สปท.เข้ารายงานตัว “อำนวย” มุ่งปฏิรูป ตร.การเมืองห้ามจุ้น “อมร” ขอเป็นโฆษก กรธ.

สปท.ทยอยรายงานตัวตั้งแต่เช้า รอง ผบ.ทอ.ประเดิม เลขาฯ หอการค้าตามมา “อำนวย” ยันไม่ขัดคุณสมบัติ โวนำงานสืบสวนประยุกต์ปราบทุจริต มุ่งปฏิรูป ตร.ให้เป็นคนของกษัตริย์-ปชช. การเมืองห้ามยุ่งเลือก ผบ.ตร. ต้องมีความรู้ไม่ได้ดูแค่ยศ “อมร” มารอประชุม กรธ. คาดร่นเวลาร่าง รธน.ได้ ย้ำเปิดกว้างฟังกลุ่มเป้าหมาย ยึดตาม รธน.ชั่วคราว-แนวทาง “มีชัย” 5 ข้อ รับอยากเป็นโฆษก กรธ.เพราะจะได้มีตัวตน

วันนี้ (6 ต.ค.) กรมประชาสัมพันธ์ ประจำรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรายงานตัวของสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีสมาชิกฯ เข้าแสดงตนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 07.45 น. โดยมี พล.อ.อ.อนาวิล ภิรมย์รัตน์ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางมารายงานตัวเป็นคนแรก ตามด้วยนายกลินท์ สาระสิน กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยกล่าวถึงการเข้าทำหน้าที่ว่ายินดีช่วยประเทศชาติ ส่วนจะมีข้อเสนอแนะในการเร่งปฏิรูปหรือไม่ ขอหารือกันในที่ประชุมสภาขับเคลื่อนฯ ก่อน

ด้าน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 หรือ ผบก.น.1 ได้เดินทางเข้ารายงานตัวลำดับที่ 8 และได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวยืนยันว่าการมาทำหน้าที่สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ไม่ขัดต่อคุณสมบัติการเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคาว 2557 และมาตรา 8 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 จึงไม่จำเป็นต้องลาออกจาการเป็น สปท. พร้อมกับย้ำว่าตลอดชีวิตการทำงานด้านการสืบสวนสอบสวนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้จริง และที่ผ่านมาก็ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2550 จนได้รับฉายาว่า “นวยอดทน” ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งประกันได้ว่าตนมีความเหมาะสมต่อคุณสมบัติกรรมการ ป.ป.ช.ได้

ส่วนการที่ได้รับตำแหน่งทำหน้าที่ใน สปท.ก็ต้องขอบคุณหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ให้โอกาส และขอปวารณาตัวว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องการปฏิรูปด้านการยุติธรรมและตำรวจซึ่งมีความถนัดเดิมอยู่แล้ว และมีความเข้าใจในตำรวจดี เพราะไม่ใช่แค่ รปภ.รัฐสภาแต่งชุดตำรวจแล้วคือตำรวจ ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ตำรวจเป็นคนของพระมหากษัตริย์และประชาชน เพราะที่ผ่านมาตำรวจถูกมองว่ารับใช้นักการเมือง ดังนั้นหากจะมีการปฏิรูปตำรวจก็ต้องแก้ไขกฎหมาย โดยขณะนี้ก็มีร่างกฎหมายเตรียมไว้เบื้องต้นแล้ว ซึ่งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจ หรือ ผบ.ตร.ต้องไม่มีนายกรัฐมนตรีหรือจากฝ่ายการมเองมานั่งทำหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ต.ร.คัดเลือก และคุณสมบัติ ผบ.ตร.ควรมาจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่มาจากยศพลตำรวจเอกอย่างเดียว

นอกจากนี้ ในช่วงเวลา 13.30 น.จะมีการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ซึ่งนายอมร วาณิชวิวัฒน์ หนึ่งใน กรธ. ก็ได้เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภาตั้งแต่เวลา 08.30 น. พร้อมกับเปิดเผยถึงกรอบการประชุมนัดแรก ซึ่งจะมีการเลือกรองประธาน กรธ.2 ตำแหน่ง โฆษก และเลขานุการ ส่วนในเรื่องเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีความเห็นว่าไม่ควรเป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งต้องรับฟังความเห็นของทุกภาคส่วน รวมถึงนำข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างฯ มาพิจารณา นอกจากนี้ คาดว่าจะสามารถย่นระยะเวลาในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะช่วงการรณรงค์ก่อนการประชามติ 4 เดือน ส่วนเวลาในพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ 180 วัน หรือ 6 เดือนนั้น คงจะใช้เวลาอย่างเต็มที่ เพื่อความรอบคอบของร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็จะเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยต้องการให้รับฟังประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจริงๆ เพื่อจะได้ข้อมูลที่ตรงประเด็นและเป็นประโยชน์ สำหรับพรรคการเมืองก็ต้องมีการรับฟังมาโดยตลอดและให้ความร่วมมือส่งตัวแทนเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น

อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่าควรยึดแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว แก้ไขเพิ่มเติม และแนวทางของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ 5 ข้อ ที่ต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับของสากล แต่สอดคล้องวิถีไทย ปรองดอง ไม่ให้เป็นเครื่องมือของนักการเมืองจนเกิดวิกฤต สร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพปกป้องผลประโยชน์ประเทศ

ขณะเดียวกัน นายอมรยังระบุเป็นพิเศษด้วยว่า ส่วนตัวต้องการแสดงความจำนงขอเป็นโฆษก กรธ. เพราะน่าจะช่วยงานได้มากกว่าการเป็นกรรมการ เพราะกรรมการนั้นธรรมดาไม่มีตัวตน