“วิลาศ” แจง คสช.ปลดเลขาฯ สภา เหตุถูกร้องเรียนจำนวนมาก ยื้อรายงานทุจริต แถมภรรยาส่อทุจริตต่อหน้าที่ โดดอบรมข้าราชการให้คนอื่นเซ็นแทน แฉตัวเต็งนั่งรองเลขาฯ สภา แต่งตั้งมิชอบ ทูลเกล้าฯ ถวายอาจระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่แน่ใจข้าราชการนัดแต่งดำประท้วง
วันนี้ (18 ต.ค.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้นายจเร พันธุ์เปรื่อง พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า มีหลายคนมาถามตนว่าเหตุใดจึงมีการปลดนายจเร ตนเคยร้องเรียนให้มีการตรวจสอบนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กรณีใช้จ่ายงบประมาณ แต่ผ่านไป 6 เดือนก็ไม่มีความคืบหน้า ตนจึงประสานไปยังนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากนั้นจึงมีคำสั่งให้นายจเรรายงานผลการทุจริตในสภาฯ ทุกเดือน และที่ผ่านมาตนก็ไปขอเอกสารที่จะมาช่วยตรวจสอบก็ได้รับความร่วมมือบ้างและไม่ได้รับความร่วมมือ
นายวิลาศกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีข้าราชการสภาฯ ร้องเรียนนายจเรจำนวนมาก เช่น กรณีนางอรวรรณ พันธุ์เปรื่อง ภรรยานายจเร ที่ได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการรัฐสภาสามัญในตำแหน่งนิติกร ให้เป็นนักกฎหมายนิติบัญญัติ ในปีงบประมาณ 2556-2557 ซึ่งมีการอบรม 60 ครั้ง ปรากฏว่านางอรวรรณให้คนอื่นเซ็นชื่อเข้าอบรมแทน 29 ครั้ง และปล่อยชื่อว่าง 7 ครั้ง โดยมีการเซ็นชื่อเข้าอบรมด้วยตนเองเพียง 14 ครั้ง และที่ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนเซ็นชื่ออีก 10 ครั้ง ซึ่งเท่ากับว่ามาอบรมไม่เกินกึ่งหนึ่ง ตนเคยไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. และเนื่องจากส่อว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และยังได้ทำหนังสือถึงนายจเรเพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและพิจารณาลงโทษแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกรณีนางโสมอุษา บูรณะเหตุ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ที่เป็นข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ในระดับ 7 ที่ในปี 2552 อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์มีการแต่งตั้งให้เป็นซี 8 ซึ่งมีการฟ้องร้อง และสุดท้ายศาลปกครองมีการเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวเพราะเห็นว่าเป็นการแต่งตั้งโดยไม่ชอบ และให้เป็นซี 7 ดังเดิม และหลังจากนั้นก็มีการโอนย้ายมาเป็นข้าราชการสภาในตำแหน่งซี 9 ทั้งที่มีคำสั่งศาลชัดเจนว่าการแต่งตั้งเป็นซี 8 นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่รู้ว่ามีการเก็บเอกสารดังกล่าวไว้ที่ใดจึงไม่มีการนำมาพิจารณา และล่าสุดทราบมาว่าจะมีการเสนอให้นางโสมอุษาเป็นรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งซี 10 โดยเป็นตำแหน่งที่จะต้องมีการโปรดเกล้า จึงอยากให้รอให้ศาลมีคำตัดสินก่อน เพราะหากเสนอชื่อแล้วได้รับการโปรดเกล้าแต่ศาลตัดสินว่าเป็นการแต่งตั้งโดยมิชอบ ก็อาจจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าข้าราชการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรนัดแต่งชุดดำเพื่อประท้วงการโยกย้ายนายจเรนั้น เท่าที่ได้สอบถามจากข้าราชการหลายหน่วยงานที่ตนรู้จักได้รับการยืนว่าไม่มีการนัดหมายดังกล่าว แต่เรื่องไม่พอใจนั้นอาจจะมีบ้าง จึงต้องรอดูว่าจะมีการแต่งชุดดำในวันพรุ่งนี้หรือไม่
