xs
xsm
sm
md
lg

กบข.เล็งดัน “องค์กรกลาง” ดูแลระบบการออมเพื่อเกษียณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กบข.เสนอนโยบายผลักดัน “หน่วยงานหรือองค์กรกลาง” เพื่อดูแลระบบการออมเพื่อการเกษียณของประเทศไทยในอนาคต

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีระบบการออมที่ค่อนข้างครอบคลุม ประกอบด้วย การออมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ครอบคลุมประชากรวัยแรงงานกว่า 45 ล้านคนที่อยู่ทั้งในระบบและนอกระบบ รวมไปถึงประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีอีกประมาณ 9 ล้านคน

ทั้งนี้ ในระดับนโยบายรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนประชาชนให้ออมเงินในรูปแบบต่างๆ เช่น ออกมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการสมทบเงินบางส่วนจากภาครัฐให้แก่ผู้ออมเงินเพื่อการเกษียณ แต่ก็ยังพบว่าเงินสะสมที่ใช้ยามเกษียณนั้นมีจำนวนน้อยเกินไป

อย่างไรก็ตาม ทาง กบข.เองได้ตระหนักถึงนโยบายที่จะขับเคลื่อนให้มีการออมและพัฒนาระบบกองทุนต่างๆ อย่างจริงจัง โดยนโยบายแรกคือจัดตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อกำกับและพัฒนาระบบบำเหน็จบำนาญประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่คอยดูแลกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการออมเพื่อการเกษียณทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนดูความเหมาะสมและพัฒนาระบบงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการกำกับดูแลคณะกรรมการของกองทุนต่างๆ นอกจากนี้ ต้องมีหน้าที่ให้ความรู้ความเข้าใจและรณรงค์สร้างความเข้าใจระบบการออมและการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น

นอกจากนี้ นโยบายที่ขับเคลื่อนต่อไปก็คือสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการออมเพื่อการเกษียณ และควรให้การออมเพื่อการเกษียณเป็นการออมแบบภาคบังคับโดยเฉพาะภาคเอกชน เหล่านี้จะช่วยให้ประชาชนได้ประโยชน์และถือเป็นการเกษียณที่พอเพียงและมีความสุข

“ในอนาคตเมื่อนโยบายและแผนงานต่างๆ ขับเคลื่อนต่อไปได้ มีการพูดคุยและมีความเชื่อมโยงกันระหว่างกองทุนต่างๆ ทั้ง สปส. กบข. กอช. และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เชื่อว่าจะมีการนำเสนอรายละเอียดต่างๆ ให้แก่รัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวต่อไปในอนาคต”

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาอาจจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด แต่ในระยะถัดไปมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัว โดยในส่วนของ กบข.เองมีการบริหารพอร์ตกองทุนเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งพอร์ตการลงทุนในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาเราเลือกลงทุนในตราสารหนี้ 63% หุ้นไทย 10% หุ้นในต่างประเทศในหลายภูมิภาคประมาณ 14% กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 5% และสินทรัพย์นอกตลาดอีก 8%


กำลังโหลดความคิดเห็น