อดีตกรรมการ ป.ป.ช. เปิดใจหลังได้รับตำแหน่งสมาชิก สปท. พร้อมขับเคลื่อนการปฏิรูปต่อจาก สปช. 11 ด้าน ชี้ ต้องปฏิรูปปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน แจงกฎหมาย ป.ป.ช. อยู่ในระหว่างการยกร่าง ประสาน กรธ. เพิ่มประสิทธิภาพปราบปราม ทั้งอายุความ การอายัดทรัพย์ เตือนจะนิรโทษกรรมก็ต้องดูให้ดี ปัดมีคนทาบทามนั่งประธาน
วันนี้ (7 ต.ค.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการได้รับแต่งตั้งเป็น สปท. ว่า รู้สึกมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามเป้าหมาย การทำหน้าที่ สปท. คือ การขับเคลื่อนการปฏิรูปต่อจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่กำหนดไว้ 11 ด้าน ด้วยเวลาไม่มากจะทำทุกเรื่องไม่พอ อะไรที่เป็นระยะสั้นต้องทำให้เสร็จ ระยะกลาง และระยะยาว ต้องวางรากฐาน และด้วยสมาชิกที่มาจากหลากหลายฝ่ายการทำงาน จึงต้องมีความร่วมมือร่วมใจกัน ทำให้สอดคล้องกันทั้งหมด ทั้งรัฐบาลที่ได้รับแผนปฏิรูปไปแล้ว รวมถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
นายปานเทพ กล่าวว่า การทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญและเป็นฐานของทุกเรื่อง ต้องทำเป็นเรื่องหลักในการปฏิรูป จากนั้นก็ต้องมีการปฏิรูปกฎหมาย การทำงานทุกภาคส่วน ในส่วนกฎหมาย ป.ป.ช. อยู่ในระหว่างการยกร่าง ที่ต้องประสานงานกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ต่อไป เพื่อเสนอแนะเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามการทุจริต ซึ่งหลายเรื่องได้เสนอแล้ว ทั้งในเรื่องอายุความ การอายัดทรัพย์
ผู้สื่อข่าวถามความคิดเห็นต่อประเด็นการสร้างความปรองดอง นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องการปรองดองเป็นเรื่องหนึ่งที่อยู่ในการปฏิรูป 11 ด้าน อยู่แล้ว ต้องทำควบคู่กันหลายส่วนให้เกิดความเป็นธรรม จะนิรโทษกรรมก็ต้องดูให้ดี เมื่อถามว่า ได้รับการทาบทามให้เป็นประธาน สปท. หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ไม่มี เป็นไปตามขั้นตอน หากได้รับตำแหน่งก็ถือว่าเป็นเกียรติ