กระทรวงการคลังดึงแบงก์รัฐเป็นเครือข่ายช่วยผลักดันกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาสัปดาห์หน้า
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างมอบนโยบายให้กับผู้บริหารธนาคารออมสินว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอแก้ไขบทเฉพาะกาลเพิ่มเติม เพื่อเดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ตาม พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) พ.ศ.2554 เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาสัปดาห์หน้าด้วยการเปิดให้ผู้สมัครรับบำนาญชราภาพ ซึ่งเป็นสมาชิกจาก พ.ร.บ.ประกันสังคม มาตรา 40 (3) โอนผู้ประกันตนพร้อมเงินสมทบย้ายมาเป็นสมาชิกของ กอช. จากนั้นจะเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาในขั้นต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อรวมกับสมาชิกจากประชาชนผู้มีอาชีพอิสระให้สมัครเป็นสมาชิกสะสมเงินเข้า กอช.ตามกฎหมายเดิม โดยมีเงื่อนไขการจ่ายเงินสมทบของรัฐบาลกำหนดตามช่วงอายุของสมาชิก คือ สมาชิกอายุ 15- 30 ปี รัฐบาลจ่ายเงินสมทบร้อยละ 50 ของเงินสะสม รวมแล้วไม่เกิน 600 บาทต่อปี (กฎหมายเปิดทางให้รัฐสมทบสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อปี) สมาชิกอายุ 30-50 ปี รัฐบาลจ่ายสมทบร้อยละ 80 ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 960 บาทต่อปี สำหรับสมาชิกอายุมากกว่า 50-60 ปี รัฐจ่ายสมทบร้อยละ 100 ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี หรือรวมทั้งปีต้องไม่เกิน 13,200 บาท โดยผู้ออมจะได้รับเงินบำนาญหลังอายุ 60 ปี ขั้นต่ำอยู่ที่เดือนละ 1,710 บาท
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เพื่อดูแลสมาชิก กอช. จึงมอบหมายให้สถาบันการเงินของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพราะมีสาขากระจายไปทั่วพื้นที่สามารถเข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อเปิดรับผู้มีอาชีพอิสระสมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งพ่อค้า แม่ค้า มอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง จะได้มีเงินออมวัยเกษียณอายุทำงาน เนื่องจากข้าราชการมีเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ภาคเอกชนเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนประกันสังคม จึงต้องการให้ผู้มีอาชีพอิสระได้เป็นสมาชิก กอช.สำหรับคนชราที่สมัครเป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม เพื่อรับบำนาญชราภาพตามมาตรา 40 (3 ) จึงเปิดให้โอนเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนโดยสมัครใจ หากไม่ต้องการย้ายมาอยู่กับ กอช. ยังเป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคมได้เหมือนเดิม
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ได้เสนอแผนช่วยเหลือประชาชนจากนโยบายของรัฐบาลในการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ด้วยการนำโครงการธนาคารประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ดีชำระติดต่อกัน 12 เดือน ได้มีเงินหมุนเวียนในการประกอบอาชีพและเงินทุนได้ลงสู่พื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีโครงการสินเชื่อประชาชนสุขใจร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้ช่วยค้ำประกันสินเชื่อ และมีสินเชื่อออมสู่ฝัน โดยผู้ต้องการกู้เงินต้องเปิดบัญชีเงินออมกับธนาคารก่อนแล้วจึงจะสามารถยื่นขอกู้เงินได้ รวมถึงสินเชื่อสวัสดิการเจ้าหน้าที่ของรัฐ บริษัทเอกชน นับว่าธนาคารออมสินเตรียมนำโครงการช่วยเหลือประชาชน 3-4 โครงการตามนโยบายของรัฐ โดยหลายโครงการคิดดอกเบี้ยผ่อนปรนสำหรับสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงร้อยละ 0.5-0.75 ต่อเดือน เมื่อเทียบกับสินเชื่อไม่มีหลักประกันทั่วไปคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หลังจากกระทรวงรวบรวมมาตรการจากทุกหน่วยงานแล้วจะทราบรายละเอียดเร็วๆ นี้