ปธ.ป.ป.ช. แจง ลงนามตั้งคณะทำงาน 10 คน ร่วม อสส. เรียบร้อย คดีจำนำข้าว พร้อมเร่งนัดประชุม ชี้ ไม่ได้มองโกงเป็นหลัก เน้นละเว้นหน้าที่ ปมไมค์ ครม. แพง รอผู้ร้องถึงสอบ รับยังไร้ข้อมูล ชี้เรื่องดีรัฐให้ความสำคัญปราบโกง ขอให้เป็นยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมหนุน
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการตั้งคณะทำงานร่วมอัยการสูงสุด (อสส.) - ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาสำนวนคดีรับจำนำข้าวที่ยังไม่สมบูรณ์ ว่า ได้ลงนามตั้งตัวแทนคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช. จำนวน 10 คน เรียบร้อยแล้ว เพื่อส่งให้ไปให้ อสส. รับทราบ จากนั้นจะกำหนดการประชุมคณะทำงานนัดแรกโดยเร็วที่สุดต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า คณะทำงานจะได้ข้อสรุปเมื่อใด โดยประเด็นขัดแย้งที่ อสส. แจ้งมายัง ป.ป.ช. อาทิ เรื่องอำนาจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า มีอำนาจยับยั้งโครงการที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาหรือไม่ ประเด็นการทุจริตว่า เกิดขึ้นในขั้นตอนใด เพราะ ป.ป.ช. ไม่ได้มองเรื่องการทุจริตเป็นหลัก แต่เน้นเรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าว เบื้องต้นทาง อสส. ขอสอบเพิ่มพยานในส่วนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และทีดีอาร์ไอ ส่วนพยานที่ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากให้สอบสวนเพิ่มเติมนั้น คงต้องมาหารือในชั้นคณะทำงานก่อน ถ้าจำเป็นก็จะสอบเพิ่มเติมให้
นายปานเทพ กล่าวถึงกรณีการจัดซื้อไมโครโฟนราคาแพงที่ใช้ในห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ป.ป.ช. ยังไม่เข้าไปสอบสวนเรื่องนี้ ต้องรอจนกว่าจะมีผู้ส่งเรื่องร้องเรียนมายัง ป.ป.ช. ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาจะตรวจสอบให้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช. มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบเรื่องการทุจริตได้ โดยไม่ต้องมีผู้ร้องเรียนเข้ามา ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชน ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า แม้ ป.ป.ช. จะมีอำนาจเข้าไปตรวจสอบเองได้ แต่ไม่ใช่ว่า อยู่ๆ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบได้ทันที ต้องมีข้อมูลก่อน ขณะนี้ ป.ป.ช. ยังไม่มีข้อมูลอะไรเลย ต้องรอให้มีผู้ร้องเข้ามาก่อนจะเหมาะสมมากกว่า ทั้งนี้ การละเว้นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์เป็นสิ่งที่ทำได้หากมีความจำเป็น
นายปานเทพ ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญกับนโยบายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตว่า ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันการทุจริต โดย ป.ป.ช. ได้ประสานไปยังรัฐบาลแล้วว่า ขอให้รัฐบาลกำหนดเรื่องการป้องกันทุจริตเป็นยุทธศาสตร์ชาติ และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 12 ก.ย. ซึ่ง ป.ป.ช. พร้อมช่วยรัฐบาลผลักดันนโยบายป้องกันการทุจริตเต็มที่ โดยตนอาจจะนำทีมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการทำงานเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เหมือนที่เคยทำในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
