“ประวิตร” ยันรัฐบาลทำตามกระบวนการยุติธรรมคดี “ยิ่งลักษณ์” อย่าห่วงไม่ได้แกล้ง พร้อมลงชายแดนใต้กับนายกฯ เอาตัวเองเป็นประกันดูแลความปลอดภัย โต้ BRN ยันไทยจริงใจคุยสันติสุข แจงให้ความเป็นธรรมสอแงฝ่ายเหตุที่ อ.ถลาง ยึดตามกฎหมาย
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ทนายยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ขอให้ใช้กระบวนการทางศาลเรียกค่าความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวแทนการออกคำสั่งทางปกครองว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง อะไรทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ซึ่งต้องดำเนินการในห้วงเวลา 2 ปี เพราะถ้าไม่เรียบร้อยรัฐบาลเองที่จะเดือดร้อน “ยืนยันไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลจะไม่ให้ความเป็นธรรมได้อย่างไร”
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการรักษาความปลอดภัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ในการลงพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี ในวันที่ 16 ต.ค.ว่า “นายกฯ ไป ผมไป ผมดูแลนายกฯ เอง เอาตัวผมเป็นประกัน ไม่ต้องห่วงผมลงไปใต้ด้วย” ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยนายกฯ ไม่จำเป็นต้องสั่งอะไร เขาพร้อมอยู่แล้ว เป็นการลงพื้นที่ดูความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วนจะลงพื้นที่ในจุดไหนบ้างนั้น จะไปบอกหมดได้อย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มบีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์ว่าไทยไม่มีความจริงใจในการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะไม่มีความจริงใจอย่างไรในเมื่อมีการเปิดให้พูดคุยก็พูดคุยกัน รัฐบาลเดินหน้าในเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนมีกี่กลุ่มแล้วที่เข้าร่วมพูดคุยตนจำไม่ได้ เป็นเรื่องของกระบวนการพูดคุย ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดำเนินการ ซึ่งอะไรทำให้เกิดสันติสุขได้ก็ต้องทำ ทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ทำให้ดีขึ้น หากทำไม่ดีขึ้นจะทำทำไม
รมว.กลาโหมยังกล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ปิดล้อมโรงพักที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมาว่าได้สั่งการให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย เราพยายามดูแลให้ดีที่สุด ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย อะไรที่ช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยเหลือกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายที่ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุก็ต้องถูกสอบ ส่วนผู้ที่บุกเข้าทำลายทรัพย์สินทางราชการ ต้องมีการสอบสวนดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน