xs
xsm
sm
md
lg

มีผลแล้ว! แก้ระเบียบลดบทบาทกองทุนเลดี้ - “บิ๊กตู่” สั่งรวบรวมทะเบียนสมาชิกใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (ฉบับท ี่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘
มีผลแล้ว! หลัง “บิ๊กตู่” ลงนามแก้ระเบียบ ลดบทบาทกองทุนเลดี้ จังหวัดละ 100 ล้านบาท “ยุคยิ่งลักษณ์” โอนไปสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย สั่งรวบรวม-จัดทําทะเบียนกลางสมาชิก-พร้อมโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนในทุกจังหวัดในอดีต-ปัจจุบัน เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรี

วันนี้ (21 ต.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ดังนี้

“โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของหน่วยงานที่ทําหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้เหมาะสมและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงานของกองทุนได้อย่างทั่วถึงทั้งประเทศอาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๑ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๗ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ ๑๗ ให้มีสํานักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติเรียกโดยย่อว่า “สกพส.” อยู่ในกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยมีอํานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ทําหน้าที่เป็นสํานักงานเลขานุการของคณะกรรมการ

(๒) ปฏิบัติงานธุรการของคณะกรรมการ คณะกรรมการบริหารกองทุน และคณะกรรมการประเมินผล ตลอดจนที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ และคณะทํางาน

(๓) ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงานของกองทุน

(๔) เป็นศูนย์กลางเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงการจัดตั้งกองทุนนโยบาย และแนวทางในการดําเนินงานของกองทุน

(๕) ดําเนินการและประสานงานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งกองทุนและบริหารกองทุน

(๖) จัดให้มีหรือสนับสนุนให้มีการประชุมชี้แจงและฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงานของกองทุน

(๗) รวบรวมและจัดทําทะเบียนกลางเกี่ยวกับสมาชิกและโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนในทุกจังหวัด เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการหรือคณะรัฐมนตรี

(๘) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมายการบริหารจัดการสํานักงานให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด”

ข้อ ๔ ให้สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโอนบรรดากิจการใด ๆ ที่สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดําเนินการเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับสํานักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติไปเป็นของกรมการพัฒนาชุมชน

ข้อ ๕ บรรดาความผูกพันใด ๆ ที่สํานักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีอยู่กับบุคคลภายนอกในวันก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ดําเนินการโอนให้สํานักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ กรมการพัฒนาชุมชน ต่อไป

ประกาศ ณ วันท ี่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรฐมนตรี”

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงการประชุมหารือเรื่องแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.36 แสนล้านบาท ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ เสนอให้ที่ประชุมพิจารณา มีการหารือเรื่องงบประมาณของหลากหลายกองทุน โดยมีการสรุปว่าจะสนับสนุนองค์การมหาชนใดต่อไปหรือไม่ เบื้องต้นบางแห่งอาจต้องยุบเลิก และบางแห่งอาจต้องปรับเปลี่ยน เช่น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก

ขณะที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (คกส.) มีทั้งสิ้น 37 คน โดยตำแหน่ง 17 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 20 คน ชุดล่าสุดมีนางนลินี ทวีสิน เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการ เช่น น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ, น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์, นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ, นายอดุลย์ วรรณสรณ์, น.ส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์, นายสุนัย เศรษฐ์บุญสร้าง, น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์, น.ส.เพ็ญชิสา หงษ์อุปถัมภ์ชัย, น.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ, น.ส.นิชนันท์ วังคะฮาตธัญญกิจ, น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท, และ น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร โดยรายชื่อส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่ถูกเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น