหน้า คสช.กล่าวว่า การต่อต้านต่างๆ นั้นขอร้องอย่ามาอ้างเหตุผล หรือโยนความผิดให้คนอื่น โจมตีกันไปมา ปรองดองไม่ได้ เรื่องนิสิตนักศึกษาได้ให้ครูอาจารย์ต่างๆ ขอร้องกันให้กรุณานึกถึงประเทศชาติด้วย อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง วันหน้าก็เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว วันนี้ท่านต้องรู้ว่าปัญหาประเทศอยู่ตรงไหน ที่ผ่านมาทุกคนมีแรงขับเคลื่อนที่แรง มากมายเมื่อมีคนมาให้ข้อมูลท่านไม่ถูกต้อง ก็ทำให้ท่านเคลื่อนไหวในทางที่ผิด แล้วก็เป็นอันตรายต่อตัวเอง พ่อแม่ แล้วประเทศชาติเสียหาย

นายกฯ กล่าวถึงการจัดหารายได้ของประเทศด้วยว่า รายได้รัฐก็มาจากการเก็บภาษี ภาษีบุคคล นิติบุคคล หรือภาษีอื่นๆ อยากจะทำความเข้าใจว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะเก็บภาษีเพิ่มขึ้น แต่อยากให้ทุกคนลองคิดว่า เราจะทำอย่างไรให้ประเทศเราดีขึ้น เพราะเรามีรายจ่ายชัดเจน ทั้งงบประจำ งบลงทุนซึ่งก็แปรเปลี่ยนไปตามมากน้อย งบเร่งด่วนที่แก้ปัญหา ภัยพิบัติบ้าง ความเดือดร้อนต่างๆ ทำอย่างไรเราจะมีเงินมาสนับสนุนให้มากกว่านี้ ให้เกิดความเป็นธรรมและทั่วถึง ทั้งด้านการศึกษาและการรักษาพยาบาล ถ้าท่านอยากได้อย่างเดียว แต่ไม่ร่วมมือ ไม่ช่วยเหลือ ก็ทำอะไรไม่ได้ การปรับปรุงประสิทธิภาพก็ไม่ได้ ที่ผ่านมาอัตราโครงสร้างภาษีเราไม่เคยได้รับการปรับปรุงอย่างเป็นระบบ ค่อนข้างสับสนอลหม่านกันพอสมควร อีกประการหนึ่งคือจัดเก็บไม่ได้ เพราะความไม่ซื่อตรง มีการโกงภาษีอย่างภาษีบุคคลธรรมดายื่นไว้ 10 ล้านคน แต่เสียภาษีจริงแค่ 3.5 ล้านคน นิติบุคคลเกือบ 2 ล้านราย จ่ายภาษีเพียง 6 แสนราย ภาษีบำรุงท้องที่ก็เก็บเท่าเดิมมา 30 ปีแล้ว นอกจากเก็บได้น้อยและยังเก็บไม่ครบอีกด้วย จึงต้องปรับกันใหม่ทั้งหมด อย่างเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ทุกคนต้องเสียหมดในการซื้อของอะไรต่างๆ ทั้งที่ควรจะขึ้นก็ขึ้นไม่ได้ แต่วันหน้าหากว่ารายได้ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น ทุกคนมีเงินรายได้มากขึ้น อาจจะต้องขึ้นบ้าง จะขึ้นเท่าไรไม่รู้ ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่ขึ้น 1% ได้เงินมาแสนกว่าล้าน แต่ตอนนี้ขึ้นไม่ได้

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 30 ตุลาคม 2558

“สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน สัปดาห์นี้วงการกรีฑาผู้พิการของไทยได้สร้างชื่อเสียง และนำความสุขมามอบให้กับพี่น้องชาวไทยนะครับ โดยคุณเรวัตร์ ต๋านะ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์โลกวีลแชร์ เรซซิ่ง 1,500 เมตร ที 54 มาได้ในการแข่งขันไอพีซี แอธเลติกส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2015 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คุณสายชล คนเจน สามารถคว้าเหรียญเงินมาครอง ในการแข่งขัน 200 เมตร ที 54 อีกด้วยครับ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและชื่นชม ในนามของรัฐบาล ผมขอยกย่องและขอบคุณนักกีฬาทุกคนเลยนะครับ ที่เป็นตัวแทนประเทศ นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยของเรา

วันนี้ผู้มีข้อห่วงใย และเรื่องที่จะเรียนให้ทราบดังต่อไปนี้นะครับ เรื่องอุบัติเหตุทางถนน เป็นเรื่องที่หน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีความกังวล และความห่วงใยมาโดยตลอด มีความพยายามในหลายวิธีการ เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนต้องสูญเสียชีวิต หรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์ รถโดยสาร รถทัวร์ และรถรับจ้าง โดยสถิติการสูญเสียชีวิตนั้น จากการจราจรสูงมากนะครับ ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์อันมีค่า สูงสุดของประเทศ และการสูญเสียทางเศรษฐกิจด้วย คงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครมีความสุขที่ได้เห็นสถิติการเสียชีวิต การบาดเจ็บ ถึงแม้ว่าจะลดลงยังไงก็ตาม แต่ก็มีคนเจ็บคนตายอยู่นะครับ ผมไม่อยากให้มีสักคนเดียว

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้สั่งการทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้วให้ไปหาแนวทางในเรื่องทบทวนหลักเกณฑ์ กติกา ข้อกฎหมาย ในการควบคุมการขับขี่ยานพาหนะ การใช้รถใช้ถนน การจราจร ตลอดจนเงื่อนไขการประกันภัย ประกันชีวิตต่างๆ ให้มีการปรับปรุงมาตราการพลขับ พนักงานขับรถ ทั้งภาครัฐและเอกชน มีเครื่องมือในการควบคุมความเร็ว เรื่องระยะเวลาในการทำงานของพนักงานขับรถ ต้องไม่เกินกี่ชั่วโมงต่อวัน ความเร็วต้องไม่เกินเท่าไร ใช้เครื่องมือควบคุมได้อย่างไรนะครับ ตลอดจนมาตรการควบคุมไม่ให้พนักงานขับรถที่เมาสุรามาขับรถ หรือมีกลิ่นสุรามาขับรถได้ สำหรับรถเมล์ใหม่ รถรับจ้างใหม่ที่กำลังจัดหาจะต้องมีเครื่องมือพิเศษ เช่น จีพีเอส หรือเครื่องควบคุมความเร็ว ควบคุมพลขับ รถเก่านั้นค่อยๆ ปรับปรุงไปนะครับ

อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องการปรับปรุงถนนที่กลับรถทางโค้ง เช่น ทางอันตรายที่ขึ้นเนินอะไรก็แต่ ที่มีความเสี่ยงไม่ปลอดภัย รวมทั้งอุปกรณ์ทันสมัยให้กับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการจราจรเรื่องอุบัติเหตุ ให้มีการบูรณาการงบประมาณของหน่วยงานกับในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยทางถนน ให้กับผู้ใช้รถได้มาดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ และเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม

เรื่องของการท่องเที่ยว สำหรับการใช้ที่ดินเพื่อการท่องเที่ยว ถ้าหากเป็นที่ถูกกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ จัดระเบียบภายในได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นที่ดินที่มีปัญหาอยู่ ในการจะสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกบุกรุกอยู่ปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น ภูทับเบิกเราจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน และตรงตามวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดในบางพื้นที่ที่อาจจะมีความบกพร่อง ไม่ถูกต้อง มันจะต้องมีมาตรการรองรับนะครับ ทุกคนที่บุกรุกอยู่จะต้องยอมรับในกฎหมาย กฎหมายว่ายังไงก็ว่าไปตามนั้น ไม่ใช่ว่าก็คงประกอบการต่อไป แต่จะต้องหาทางว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรกับบุคคลเหล่านี้ แต่ถ้าในพื้นที่ที่ถูกต้องก็ไปบริหารจัดการกันให้มีความเรียบร้อยสวยงาม สะอาด และเป็นที่พักของนักท่องเที่ยว ตอนนี้การท่องเที่ยวเรากำลังบูมอยู่

เพราะฉะนั้นผู้ที่กระทำความผิดกฎหมาย จะต้องยอมรับว่าตัวเองนั้น มีการกระทำความผิดอยู่ จะให้รัฐช่วยเหลืออะไรอย่างไร ถ้าไม่ยอมรับกันก็ช่วยอะไรไม่ได้นะครับ อีกประการหนึ่งคือประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐด้วย ช่วยกันเคารพกฎหมาย ไม่สนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ ผิดกติกาที่กำหนด โดยไม่มีการบอกว่าทำผิดด้วยความจำเป็น เพราะไม่มีรายได้ หรืออยากให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยที่ไม่ได้ดูว่าบุกรุกสถานที่หรือเปล่า บุกรุกป่าไม้หรือเปล่า อะไรทำนองนี้ เรากำลังทำเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนขึ้นต่อไปในอนาคตและยั่งยืนด้วย

สำหรับในเรื่องผลิตผลทางการเกษตรทุกชนิดนั้น ปัจจุบันรัฐบาลกำลังกำหนดมาตรการช่วยเหลือ ในการปรับโครงสร้างการเกษตร เพื่อให้ชาวเกษตรกรได้ยืนอยู่อย่างเข้มแข็ง และยั่งยืนด้วยตัวของตัวเอง เข้มแข็งจากภายใน ดังนั้นผมขอเตือนบรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ ว่าอย่าได้นำเกษตรกรมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล เพราะรัฐบาลนี้จะไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่ไม่เกิดประโยชน์แก่ตัวท่าน เราจะดำเนินการในลักษณะสร้างความเข้มแข็งให้พวกท่าน ขอเป็นให้ทุกคนร่วมมือกับเราในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบแล้วก็ยั่งยืนจะดีกว่า ทุกๆ คน ทุกคณะที่มานี่ ผมได้ให้หน่วยงานชี้แจงไปแล้วว่า ถ้าฟังเรา แนวทางของเรา แล้วกร่วมมือกับเราๆ ก็ดูแลได้ แต่ถ้าไม่เอาอะไรสักอย่างเลย แล้วดื้อดึงขัดขืนต้องดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับมาตรการในการช่วยเหลือด้านภาระหนี้สินต่างๆ เราทราบดีนะครับ ปัญหาของเราอยู่ที่ว่า หนี้ทุกคนมีเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกร ครู ข้าราชการ หรือหนี้ครัวเรือนของประชาชนทั่วไป ผ่านมาเป็นเวลาที่ยาวนานมาแล้ว ทุกคนลำบาก ทุกคนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไปกู้ธนาคารบ้างอะไรบ้าง แต่ต้องกลับมาทบทวนดูว่า การที่เรามีหนี้นั้นเป็นหนี้เกิดจากอะไร เพราะฉะนั้นอย่าให้เพิ่มเติมจากเดิม

รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้นะครับ คงต้องใช้เวลา และก็มีมาตรการที่เหมาะสม จะต้องแก้ทั้งระบบ โดยการช่วยเหลือของระบบธนาคารรัฐ ธนาคารพาณิชย์อะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องระมัดระวังหนี้ NPL นะครับ คงไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า ไม่ยั่งยืน วันหน้าก็เกิดขึ้นมาใหม่อีก จะทำยังไง เราไม่อาจจะยกหนี้สินให้ใครได้ทันที มีหลายกลุ่มนะครับ จะพยายามมาบีบบังคับให้รัฐบาลยกหนี้ให้ทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ นึกถึงคนอื่นเขาด้วย ทำไม่ได้หรอกครับ เป็นเรื่องการประกอบการในเรื่องของการธนาคาร แหล่งเงินทุนต่างๆ นะครับ ขอร้องในส่วนของเงินทุนนอกระบบด้วย ขอให้ระมัดระวังอย่าให้ผิดกฎหมาย ดูแลคนให้มีความสุขนะครับ

วันนี้มันวุ่นวายไปทุกเรื่องเลยทั้งความจน ทั้งการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งความลำบากต่างๆ เหล่านี้ ทำให้บ้านเมืองสับสนอลหม่านไปทั้งหมดเลยนะครับ เพราะอย่างนั้นปัญหาเหล่านี้เรากำลังแก้อยู่ทั้งระบบ ทั้งหมดเลย คน 70 ล้านคน นี่ทำยังไงจะอยู่อย่างมีความสุข ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือร่วมกันพิจารณาหาทางออกให้ได้ อย่าคิดว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะได้ทั้งหมด ได้แบบที่ต้องการ มันไม่ได้หรอกครับ เพราะรัฐบาลไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไป เรากำลังพิจารณาทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะของประเทศ ได้มีการพูดคุยในฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังแล้วว่า จะทำกันยังไงนะครับ สิ่งใดที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือไม่มีมูลค่าในอนาคต วันนี้รัฐบาลไม่อยากจะสนับสนุน

สำหรับมาตรการที่รัฐบาลออกไป เพื่อให้คนมีรายได้น้อย ได้มีที่อยู่อาศัย และเป็นการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น อาจจะเป็นหนี้ที่เกิดจากการกู้เงิน เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เราต้องมีมาตรการป้องกัน มีมาตรการไม่ให้เป็นหนี้สูญอีกเช่นกัน อันนี้หลายคนสงสัยว่า จะเหมือนกับรถยนต์คันแรกหรือเปล่า ถ้าเรามองเผินๆ นะครับ อาจจะคล้ายกันหรือเปล่า แต่ถ้ามองในข้อเท็จจริงแล้ว มันไม่เหมือนหรอก เพราะว่าเราไม่ได้มีการคืนภาษีเป็นเงินสดไปก่อน วันนี้ก็ต้องผ่อนชำระกันไป อะไรกันไป มีการลดดอกเบี้ยบ้าง ลดการผ่อนชำระบ้าง อะไรบ้าง

เป็นการแก้ปัญหาด้วยระบบการเงินการธนาคาร หรือมาตรการทางภาษี ไม่ใช่คืนเงินสด ต้องไปหาเงินสดมาคืนให้ไปก่อน ทุกคนก็ซื้อกันใหญ่โต มันก็เป็นการสร้าง Demand เทียมไป วันนี้ก็โชคดีที่มันดีขึ้นนะครับ ในเรื่องของธุรกิจการส่งออก หรือธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องยานยนต์ วันนี้ก็เริ่มดีขึ้น แต่ติดปัญหามาหลายปีมาแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้สร้าง Demand เทียม เราจะต้องทำอะไรไม่ผิดวินัยการเงิน การคลัง

มาตรการทางภาษีเป็นสิ่งที่รัฐสามารถทำได้ แล้วจะต้องได้รับความร่วมมือทั้งสถาบันการเงิน ทั้งรัฐและเอกชนร่วมมือกัน แล้วรัฐจะต้อง ช่วยเหลืออยู่แล้วนะครับในส่วนนี้ ไม่ใช่ว่าปรับให้เปล่า แล้วเราไม่ช่วยดูแลเลย มันคงไม่ได้ รัฐบาลดูแลอยู่แล้ว หลายคนพูดว่า รัฐบาลช่วยให้กู้ๆ แต่รัฐบาลไปดูแลเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ รัฐบาลต้องเสียเงินเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่เสีย แต่เสียยังไงให้เกิดความยั่งยืน และใช้เงินให้น้อยที่สุด เพราะเงินเราน้อยลงๆ รายได้ก็ได้น้อยลงอีกเหมือนกัน

เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ปัจจุบันก็เดินหน้าไป ขอบคุณทุกคน เมื่อวานได้พบแม่น้ำ 5 สายแล้ว ก็ทำความเข้าใจร่วมกันว่า เราจะเดินหน้าประเทศอย่างไร ด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกัน ด้วยการบูรณาการ แล้วก็การมีส่วนร่วมของประชาชน วัตถุประสงค์ที่เราต้องการก็คือ ทำยังไงให้ประเทศชาติและประชาชนปลอดภัย มีเสถียรภาพ ได้พูดถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะมีกลไกอะไรก็แล้วแต่ มีการดำเนินการในช่วงระยะเวลาที่เปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐรรมนูญ และเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องหารัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับประเทศไทยของเราให้ได้ ขอความร่วมมือด้วย จากทั้ง กรธ. สนช.สปท. คงเข้าใจกันดีแล้ว ประเด็นสำคัญก็คือว่า ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคณะทำงานใดๆ ก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ต้องมองกลับมาที่ปัญหาของบ้านเรา โจทย์ของบ้านเราว่ามันมีอะไรบ้าง แล้วมันเกิดจากปัจจัยภายใน ภายนอก อย่างไร เพราะฉะนั้นขั้นตอนในการแก้ปัญหาควรจะเป็นอย่างไร วิธีการ How to do? แล้วก็โรดแมปในแต่ละเรื่องที่จะต้องปฏิรูปเหล่านี้ ต้องมีการลงรายละเอียดว่าจะแก้ได้อย่างไรให้ยั่งยืนนะครับ จะต้องมีการประสานงานกัน การบูรณาการกัน รับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องนะครับ พวกที่เราเปิดช่องทางให้หลายช่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในช่องของ กรธ. สนช. สปท. แล้วก็มีช่องทาง ทางโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์เยอะแยะไปหมด

เสนอเข้ามาซิครับ แล้วในส่วนของการรับฟังความคิดเห็น เดี๋ยวพอเขาเริ่มร่างเริ่มทำอะไรกัน เขาจะไปสร้างความเข้าใจทุกพื้นที่นะครับ ขอความกรุณาให้มาร่วมกันด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นนะครับ ที่ผ่านมาผมตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า คนที่มาฟังนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีปัญหาอะไรมากนัก ก็มาเสนอโน่น เสนอนี่ แต่คนที่ถูกชักจูงว่าไม่ต้องมา ก็มีอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนี้จะปฏิเสธทุกอย่าง ผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรนะครับ ไม่ร่วมมือไม่ร่วมใจทั้งสิ้น แล้วไปอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนไปโน่นเลย แล้วบอกรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ก็เปิดมา ก็มาซิครับ วันนี้ผมก็รับจากทุกทาง

หลายท่านเขียนจดหมายมาโดยตรงที่ผมด้วยว่า ขอร่วมมือกันตรงนั้นตรงนี้ ผมยินดีนะครับ วันนี้ผมก็ได้ให้คนไปพบปะกับ ทั้งอาจารย์ นิสิต นักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยนะครับ ขอร้องกันว่าวันนี้ประเทศชาติเป็นอย่างไร ขอให้เข้าใจหน่อยเถิดครับ วันหน้าต้อง กลับมาสู่การเป็นประชาธิปไตยอยู่ดี วันนี้เรียกร้องกันวันนี้ ปฏิรูปไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนคิดว่า ไม่ต้องปฏิรูปอะไรเลย ผมก็จนใจ มีปัญหาหมด ทางกฎหมายด้วยอะไรด้วย ผมไม่อยากทำให้ทุกคนเดือดร้อน

เรื่องของการจัดระเบียบสังคมนะครับ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ป่าเขา ชายหาด การจัดระเบียบ รถจักรยานยนต์รับจ้าง คิวรถตู้ การค้าขายบนทางเท้า หาบเร่ แผงลอย ทหารได้จัดไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา บางพื้นที่ยังเรียบร้อยอยู่ ประชาชนมีความสุข มีความทุกข์อยู่บ้างสำหรับคนที่เคยกระทำความผิดอยู่ในบริเวณนั้น ทำไม่ได้ยังไง พอผ่านไปแล้วจะไปทำเรื่องอื่น ทหารจะไปตรงอื่นต้องกลับมาดูที่เก่าใหม่ ผมไม่ทราบว่าประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในพื้นที่ดูแลกันอย่างไร บางครั้งผมได้ข่าวมาด้วยนะครับ เจ้าหน้าที่ไปอ้างว่า เพราะ คสช.มาทำให้เขาลำบาก นี่เจ้าหน้าที่แบบนี้ยังมีอยู่เลย

เพราะฉะนั้นขอให้ กทม.ได้มีการตรวจสอบด้วยในทุกพื้นที่ ต้องเข้าใจกัน สร้างความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่เอาตัวรอด ที่ทำมานี่เพราะ คสช. สั่ง เพราะนายกฯ สั่ง ผมสั่งเพื่อใคร แล้วท่านต้องทำงานอย่างไร อย่าให้เกิดขึ้นอีกโดยเด็ดขาด การบุกรุกสถานที่ต่างๆ เหล่านี้ ไม่เป็นระเบียบ ถ้าอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรง ผมจะเริ่มพิจารณาโทษ เพราะว่าปล่อยให้กลับมาเหมือนเดิมอีกไม่ได้ อย่าให้ทั้งประชาชนคนไทย ทั้งต่างประเทศ นักท่องเที่ยว เขาเดือดร้อน การตรวจสอบต่างๆ ที่ผ่านมานั้น ขอให้หน่วยงานระดับล่างนะครับ ลงไป ได้ลงไปในพื้นที่ แล้วไปดูว่าสิ่งที่เราทำกันวันนี้ มันสามารถจะทำต่อไปได้หรือไม่ ที่ผ่านมามีปัญหาอย่างไร แล้วนำเรื่องที่เป็นปัญหานั้นมาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาแก้ปัญหา แต่เรื่องที่ต้องรักษาระเบียบกติกาต้องมาก่อน แล้วทำยังไงจะไม่เกิดความขัดแย้ง ไม่สร้างปัญหาใหม่

เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องมาพิจารณาว่า ถ้าสมมุติว่าหน่วยงานในพื้นที่ หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงทำไม่ได้ก็ยุบไปเลยดีกว่า จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องเหล่านี้ จากพลเรือน ตำรวจ ทหารไหมก็ไปหาทางออกมา ถ้ายังปล่อยกันอยู่แบบนี้ ไม่เกิดประโยชน์ ในการที่จะให้รับผิดชอบอะไรสักอย่างก็ไม่ได้ทั้งหมดนั้นแหละ วันหน้าก็เกิดขึ้นมาใหม่ และข้อสำคัญคือประชาชนต้องมีส่วนร่วมด้วย เริ่มตั้งแต่ ไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ไปหาทางอออกว่าจะไปทำอาชีพอะไรยังไง ที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นเขา ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล การค้าขายถ้าค้าขายในที่ไม่ถูกต้องอย่าไปอุดหนุนกันเป็นการอุดหนุนที่ไม่ถูกวิธี

สำหรับในเรื่องของการรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ต่างๆ ริมแม่น้ำ คูคลองผมยังเป็นห่วงอยู่ ต้องมีการแก้ไขการบุกรุกให้ได้อย่างยั่งยืน แล้วดูแลว่าจะทำยังไงกัน สำหรับผู้ที่เดือดร้อน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องผิดกฎหมายทั้งสิ้น ที่ทุกคนทำมาจนเป็นปกติ เมื่อบังคับใช้กฎหมายก็บังคับไม่ได้ ในลักษณะเป็นการผ่อนชำระ ราคาถูกอะไรก็แล้วแต่ ดูแลทั้งหมดกำลังทำเป็นแผนงานอยู่ทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ชั้นผู้น้อย เป็นหลักก่อน รวมทั้งประชาชนด้วยในทุกจังหวัดทุกพื้นที่ ซึ่งต่อไปนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกหลายพื้นที่ที่เคลียร์ไปแล้ว จะต้องไม่กลับมาใหม่ แล้วก็ดำเนินการหามาตรการดูแลให้ได้

เรื่องคูคลองหลายแห่งตื้นเขินวันนี้ มีปัญหาเรื่องการส่งน้ำ การระบายน้ำ เวลาน้ำท่วมก็มีปัญหา น้ำแล้วก็ส่งน้ำไปไม่ได้ จากคูคลอง ไปคลองซอย คลองอะไร เพราะมันตันทั้งหมด ไม่ได้รับการดูแลมาผมไม่รู้ว่าหน้าที่ของใคร มีหน้าที่ของ อบท.บ้าง ซึ่งเป็นหลักเมื่อรัฐสร้างอะไรไปแล้ว ต้องดูแลในขนาดเล็กต่างๆ เหล่านี้ ต้องดูแล ท่านมีเงินมีทองอยู่ส่วนหนึ่ง ถ้าไม่พอก็บอกออกมา รัฐบาลจะต้องหาเงินไปเสริมให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ว่าผ่านมาทั้งหมด ก็ตื้นเขินเหมือนเดิม ไปตรวจทีอะไรที ก็เห็นแต่ความทรุดโทรม ใช้การไม่ได้ ตอนสร้างเสร็จแล้วส่งไปให้รับผิดชอบนั่นแหละครับ ตอนนั้นมันก็ดีอยู่ แล้วท่านบอกว่า ไม่มีเงิน ไม่มีทองดูแล แต่มันไม่ใช่อย่างเดียว ไม่มีเงินก็โอเค รัฐจะต้องดูแลให้ แต่ปัญหาคือท่านไม่ดูซะมากกว่า มันเลยแย่ไปหมด นี่ต้องเสียหายไป 70-80% แล้วจะทำยังไง อย่าให้เกิดขึ้นอีกนะครับ

เรื่องการทิ้งขยะก็เหมือนกัน อย่าทิ้งสิ่งปฏิกูลต่างๆ หรือขยะลงไปในแม่น้ำในน้ำ ลำคลองต่างๆ มันเป็นบ่อเกิดของน้ำเสีย สำหรับเรื่องการจัดการเรื่องขยะนั้นเป็นเรื่องใหญ่นะครับ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่สำคัญ ไม่จำเป็นไม่เห็นต้องสร้าง ไม่เห็นต้องทำ ไม่เห็นต้องใช้จ่ายงบประมาณ วันนี้เราทราบอยู่ว่าเรื่องขยะนั้น เป็นหน้าที่ของ อปท.นะครับ ซึ่งอาจจะมีงบประมาณน้อยไม่เพียงพอ เพราะอะไรล่ะครับ เพราะอัตราเก็บเงินค่าขยะน้อยมาก รู้สึกจะเดือน 20 กว่าบาท จะทำได้ยังไงวันนี้ ในเมื่อคนมากขึ้น พื้นที่มากขึ้น ขยะมากขึ้น ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย เรื่องรายได้รายจ่ายอะไรต่างๆ มันติดขัดไปหมด เพราะอะไรครับ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ดูในรายละเอียดนี่คือเรื่องเล็กๆ มันเลยทำให้เกิดเรื่องใหญ่ๆ เกิดปัญหาทับซ้อนมาตามลำดับ ทุกคนต้องการความสะอาด แต่ทุกคนไม่ยอมเสียสละ เจ้าหน้าที่ทำงานไม่ได้ บางอย่างบางครั้งก็มีการทุจริตโกงกินเข้าไปอีก เรื่องวุ่นไปทุกเรื่องเลย วันนี้ต้องกลับมาทบทวนดูว่า จะทำอย่างไร นำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ทำขยะให้เป็นทรัพย์สินที่มีค่า เกิดอาชีพรายได้ ห่วงโซ่คุณค่า และในเรื่องของพลังงานด้วยนะครับ เพราะว่าถ้าเราต่อต้านกันกันเรื่องพวกนี้ต่อไป ขยะมันจะมากขึ้นๆ ปีหนึ่งหลายร้อยหลายพันตัน ทุกเดือนสะสมกันเข้าไป แล้ววันหน้าเป็นขยะพิษนะครับ วันนี้ถูกเรียกร้องให้ดูแลความสะอาด แต่ทุกคนไม่ช่วยกันเสียสละ เงินค่าขยะ 20 กว่าบาท ยังบ่นกันอยู่อีก พอจะเพิ่มอีกก็ไม่ได้

เพราะฉะนั้นไปชั่งน้ำหนักให้ดีนะครับว่า เราจะทำกันยังไงดี ผมอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับเรื่องเหล่านี้นะครับ ถ้าท่านไม่เข้าใจเสียตั้งแต่แรก คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ส่วนรวมก็ไม่เกิด มันต้องมี Give มี Take อะไรกันบ้างนะครับ เจ้าหน้าที่เขาจะทำได้ยังไงล่ะ ไม่มีเงิน เพราะงั้นเราต้อง พิจารณาดูว่าอะไรมากอะไรน้อย เสียหายอย่างไร แก้ไขได้หรือไม่ ถ้าแก้ไขได้ก็จำเป็นต้องทำนะ ไม่งั้นมันเกิดปัญหาส่วนรวม กับพื้นที่ด้วย อย่าเห็นแก่ตัวกัน กลายเป็นว่าพื้นที่เราก็ไม่ให้ใครมาทิ้ง ไม่ให้สร้างโรงขยะ ไม่ให้สร้างที่หลุมขยะอะไรต่าง ๆ แล้วแต่ แล้วจะไปทิ้งที่ไหน ในเมื่อจำเป็น แต่ทำยังไงที่เกิดมานั้นจะเกิดประโยชน์ กับชุมชน และประชาชนในแถบนั้นด้วยนะครับ เราต้องสร้างสมดุลให้ได้นะครับ ผมฝากข้าราชการไปทำความเข้าใจให้ได้ด้วยนะครับ ในเรื่องเหล่านี้ อย่าให้เกิดความขัดแย้งอีกต่อไปอีกเลยนะครับเวลาเราจำกัดนะ

สัปดาห์ที่ผ่านมานะครับ ผม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจนะครับ ได้มีการพบปะพูดคุยกับนักลงทุนหลายบริษัท เพื่อรับทราบถึงปัญหาข้อขัดข้อง หาแนวทางที่ทำให้เกิดความร่วมมือให้ได้โดยเร็ว เป็นที่น่ายินดีที่นักลงทุนรายใหญ่หลายบริษัท อาทิ ฟอร์ด มาสด้า มิตซูบิชิ โตโยต้า ซีเกต สหพัฒน์ ซัมซุง และอื่น ๆ นะครับ ยินดีที่จะลงทุนต่อไปในประเทศไทยต่อไป โดยอาจจะต้องมีปรับรูปแบบ และเพิ่มการลงทุนให้มากขึ้น

รวมทั้งเราจะเพิ่มเติมในเรื่องการศึกษาวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี แล้วก็การสร้างความเข้มแข็งให้กับคนไทย ทุกบริษัทยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพ และเสถียรภาพของไทยนะครับ ในการเจริญเติบโตในอาเซียน

ดังนั้นเราเองก็ต้องปรับรูปแบบการลงทุน ปรับตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงกติกาของหลายๆประเทศเปลี่ยนไป เราก็จำเป็นต้องแข่งขันกันในเรื่องนี้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนให้แก่ชาวต่างชาติต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่งั้นเราก็จะด้อยไปเรื่อยๆ ขีดความสามารถในการแข่งขันเราก็ลดลงไปตามลำดับ ฉะนั้นการลงทุนในประเทศของเรานั้น หลายบริษัทที่อาจเห็นว่ามีการย้ายออกไป เขาก็อธิบายว่าเป็นโรงงานเก่า ที่ย้ายไปเพราะเป็นการผลิตสินค้าขั้นพื้นฐาน เขาก็จะหาโรงงานที่ทันสมัยเข้ามาแทน ก็ฝากเรียนพ่อแม่ พี่น้องด้วย อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอเวลาสักนิดหนึ่งก่อน เขาจะปรับปรุงพื้นที่ โรงงานต่างๆ ให้ทันสมัยขึ้นนะครับ ก็จะมีการจ้างงาน จ้างอะไร เหมือนเดิม วันนี้ก็ต้องหาอาชีพอื่นไปก่อน เขาจะเพิ่มเป็นโรงงานที่มีการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มเข้ามาแทน ก็ดีจะได้พัฒนาประเทศไทยในเรื่องนี้ด้วย เรื่องนวัตกรรม เรื่องการวิจัยและพัฒนา

สำหรับเรื่องการเจรจาเขตการค้าเสรี ที่เรียกว่า FTA เราก็ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องก็หลายอย่างก็ได้มีความคืบหน้ามาตามลำดับ เรื่อง RCEP กับประเทศต่าง ๆ นั้น ก็อีกอันหนึ่ง กำลังดำเนินการอยู่หลายประเทศที่เกี่ยวข้องก็มีความก้าวหน้าทั้งตุรกี ชิลี อาเซียน + 6 จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็กำลังเดินหน้าอยู่ในเรื่องเหล่านี้ เมื่ออีกไม่กี่วันนี่ผมก็ต้องไปประชุมเกี่ยวกับเรื่องของเขตเศรษฐกิจของอาเซียน จะร่วมมือกันอย่างไรกับประเทศอื่นๆ ประเทศต่างๆ หลายประเทศด้วยกัน ในเดือนหน้า

เรื่อง TPP เช่นกันนะครับกำลังศึกษาอยู่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน ที่หารือร่วมกันภาคอุตสาหกรรม กับรัฐบาล ธุรกิจ เอกชน เกษตรกรรม การค้า อื่น ๆจะต้องหาข้อสรุปให้ได้ว่ามันดี มันเสียอย่างไร จะแก้ไข ความเสี่ยงได้อย่างไร อย่าไปคิดว่าจะได้อย่างเดียว ก็ต้องมีเสีย เราจะเสียได้แค่ไหน เท่านั้นเอง ทุกส่วนจะต้องร่วมมือกัน พิจารณาตัดสินใจร่วมกัน หากจะต้องเข้าเป็นภาคี ไม่ใช่วันหน้า วันนี้อยากเข้า พอวันหน้ามีปัญหาขึ้นมา โทษกลับมารัฐบาล เพราะงั้นเป็นความเห็นชอบร่วมกัน ก็ไปหามา นี่คือระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง จะเอายังไงก็ว่ามา แต่ต้องยอมรับกันว่า ผิดพลาดเราจะแก้ไขกันอย่างไรต่อไป

เรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน รัฐบาลอยู่อย่างต่อเนื่องอย่าไปฟังนะครับที่ออกมาพูดจาให้ร้ายต่างๆเหล่านั้น วันนี้เราต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้มีความชัดเจนขึ้นในทุกกระบวนการ ผม และ คสช. ก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรตรงนั้นเลย เพียงแต่ว่านำสู่กระบวนการเท่านั้นเอง แต่เรื่องการพิจารณาจะเร็วจะช้าก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมนะครับ ตามหลักฐาน วัตถุพยาน พยานบุคคลอะไรก็แล้วแต่ สังคมอย่ากดดันมากนักเลย ฟังบ้าง อย่าไปฟังแต่สื่อที่บิดเบือน โซเชียลมีเดีย ที่บิดเบือนหรือบางคนที่ออกมาพูดบิดเบือนประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดกฎหมายจะมีอะไรล่ะครับ ถ้ามีมูล ก็ต้องไปสอบสวน วันนี้ก็ยังไม่ทันเข้าอะไรเลย แค่ตั้งเรื่องขึ้นมาไปดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนปกติ ตอนนี้ก็แอบมาอ้างกัน เรื่องความไม่เป็นธรรม ความไม่ยุติธรรม เร่งรัดจนเกินไป ก็ผมบอกแล้วไง ถ้าไม่ผิด ก็คือไม่ผิด จะเร็วจะช้า ไม่ผิด ก็ไม่ผิดนั่นแหละ ถึงจะเร็ว หรือช้า ถ้าผิด ก็ต้องผิด นี่แหละคือเรื่องข้อเท็จจริง อย่าลืมข้อเท็จจริงเหล่านี้นะครับ

เรื่องนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล ก็สืบเนื่องมาจากรัฐบาล ผมเองมีความเป็นห่วงปัญหาสังคมในปัจจุบัน จะเห็นว่ามีโจร มิจฉาชีพมากขึ้น มีการใช้ความรุนแรงกัน มีการใช้อาวุธสงคราม เข้าแก้ปัญหา ไม่มีความหวาดกลัวกฎหมายเลยนะ จะเป็นบ้านป่าเมือเถื่อนกันหรือยังไง ขี่รถจักรยานยนต์ แซงกันไปแซงกันมากับรถเก๋ง อะไรต่างๆ ก็ยกปืนเอามาขู่เขา เออมันทำได้เหรอ แบบนี้ ต้องไปอยู่ในป่าในเขาโน่น ยังผิดกฎหมายเลยนะ วันนี้ ชักปืนออกมายิงกันซะเฉยๆ ทะเลาะกันในครอบครัวก็เอาปืนมาฆ่ากัน ยิงกัน นี่สังคมมันเสื่อมโทรม คนเราใช้อารมณ์เหนือเหตุผลมากขึ้นทุกวัน ไหนจะความรู้สึกในการตัดสินใจ อันนี้คือสิ่งที่เป็นพิษเป็นภัย มาจากสื่อ มาจากโซเชียลมีเดีย ที่มันไม่ดี ทำให้คนนี่เห็นความรุนแรงเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นการเร้า เขาเรียกอะไร แรงขับเคลื่อน บางทีก็วัยรุ่นบ้างอะไรบ้าง เยาวชนบ้างทุกคนมีแรงขับเคลื่อน ที่เหลือเฟืออยู่แล้ว เกมส์บ้าง เกมส์ออนไลน์บ้างนะ โซเชียลมีเดีย บ้าง อะไรบ้างก็ทำให้ทุกคนนี่คุ้นชินกับการใช้กำลัง คุ้นชินกับการทำลายล้างกันด้วยอาวุธ

ในโลกที่อาจจะไม่เป็นจริงในโซเชียลมีเดียนะครับ เรื่องของการ์ตูนบ้างอะไรบ้าง เกมส์ต่างๆ เหล่านี้ ทุกคนเลยมองเป็นเรื่องธรรมดาไปหมด จะเห็นว่าต่างประเทศก็เกิดนะ เล่นเกมส์มากๆ อยากจะใช้อาวุธจริงๆ แล้วไปสร้างการบาดเจ็บสูญเสียในโรงเรียนบ้าง ในสถานที่ต่างๆ บ้าง ทุกประเทศเกิดขึ้นหมดแล้ว นี่แหละคืออันตรายที่เกิดจากโซเชียลมีเดีย ที่ไม่มีคุณภาพ ผมอยากจะมอบนโยบายให้ดำเนินการ ให้เจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชน ช่วยกันสร้างสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบเรียบร้อย และปลอดภัยให้สังคมกลับคืนมาเป็นปกตินะครับ

สำหรับคำว่า ผู้มีอิทธิพลมีคำจำกัดความอยู่แล้ว ซึ่งหมายความถึงว่า บุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมาย รวมความไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด แสวงประโยชน์ กดขี่ข่มเหงพี่น้องชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ไม่มีทางสู้ ซึ่งผู้มีอิทธิพลดังกล่าว มักมีเครือข่ายอาชญากร ซุ้มมือปืน และเป็นองค์ประกอบสำคัญด้วยนะครับ เรื่องอาวุธสงครามอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ นโยบายนี้ไม่ได้เป็นการไล่ล่าฆ่าฟันใคร เพียงแต่กำชับให้มีมาตรการที่เหมาะสมทางกฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่าไปปล่อยปละละเลย เราไม่จำเป็นต้องไปออกกฎหมายอะไรใหม่อีกแล้ว กฎหมายเดิมเพียงพออยู่แล้ว แล้ววันนี้เรามีมาตรา 44 อยู่แล้วด้วย ไม่อยากให้ทุกคนมาต่อสู้กันอีกต่อไปในอนาคตด้วยอาวุธสงคราม หรือใช้ความรุนแรงนะครับ เราพยายามจะใช้กฎหมายอย่างดีที่สุด กฎหมายอื่นๆ เรามีอยู่แล้ว เช่น กฎหมายยาเสพติด กฎหมายในเรื่องของอาวุธเถื่อน น้ำมันเถื่อน ค้ามนุษย์ การลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าว ทุกอย่างมีกฎหมายหมดวันนี้ บางอันไม่มีก็มีในสมัยนี้ แต่ทุกคนไม่ค่อยเคารพกฎหมาย นี่อันตรายเลยมันปฏิรูปอะไรไม่ได้หรอก ถ้าทุกคนไม่เคารพกฎหมาย ยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง การทวงหนี้เก็บค่าคุ้มครอง บุกรุกป่าเหล่านี้ เป็นต้น เป็นเรื่องที่ต้องกังวลสำหรับปุถุชนคนดีทั่วไป

ทั้งนี้เพื่อคืนความเป็นธรรมสู่สังคม สร้างชุมชนที่ปลอดภัย ลดสภาวะความหวาดระแวงของคนในชาติกับกฎหมาย ซึ่งเป็นพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตย จะต้องไม่ไปรบกวนคนอื่น ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน นั่นเขาเรียกประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ละเมิดสิทธิเขา และกฎหมายทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันนะครับ กฎหมายอันเดียวกัน

ทั้งหมดเหล่านี้ขอให้สื่อต่างๆ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ไปขยายความว่า เตรียมจะใช้อำนาจต่างๆ ไปใช้สร้างความรุนแรง เขาเป็นคนที่ทำความผิดอยู่ เราก็ใช้กฎหมายมันผิดตรงไหน ผมไม่เข้าใจ สื่อก็ไปเขียนให้เป็นStory ขึ้นมากันอยู่เรื่อยทุกเรื่องไป อะไรที่กำลังทำ ทำไปแล้วเพื่อส่วนรวม ก็นำเสนอแต่ข้อเรียกร้องที่มันตรงกันข้ามมาตลอด ผมไม่เข้าใจว่าเป็นยังไง ผมไม่ใช่ศัตรูกับท่านอยู่แล้ว เพียงแต่ท่านก็ไม่เคยแก้ไขตัวเองนะ

บางสื่อนะครับ บางสื่อ ชอบทำให้เกิดความขัดแย้งขยายความขัดแย้ง ไปจับเล็กจับน้อยมาตลอดเลย ไปเปิดเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ ให้คนมาคอมเมนต์ สิ่งที่มันเป็นความขัดแย้งไง ทำไมท่านไม่ไปเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา แล้วทำให้สังคมมันปรองดองกัน ท่านไม่ช่วยผมเลยนะ แต่วันนี้ก็ต้องมาดูกันนะช่วยกัน สังคมต้องช่วยกันดูด้วยนะครับ ไม่งั้นปรองดองกันไม่ได้อยู่แล้ว พอเริ่มก็จะตีกันอีก เพราะงั้นเราต้องดูความเข้มแข็งของประชาชนด้วยนะครับ

วันนี้งานค่อนข้างยาก ยากไปเรื่อย ๆ ระยะแรก มันเป็นงานแก้ในเชิงเดี่ยวนะครับ สั่งอันนี้ แก้วันนี้ใช้กำลังไปเท่านี้ ใช้กฎหมายก็จบ แต่จะกลับมาใหม่ ถ้าเราไม่ช่วยกันดูแล แต่วันนี้งานในขั้นที่สอง ระยะที่สอง มันทับซ้อนกันเยอะ ไม่ว่าจะข้ามกระทรวง ข้ามกรม อะไรเกี่ยวข้อง พลเรือน ตำรวจ ทหาร เกี่ยวกับกฎหมายที่ต้องแก้ไขหลายฉบับ มันยากไปหมดตอนนี้ แถมก็ยังมีคนไม่เข้าใจมาต่อต้าน ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไรนะ เหตุผลประชาธิปไตยมั้ง ที่เขาพูดกัน กับสิทธิมนุษยชน แต่เคยห่วงคนที่เขาเดือดร้องกับเรื่องเหล่านี้ไหม ที่รัฐพยายามจะแก้อยู่ ไม่เคยห่วงนะ พูดแต่นี่ เลือกตั้ง ประชาธิปไตย ผมไม่เคยไปเถียงท่านอยู่แล้วยังไงก็ต้องเลือก เพราะอย่างนั้นอะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องผิดกฎหมายนะ ก็ค่อย ๆ หาทางแก้กัน ถ้าผิดมากก็ต้องแก้เร็ว ผิดช้า ก็ยังไงก็ต้องแก้ กฎหมายมีอยู่แล้ว ไม่เร็ว ไม่ช้าหรอก เดี๋ยวจะไม่เข้าใจอีกนะ ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายนะครับ หลายเรื่องปล่อยมาให้ ปละละเลยกันมานาน เจ้าหน้าที่ด้วยต้องรับผิดชอบด้วย ผมเองก็ต้องรับด้วย อยู่ในเหตุการณ์มาตลอด แต่ผมก็ให้รัฐบาล ให้หน่วยงานมาดูแลตลอด ร่วมมือกันมาตลอด

วันนี้ผมเข้ามาบริหาร ผมจะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ทุกคนช่วยกันนะครับ การต่อต้าน ต่างๆ นั้นของร้องนะครับ อย่ามาอ้างเหตุผลเลย อย่ามาโยนความผิดกัน ให้คนอื่นนะ ไปด้อยค่าคนโน้น คนนี้ โจมตีกันไปกันมาปรองดองไม่ได้หรอกครับ ถ้ายังไม่หยุดนะ เรื่องของนิสิตนักศึกษา ผมให้คนไปคุยนะ ครูอาจารย์ต่าง ๆ ก็ขอร้องกัน กรุณานึกถึงประเทศชาติด้วย อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยนะครับ

วันหน้าก็เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว วันนี้ท่านต้องรู้ว่าปัญหาประเทศอยู่ตรงไหน ที่ผ่านมาทุกคนมีแรงขับเคลื่อนที่ ที่แรง มากมายเมื่อมีคนมาให้ข้อมูลท่านไม่ถูกต้อง มันก็ทำให้ท่านเคลื่อนไหวในทางที่ผิด แล้วก็เป็นอันตรายต่อตัวเอง พ่อแม่ กับอะไรต่าง ๆ แล้วแต่ประเทศ ชาติเสียหาย วันนี้มาคุยกันซะ ก็เห็นรับปากกันว่าจะมาคุยกัน แล้วก็ร่วมกันปฏิรูปนะครับ ขอบคุณนะ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

เรื่องการพัฒนานั้น รัฐบาลให้การพัฒนาเป็นไปอย่างยั่งยืนนะครับ ในการประชุม ครม. ได้สั่งการไปแล้ว 3 เรื่องด้วยกันคือ เรื่องระบบการศึกษา ก็ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เด็กเล็ก เกิดมายังไม่ถึงขวบถึง 3 ขวบ ในช่วงที่สมองกำลังพัฒนาอย่างเต็มที่ เด็ก ๆ ทำยังไงจะไม่ป่วย ไม่เครียด จากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายนะครับ กดดัน การศึกษาทำยังไงจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสบการณ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การทำงานเพื่อสังคม มีการพัฒนาวิชาชีพ พัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เป็นต้น

เรื่องระบบสาธารณสุข ถ้าหากบริหารจัดการได้ดี เงินที่เรามีอยู่อย่างจำกัดนั้นก็อาจจะช่วยส่งเสริมให้ทรัพยากรมนุษย์ของเรา มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการทำงาน การใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อจะไปพัฒนาประเทศไปถ้าเราบริหารจัดการเงินต่างๆเหล่านี้ไม่ดี ก็จะฉุดรั้งศักยภาพในทุกๆ ด้าน เพราะทำให้คนป่วยเจ็บ ไม่มีเรี่ยวแรงทำงาน ต้องหาเงินมารักษาอีก ก็เป็นหนี้อีกเช่นเดิม ประเทศก็เดือดร้อน วันหน้าก็กลายเป็นประเทศที่ป่วย ประเทศที่ไม่แข็งแรงตามไปด้วย

เรื่องต่อไปคือเรื่องสิ่งแวดล้อม เราจะต้องมีการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่มีผลกระทบซึ่งกันและกัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมต้องอยู่กับเราอีกยาวนาน ต้องคู่กับมนุษย์ มนุษย์ต้องดูแลรักษา เขาก็จะดูแลรักษาเรา ป่า น้ำ ระบบนิเวศน์ ต้องรักษาสมดุลย์กันให้ได้ อย่าให้เกิดพิษขึ้นมา วันหน้าจะอยู่กันไม่ได้ มันจะย้อนกลับมาทำร้ายพวกเรากันเอง เราจะต้องรักษาไว้ให้อนาคตด้วย ไม่ใช้จนหมดในยุคของเรา วันนี้ก็ป่าน้อยลง ฝนก็น้อยลง ป่ายิ่งน้อยไปกว่านี้ ฝนก็จะไม่มีเลย วันหน้าลูกหลานจะอยู่ยังไง รัฐบาลนี้ก็พยายามดำเนินการทุกอย่าง ตามแนวทางตามหลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน แล้วก็นำแนวคิดของประชาคมโลก มาดำเนินการขับเคลื่อนด้วย ผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ เพราะเราต้องพึ่งพากันอยู่แล้วในโลกใบนี้ ประเทศไทยจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ได้

เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องการจัดหาเงินที่เป็นรายรับของรัฐบาล เรามีรายจ่ายมากมาย รายได้รัฐก็มาจากการเก็บภาษี ภาษีบุคคล นิติบุคคล หรือภาษีอื่นๆ นะครับหลายอย่างด้วยกัน ผมก็อยากจะทำความเข้าใจกันวันนี้ ไม่งั้นก็ขัดแย้งเรื่องนี้กันอีกต่อไป ฟังซะก่อน ผมไม่ได้บอกว่าจะเก็บภาษีท่านวันนี้ไม่ได้ ยังทำไม่ได้ แต่อยากให้คิดดูซิว่าเราจะทำยังไงให้ประเทศเราดีขึ้น เรามีรายจ่ายที่ชัดเจน ทั้งงบประจำ งบลงทุนซึ่งก็แปรเปลี่ยนไปตามมากน้อย งบเร่งด่วนที่แก้ปัญหา ภัยพิบัติบ้าง ความเดือดร้อนต่างๆ เหล่านี้ และงบที่เราใช้ส่วนใหญ่ จะเห็นว่ากระทรวงศึกษาก็ใช้มากนะ หนึ่งมั้ง งบการศึกษาฟรีด้วย อะไรด้วย เป็นสิ่งที่ดีนะครับ แล้วก็ปฐมพยาบาลฟรี รักษาพยาบาลฟรี ทั้งสองอันนี้ผมไม่ได้ว่าไม่ดี

แต่ทำยังไงเราจะมีเงินมาสนับสนุนให้มากกว่านี้ ทำยังไงจะเกิดความเป็นธรรม ทั่วถึงมากกว่านี้ ไม่ทำให้ระบบการรักษาพยาบาลเสียหาย โรงพยาบาลต่างๆ จะต้องไม่เป็นหนี้สิน ต้องช่วยกันคิด ถ้าท่านจะอยากได้อย่างเดียว แต่ท่านไม่ร่วมมือ ไม่ช่วยเหลือ ก็ทำอะไรไม่ได้ การปรับปรุงประสิทธิภาพก็ไม่ได้ หมอ พยาบาลก็ไม่มีสตางค์ ไม่มีเงินผลิตมา พัฒนาโรงพยาบาลก็ไม่ได้ ทุกคนก็ต้องหนีไปอยู่โน่น ไปเข้าคลินิก แล้วก็บ่นว่าแพงอีก แล้วจะให้ผมทำยังไง งบประมาณใช้มากขึ้นทุกวันๆ คนมากขึ้นยังไง เรื่องก็เยอะขึ้น การพัฒนาก็ต้องทำ การลงทุนก็ต้องทำ เพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น อัตราโครงสร้างภาษีเราไม่เคยได้รับการปรับปรุงอย่างเป็นระบบ ค่อนข้างจะสับสนอลหม่านกันพอสมควร ยุ่งยาก

อีกประการหนึ่งคือจัดเก็บไม่ได้ เพราะความไม่ซื่อต่อกัน มีการโกงภาษีบ้าง อะไรบ้าง รายได้ปัจจุบันนะครับ เราได้มาจากภาษีบุคคลธรรมดา ปัจจุบันยื่นแบบ ภ.ง.ด. ไว้ 10 ล้านคนนะครับ แต่เช็คแล้วตัวเลขคร่าวๆ เสียภาษีจริงแค่ 3.5 ล้านคน ได้รับยกเว้นภาษี ประมาณ 6.5 ล้านคน ที่มีรายชื่ออยู่นะ นิติบุคคลอีก 1.5 ล้านราย หรือเกือบ 2 ล้านในขณะนี้นะ จ่ายภาษีเพียง 6 แสนราย ใน 6 แสนรายก็มีทั้งถูก และไม่ถูก เสนอตรงบ้างไม่ตรงบ้าง อีกอันหนึ่งคือภาษีบำรุงท้องที่ ท้องถิ่น ซึ่งเก็บได้เองนั้นวันนี้ ตามหลักเกณฑ์เก่านี่ ปี 20 นี่ พ.ร.บ. เดิมนี่ มีการพัฒนาหลายอย่างมาแล้ว ก็เก็บเท่าเดิมอยู่ 30 ปีแล้วมั้ง นะ 30 กว่าปีแล้ว นอกจากเก็บได้น้อย แล้วยังเก็บได้ไม่ครบอีกด้วย ไม่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บ ก็ต้องปรับดูแลกันทั้งหมด ทำให้รับต้องเสียงบประมาณในการอุดหนุนให้อีกประมาณ 2 แสนล้าน มันทำให้รายได้ต่างๆ ที่รัฐต้องเก็บไว้ตรงกลาง ทั้งงบประจำ งบลงทุน และงบแก้ปัญหาคือ งบกลาง ที่จะทำตามนโยบายเร่งด่วนแก้ปัญหาประชาชน มันลดลงไปทั้งหมด เพราะทุกอย่างถ่วงกันไปหมด รายได้ไม่มี การลงทุนต่างๆ มันจำเป็น ถนน รถไฟ รถไฟฟ้า ท่าเรือ สนามบิน วันนี้ราคาแพงหมด เราทำเองไม่ได้ไงก็ต้องสร้างความเข้มแข็ง ระยะแรกอาจจะต้องร่วมมือต้องซื้อมา วันหน้าต้องทำเองทั้งหมด ทำให้ได้ด้วยการวิจัยและพัฒนา การทำสัญญากับใครก็ต้องมาร่วมมือกัน ถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ อะไรก็แล้วแต่

ในเรื่องของราคาสินค้าเกษตรวันนี้ลดลงไปอีก รายได้มันก็ลด แล้วทำยังไงล่ะครับ เราแข่งขันกับใครไม่ได้ เกษตรกรรายได้น้อยก็เดือดร้อน รัฐต้องหาเงินมาบรรเทาความเดือดร้อนอีก ถ้าทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันเหมือนงูกินหางไปแบบนี้ จะทำยังไง ฝากคิดเท่านั้นเอง วันนี้ฝากคิดไปก่อน วันหน้าจะทำยังไงเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น มันควรจะต้องเสียมากขึ้นไหมที่ไม่เดือดร้อน ให้มันเป็นธรรม ถ้ารายได้น้อยๆ จะเสียอะไรมากมายขนาดนั้น มันไม่ได้หรอก เข้าใจนะอยากให้บ้านเมืองเราเจริญ เราต้องหาเงินให้มากขึ้นในวิธีทางที่ถูกต้อง การเรียกร้องต่างๆ 2-3 วันที่ผ่านมาจะเห็นว่าเรียกไอ้โน่นไอ้นี่ขอไอ้นี่ ยื่นคำขาดอีก ผมไม่ให้ท่านมายื่นคำขาดกับผม ยื่นไม่ได้ สถานการณ์ไม่ปกติอยู่แล้ววันนี้ ท่านมาบอกผม แล้วผมจะหาทางแก้ให้ ถ้ากดดันไม่มีได้อะไรทั้งสิ้น ผมไม่ให้ ต้องเข้าใจ นึกถึงคนอื่นเขาบ้าง

เรื่องภาษี VAT เหมือนกัน ประชาชนอาจไม่เสียภาษีบุคคล เพราะรายได้ไม่ถึง แต่ท่านเสียภาษี VAT 7% ทุกคนเสียหมดในการซื้อของอะไรต่างๆ แล้วแต่มันจะบวกภาษี VAT 7% วันนี้ 7 มากี่ปีแล้ว ทั้งที่ควรจะขึ้นมันขึ้นไม่ได้ แต่วันหน้าถ้าหากว่ารายได้มันดีขึ้น เศรษฐกิจมันดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น ยั่งยืนขึ้น ทุกคนจะมีเงินรายได้มากขึ้น ในการจะไปซื้อของ มันอาจจะต้องขึ้นบ้าง มันจะขึ้นเท่าไรยังไม่รู้ ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่ขึ้น 1% ได้เงินมาแสนกว่าล้าน แต่มันขึ้นไม่ได้ทำยังไง มีแต่จ่ายๆ ทุกวัน การลงทุนต่างๆ เราต้องทำ ถ้าเราไม่ลงทุน สาธารณูปโภคพื้นฐาน รถไฟ รถไฟฟ้า ประปาทุกอย่าง คนไม่มาลงทุนบ้านเราหรอกครับ วันนี้ที่เขามาเพราะเรามีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดีพอสมควร เราต้องทำให้ดีกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเราจะเข้มแข็ง หรือแข่งขันกับประเทศอื่นที่เขากำลังพัฒนาไม่ได้เหมือนกัน วันนี้บ้านเราแออัดขึ้น ถนนหนทางจำกัดลง การขนส่งมีปัญหา

วันนี้อยากจะฝากไว้ด้วย ฝากคิดไว้ก่อนเรื่องภาษี เราจะทำยังไงจะมีเงินมาบริหารแผ่นดิน ดูแลประชาชนที่รายได้น้อย มีรายได้สูงขึ้น เข้าระบบภาษี ทุกคนอย่าไปกลัวคำว่าภาษี ถ้ามีเงินก็ต้องเสียสละกัน ผมเองเสียภาษีครบมาตลอดนะ ตลอดระยะเวลา ข้าราชการทุกคน พลเรือน ตำรวจ ทหาร เสียภาษี เต็มเม็ดเต็มหน่วยมาทุกคน เลี่ยงไม่ได้ เพราะตัดจ่ายตั้งแต่ที่จ่ายเงินเดือนแล้ว

เพราะงั้นก็อยากจะถือโอกาสนี้นะครับ ประชาสัมพันธ์ในเรื่องของวันออมแห่งชาติด้วยนะครับ วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เรากำหนดเป็นวันออมแห่งชาตินะครับ ก็ถือโอกาสว่าทำยังไง ที่จะส่งเสริมการอกม วัฒนธรรมการออมของรัฐ จากการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า 41% ของประชาชน ยังไม่มีการเก็บออมไว้ใช้ในยามชรา

ผมเข้าใจว่าจะมีให้เก็บได้ยังไง เพราะรายได้ยังไม่พอใช้เลย ผมเพียงแต่พูดให้ฟังว่าทำยังไงเราจะมีเงินเก็บออม 41% นี่น่าห่วงนะครับ แล้วก็ มากกว่า 56% ของประชาชนที่ตอบแบบสำรวจ ไม่คิดว่าตนเองมีเงินออมเพียงพอไว้ใช้ในยามชรา และมากกว่า 52% ของคนชราพึ่งตนเองไม่ได้

วันหน้าประเทศเราต้องเป็นสังคมสูงอายุมากขึ้น มันก็มีอย่างเดียวตอนนี้ก็คืออาศัยเบี้ยยังชีพ และลูกหลานเลี้ยงดู ลูกหลานไม่มีอาชีพ รายได้เพียงพอก็ไม่ได้เลี้ยงพ่อแม่ ไม่มีปัญญาอีกนะ ก็เป็นภาระกันไปกันมาแต่ก็ต้องทำนะครับ ลูกหลานก็ต้องดูแล พ่อแม่พี่น้องด้วย ความกตัญญูสำคัญ มากน้อยก็ต้องดูท่านนะ ท่านเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กนะ

เพราะงั้นวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนวัยทำงาน นักเรียน และนักศึกษา ก็มีความจำเป็นนะครับ ต้องให้ความสำคัญกับ การออมวันนี้เพื่ออนาคต ไม่ออมวันนี้ วันหน้าก็มีปัญหา ออมตั้งแต่เด็ก แล้วแก่ตัวจะไม่ลำบาก ปัจจุบันออมกันน้อย ก็น่าเป็นห่วงนะครับ

สำหรับการออมที่ส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นั้นก็ควรจะมีการจัดทำบัญชีค่าใช้จ่ายของตน ที่เรียกว่าบัญชีครัวเรือนนะครับ เพื่อเสริมวินัยการออม และสร้างความฉลาดรู้ เกี่ยวกับเรื่องการเงินครับ การเงินในครอบครัวก็จำเป็น ทำยังไงจะไม่เป็นหนี้นอกระบบ หนี้ครัวเรือนอะไรก็แล้วแต่ หนี้บัตรเครดิต เหล่านี้ทำให้ตัวเลขสัดส่วนของหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นทุกทีๆ

แต่มันเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ก็ต้องมาดูว่าทำยังไงประชาชนจะหนี้น้อยลง ก็ต้องกลับมาสู่ความพอเพียงก่อน ช่วยกันรักษาวินัยเรื่องการใช้เงิน ลูกก็ต้องช่วยพ่อแม่ ลูกสำคัญนะครับ พ่อแม่รักลูกทุกคน ลูกขออะไรก็ต้องหามาให้จนได้

ที่ผ่านมานะครับ รัฐบาลได้ผลักดันให้ กอช. กองทุนการออมแห่งชาตินะครับ ให้เปิดรับสมาชิกได้ตั้งแต่ วันที่ 20 สิงหาคม 2558 เราก็ตั้งเป้าหมายไว้ล่วงหน้า แต่ในปัจจุบันนั้นทราบว่าสมาชิกสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 58 นี้ คือ 340,000 ราย เป็นพี่น้องเกษตรกร กว่าร้อยละ 70 และร้อยละ 95 เป็นผู้ที่มีอายุ มากกว่า 30 ปีขึ้นไป สำหรับเป้าหมายที่เราตั้งไว้ในปี 59 อยู่ที่ 1.5 ล้านคน ก็อยากให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ อันนี้ไม่ใช่รัฐบาลให้ท่านออมคนเดียวนะครับ รัฐบาลก็ต้องจ่ายเงินสมทบให้ท่านด้วย เวลาจ่ายคืนจะได้มากขึ้นนะครับ กว่าที่ท่านฝากไว้

ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับสวัสดิการต่างๆ จากรัฐบาลมีกติกากันอยู่ ก็ขอให้สมัครเข้าเป็นสมาชิก กอช.ต้องช่วยตัวเองด้วย อย่าหวังแต่ให้คนอื่นเข้าช่วยตลอดเวลา มันไม่ยั่งยืน ต้องสร้างหลักประกันในอนาคตของท่านเองให้ได้ สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ขึ้นไป รัฐบาลก็ได้เปิดโอกาสให้สมัครเป็นสมาชิก กอช.ได้ภายใน 1 ปี ตั้งแต่ 26 กันยายนปีนี้ไปจนถึง 25 กันยายนปีหน้า ลูกหลานสามารถสมัครให้กับพ่อและแม่ได้นะครับรายได้ก็อาจจะมีไม่มากนัก ก็ค่อยให้ไป สะสมไม่ได้จำกัดจำนวนอยู่แล้ว ไม่ได้เท่ากันทุกเดือนด้วยซ้ำไป รายละเอียดติดต่อสอบถามได้นะครับที่ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสินครับ

แล้วก็ ธ.ก.ส.ก็จะมีกิจกรรมส่งเสริมการออมในวันการออมแห่งชาติโดยการระดมเงินออมจากเกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของภาครัฐหรือเอกชน ก็สามารถสะสมเงินวันละเล็กวันละน้อยเพื่อรับบำนาญไว้ใช้ในอนาคต และเป็นประกันในการดำรงชีพยามชรา พร้อมจัดกิจกรรมโครงการเกษตรสุขภาพดีกับ ธ.ก.ส. ส่งเสริมด้านสุขภาพของลูกค้าเกษตกร ระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2558 ที่สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยนะครับ

สุดท้ายนี้ สำหรับผลการดำเนินงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษมที่เพิ่งจบไป ในห้วงนี้นะครับ ทั้งงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีไทยเพื่อ SME และงานตลาดสุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายประชาชนนะครับ ได้เป็นที่น่าพอใจ มีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 65,000 คน มียอดการสั่งซื้อนวัตกรรมและเทคโนโลยีสูงถึง 160 ล้านบาท และมีการหมุนเวียนของเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอย ภายในงาน เป็นเงินกว่า 17 ล้านบาท นับเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME นักวิจัย นักพัฒนา นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ รวมถึงผู้ผลิตสินค้าและผู้ขายสินค้า มีโอกาส ได้ซื้อขายสินค้านวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ฯ อีกทั้ง การสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการถ่ายทอดให้แก่เยาวชนและประชาชนทุกคนได้เห็นคุณค่า เลือกใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตอบสนองความต้องการและการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้อย่างเหมาะสม และยั่งยืนด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนอยู่กับวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้นตื่นมาก็ต้องเจอวิทยาศาสตร์ แสง สี เสียง พลังงานทั้งหมด วิทยาศาสตร์ทั้งสิ้นนั่นแหละ มันจะช่วยตอบโจทย์ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของคนไทย และเป็นต้นแบบหนึ่ง ที่จะสานต่อให้งานคลองผดุงกรุงเกษมเดินหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไปอีกด้วย ขอบคุณนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้ปลอดภัยนะครับ สวัสดีครับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น