โฆษกรัฐแจงรัฐบาลมุ่งยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของ SME ผนึกกำลังกับ 4 องค์กรในการจัดทำโครงการคูปองนวัตกรรม ระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของผู้ประกอบการ SME สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่ผ่านมาตอบรับดี คาดสร้างมูลค่าเพิ่ม ทางเศรษฐกิจ
วันนี้ (14 ต.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “โครงการคูปองนวัตกรรม เพื่อยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของ SMEs ไทยไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ได้ดำเนินการเข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว โดยระยะแรกได้เริ่มดำเนินการในปี 2553-2555 ที่ผ่านมาได้รับเสียงการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถพัฒนาแนวคิดและต้นแบบนวัตกรรมได้ถึง 277 โครงการ นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง รัฐบาลจึงได้ดำเนินโครงการต่อเนื่องในระยะที่ 2 (2555-2559) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 500 ล้านบาทในรูปแบบคูปองนวัตกรรมที่มีลักษณะเป็นเงินให้เปล่าแก่ SMEs สูงสุด โครงการละ 1,500,000 บาท มุ่งเน้นให้เกิดการใช้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนา (R&D)
ทั้งนี้ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการนอกจากจะได้รับการจัดสรรเงินทุนสนับสนุนแล้วยังจะได้รับองค์ความรู้และการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการ พัฒนานวัตกรรมจนสำเร็จ โดยผู้ประกอบการ 1 รายจะสามารถขอรับเงินสนับสนุนได้ไม่เกิน 2 โครงการ และแต่ละโครงการนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีส่วนร่วมในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนานวัตกรรมคิดเป็นร้อยละ 25 ของมูลค่าทั้งหมดของโครงการ และดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับความสะดวกในการสมัครเข้าร่วมโครงการมากที่สุดจึงได้จัดให้มีช่องทางการลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์นับตั้งแต่การลงทะเบียนและการยื่นข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับทุนสนับสนุน
โดย SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องขึ้นทะเบียน SMEs ก่อนจึงจะสามารถยื่นข้อเสนอโครงการได้ ส่วนผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการระยะที่ 1 มาแล้วมีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการในระยะที่ 2 ก็สามารถทำได้โดยต้องขึ้นทะเบียนและยื่นข้อเสนอโครงการใหม่เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายใหม่ เพื่อให้ สนช.จับคู่ที่ปรึกษาในการพัฒนาโครงการ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเสนอโครงการมีความเป็นไปได้ผู้ประกอบการจะต้องทำโครงการฉบับสมบูรณ์เพื่อขออนุมัติโครงการ และเมื่อโครงการได้รับการอนุมัติแล้วผู้ประกอบการ SMEs ก็จะได้รับเงินสนับสนุนในรูปแบบคูปองซึ่งจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายเป็นงวดๆ ไปภายหลังจากที่ผู้ประกอบการได้มีการดำเนินการแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา”
“SMEs ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และได้เน้นย้ำกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนให้ SMEs มีขีดความสามารถที่สูงขึ้น สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการ ลงทะเบียนและยื่นข้อเสนอโครงการภายในวันที่ 31 ต.ค. 2558 โดยผู้ประกอบการสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่ http://coupon.nia.or.th” พล.ต.สรรเสริญระบุ