มติ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ยกคำคัดค้าน “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ปม ขอเปลี่ยนตัว “วิชา มหาคุณ” จากอนุกรรมการไต่สวนปมจ่ายเยียวยาเสื้อแดงโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ด้าน “ยิ่งลักษณ์” พร้อม 34 คณะรัฐมนตรี รับแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งด้วยตัวเอง และทางไปรษณีย์ ยกเว้น “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” ที่ยังหนี
วันนี้ (30 มิ.ย. ) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงถึงกรณีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ. 2548 - 2553 โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ว่า การแจ้งข้อกล่าวหา ตามที่ คณะอนุกรรมการไต่สวนได้พิจารณาและมีมติเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ให้แจ้งข้อกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี รวม 34 ราย กรณีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ. 2548 - 2553 โดยไม่มีอำนาจ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งฝ่ายเลขานุการได้กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9, 23, 25, 29 และวันที่ 30 มิถุนายน 2558 นั้น ปรากฏว่า
ผู้ถูกกล่าวหาที่มาทราบข้อกล่าวหา หรือได้ส่งตัวแทนมารับบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว มีจำนวน 10 ราย ดังนี้ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ มารับเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2558 นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช มารับเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558 นายธีระ วงศ์สมุทร มารับเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2558 นางนลินี ทวีสิน มารับเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558 พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา มารับเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558 นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ มารับเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 นางสุกุมล คุณปลื้ม มารับเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 นายวิทยา บูรณศิริ มารับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ มารับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ มารับเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558
ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 1 ราย คือ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ไม่สามารถส่งหนังสือขอให้มารับทราบข้อกล่าวหาได้ จึงต้องดำเนินการส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อไป
ผู้ถูกกล่าวหาที่มีหนังสือขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และที่ประชุมได้พิจารณาให้เลื่อน โดยกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 30 มิถุนายน 2558 แต่ปรากฏว่าไม่มารับทราบข้อกล่าวหา จึงต้องส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 8 ราย ทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ได้แก่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย และ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์
ผู้ถูกกล่าวหาที่มีหนังสือขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และที่ประชุมได้พิจารณาให้เลื่อน โดยกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 เวลา 14.00 น. จำนวน 13 ราย ได้แก่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ นายฐานิสร์ เทียนทอง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายศักดา คงเพชร นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ทั้งนี้ หากผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวข้างต้นไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามกำหนด จะต้องดำเนินการส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อไป
ส่วนผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 2 ราย คือ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ซึ่งมีกำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ (30 มิถุนายน 2558) ปรากฏว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ได้มายื่นหนังสือลงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 อ้างว่าคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ 442/2556 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2556 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่ได้เข้าพบคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เห็นว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เพียงมายื่นหนังสืออ้างว่าคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไม่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น แต่ไม่ได้มาพบคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา จึงถือว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหา ทั้งสองรับทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อไป
นายสรรเสริญ กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมา กรณีการคัดค้านคณะอนุกรรมการไต่สวน ตามที่ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้ถูกกล่าวหา ได้มีหนังสือลงวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ขอคัดค้านและเปลี่ยนหรือถอนตัวคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยอ้างเหตุว่า นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญา คณะอนุกรรมการไต่สวนเป็นจำเลย และนาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นผู้หนึ่ง ในคณะรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาจากการไต่สวนของคณะอนุกรรมการทั้งสิบเอ็ดคน
อนุกรรมการทั้งสิบเอ็ดคนดังกล่าว จึงตกเป็นผู้มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 46 (3) และตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ศ. 2547 ข้อ 11 (3) ซึ่งห้ามมิให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา กล่าวคือ อนุกรรมการนั้นถูกฟ้องดำเนินคดีอาญา มาทำหน้าที่เป็นคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีของนาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ได้อีก ซึ่งจะทำให้การไต่สวนข้อเท็จจริงไม่ได้ความจริงและความยุติธรรม นั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีดังกล่าวไม่เข้าเหตุแห่งการคัดค้านตามมาตรา 46 (3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 จึงมีมติให้ยกคำคัดค้านดังกล่าว และมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้คัดค้านทราบต่อไป.