ป้อมพระสุเมรุ
ไม่ค่อยตื้นเต้นเท่าไร กรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำหนดวันแถลงเปิดสำนวนถอดถอนอดีตส.ส. 248 คน กระทำชำเรารัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาส.ว. มิชอบ เพราะรูปการคล้ายคลึงกับของ “ขุนค้อน” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร “มิสเตอร์ไวยรัช” นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และอดีตส.ว. 38คน ที่รอดคมมีดสนช.ไปก่อนหน้านี้ในเรื่องเดียวกันด้วยเพราะไม่มีรัฐธรรมนูญปี 50 แล้ว
ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาส.ว.มิชอบ น่าจะตะปบเสือป่าแมวเซาพวกนี้ไม่ได้ในเวทีสนช. เรื่องนี้คงจะล่อได้เฉพาะคดีอาญา สำหรับพวกที่เสียบบัตรแทนกันและปลอมแปลงเอกสาร ที่จะต้องไปว่ากันต้องในชั้นอัยการสูงสุด (อสส.) และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคือ อุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี นริศร ทองธิราช อดีตส.ส.สกลนคร คมเดช ไชยศิวามงคล อดีตส.ส.กาฬสินธุ์ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตส.ส.มหาสารคาม รวมทั้ง “ขุนค้อน” ที่รอดถอดถอน แต่ยังไม่รอดอาญา
เบ็ดเสร็จจับไก่ไหว้เจ้ามาเซ่นปมแก้ไขรัฐธรรมนูญมิชอบได้แค่ 5 คน เรื่องนี้จึงไม่ใช่ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยจะหวั่นไหวกลัวว่า โดนฝ่ายอำนาจล้างบาง
ที่น่าระแวงกว่า น่าจะเป็นกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพิ่งจะปัดฝุ่นหยิบสำนวนที่พรรคประชาธิปัตย์เคยยื่นร้องอดีตส.ส. 310 คน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ร่วมกันเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยของ “เดอะเงาะ” วรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับที่ทำให้เกิดม็อบกปปส. และนำมาสู่การรัฐประหารผ่าทางตัน
หากคิดจะล้างบางจริง เรื่องนี้น่ากลัวกว่ากันเยอะ เพราะเป็นเรื่องอาญา ไม่ใช่ความผิดตามรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ถูกฉีกไปแล้ว
แต่จับยามสามตาฝ่ายกุมอำนาจในปัจจุบันเอง ไม่น่าจะโหดเหี้ยมเชือดยกเข่ง ยกเว้นในอนาคตสถานการณ์กลับเกิดเปลี่ยนแปลงไป อะไรก็เกิดขึ้นได้หากเรื่องยังอยู่ในกระบวนยุติธรรม
ดูแล้วหากจะตัดตอนนักการเมืองในระบอบทักษิณ คัดเอาเฉพาะบรรดาแกนนำตัวสำคัญๆ ไม่กี่คน แค่นี้บรรดาแถวสองแถวสามก็น่าจะขวัญเสียดีฝ่อกระจัดกระจาย ตามกระแสข่าวที่เริ่มมีการติดต่อซื้อตัวอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้เก็บข้าวเก็บของย้ายขั้วภาค 2 กันแล้ว
โดยรูปการณ์แค่ล่อตัวเป้งๆ โดยเฉพาะพวกหัวดื้อหัวรั้นก็เป็นอันพอ เหลือบไปดูแฟ้มคดีในมือ “ป.ป.ช.” ตอนนี้ที่ได้เสียวสุดน่าจะเป็นกรณีกล่าวหา “น้องเห็ด” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวม 34 คน ร่วมกันมีมติจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองช่วงระหว่างปี 2548 - 2553 โดยมิชอบ ไม่มีกฎหมายรองรับ และส่อว่าเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง
สำหรับครม.ชุดนี้ที่ถูก “ป.ป.ช.” แจ้งข้อกล่าวหา เป็น “ครม.ปู 2” ที่ร่วมประชุมเพื่อมีมติจ่ายเงินเยียวยาในเดือนมกราคมและมีนาคม 2555 ตรวจบัญชีหนังหมา มีพวกที่กำลังซ่าๆ เฮ้วๆ ปั่นป่วนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบันอยู่ด้วยเพียบ ไม่ว่าจะเป็น “อ้ายปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ “บักเต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ “โต้งไวท์ไลน์” กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง “เดอะปลอด” ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจน “จิ๊กโก๋คลองหลอด” จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.คมนาคม ที่เผ่นออกต่างประเทศไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองชื่อดังอีกพรึ่บ บางชื่อเรียกแขกได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วย “หัวขาว” ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย “เป็ดเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี “อ๊อดถังเช่า” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นลินี ทวีสิน อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีตรมช.คลัง วิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตรมช.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายธีระ วงศ์สมุทร อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรมช.คมนาคม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมช.คมนาคม ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อารักษ์ ชลธาร์นนท์ อดีตรมว.พลังงาน
บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีตรมช.พาณิชย์ ชูชาติ หาญสวัสดิ์ อดีตรมช.มหาดไทย ฐานิสร์ เทียนทอง อดีตรมช.มหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรมว.ยุติธรรม เผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรมว.แรงงาน นายสุกุมล คุณปลื้ม อดีตรมว.วัฒนธรรม สุชาติ ธาดาดำรงเวช อดีตรมว.ศึกษาธิการ ศักดา คงเพชร อดีตรมช.ศึกษาธิการ วิทยา บุรณศิริ อดีตรมว.สาธารณสุข นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อดีตรมช.สาธารณสุข และ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ อดีตรมว.อุตสาหกรรม
ไม่รวมพวกบ้าน 111 และบ้าน 109 ที่ยังไม่รู้รัฐธรรมนูญ “ฉบับสีชมพู” ของ “อาจารย์ปื๊ด” บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะเขียนบล็อกไว้หรือเปล่า แต่หากเซ็ตนี้โดนพรรคเพื่อไทย “โหรงเหรง” แน่ เหลือแต่พวกโนเนมที่ต้องไปปลุกปั้นกันมาเล่นใหม่
โอกาสรอดมีน้อย เพราะตามข้อกล่าวหาของป.ป.ช. เป็นเรื่องของอาญาและการกระทำที่ขัดต่อหลักกฎหมาย อีกทั้งก่อนหน้านี้คณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2556 - 2557 ที่มี “เนติบริกร” วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งเพิ่งเคาะหลักเกณฑ์ใหม่ไม่เหยียบทับรอยเดิม “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” แม้แต่นิดเดียว
ชุดของ “เนติบริกร” มีกฎหมายอ้างอิงที่ “ป.ป.ช.” ชี้ว่า “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ไม่มี มารองรับประทับตราทั้งหมด จนเปรียบเสมือนเป็นการ “ถางทาง” ให้สัญญาณ “ไฟเขียว” กระบวนการยุติธรรมจะทำอะไรก็ทำ ดังนั้น คดีนี้ได้หายใจลดต้นคอแน่
อีกคดีที่ส่อแววโดนเหมือน ก็ปมคืนพาสปอร์ต “คนแดนไกล” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบ ขัดระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ที่ล่าสุด “ยิ่งลักษณ์” ส่อรอด เพราะไม่มีส่วนในการดำเนินการ แต่เป็นระดับรัฐมนตรีลงไป ตามสัญญาณ “อ้ายปึ้ง” และข้าราชการบางคน จ่อโดนแจ้งข้อกล่าวหาเดือนมิถุนายนนี้
ที่ก่อนหน้านี้ “อ้ายปึ้ง” ประกาศก้องหากกลับมาเป็นรัฐมนตรีจะคืนพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” อีกรอบ คงริบหรี่ เพราะคดีนี้หากตรวจสอบว่า ขัดระเบียบกระทรวงการต่างประเทศจริง น่าจะรอดยากเช่นเดียวกัน
หรือสุดท้ายต่อให้รอดก็คงจะกลับเข้ากระทรวง “บัวแก้ว” ยากแล้ว เพราะทิ้งทุ่นระเบิดไว้อย่างน่าเกลียด โดยเฉพาะการ “ปัดสวะ” ให้ข้าราชการประจำในกระทรวงว่า เป็นคนออกพาสปอร์ตให้ “นายใหญ่” ไม่ใช่ตัวเอง ทำเอาข้าราชการในกระทรวงสมเพศด่ากันระงม กลับเข้ามาคงไม่มีใครยอมรับ เป็นนักการเมืองแต่ “ไม่ใจ”
เป็นบัญชีหนังหมาของพรรคเพื่อไทยคร่าวๆ ที่คงลุ้นกันตัวโกร่ง!!!
