xs
xsm
sm
md
lg

รองนายกฯ อุบยอดฟ้องแพ่งจำนำข้าว เผยเดตไลน์ กก.สอบ 30 ก.ย. ชี้ต้องสู้อีกหลายศาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกรัฐมนตรี เผย กก.สอบฟ้องค่าเสียหายจำนำข้าวชงรายงาน 30 ก.ย.ก่อนส่งให้ “ประยุทธ์” และคลังฟ้อง ไม่ขอเปิดตัวเลข อ้างไม่ได้เน้นนโยบายแต่ดูที่ทุจริต บอกต้องทำตามคำฟ้อง ป.ป.ช. ชี้ต้องสู้กันอีกหลายศาล รับฟ้องรวม “ยิ่งลักษณ์-บุญทรง” และพวก แยก 2 คดี พาณิชย์-คลังเป็นโจทก์ แย้มมีเซอร์เวเยอร์ต้องโดนด้วย

วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า กำหนดวันที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงส่งรายงานข้อมูลมาให้ตนเพื่อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา คือวันที่ 30 ก.ย. และจากนั้นจะส่งให้กระทรวงการคลังดำเนินการฟ้องร้องต่อไป ส่วนจำนวนตัวเลขที่จะฟ้องนั้นมีอยู่แล้ว ยังไม่ขอเปิดเผย อย่างไรก็ตาม วันนี้เราไม่ได้พูดเรื่องนโยบายใดว่าถูกหรือผิด แต่กำลังพูดท่ามกลางสิ่งที่ดำเนินการนั้นทำให้เกิดอะไรขึ้น คำตอบคือเกิดการทุจริตและรั่วไหล โดยรัฐบาลระวังที่จะไปพูดถึงเรื่องนโยบาย เรื่องความชัดเจนในการดำเนินการนั้นใช้อารมณ์ไม่ได้ เมื่อองค์กรที่มีอำนาจ คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งเรื่องมา ใครไม่ทำอะไรต่อจะมีความผิดจึงต้องทำต่อ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าจำนวนเงินที่จะฟ้องร้องประมาณ 5 แสนล้านบาท ในข้อเท็จจริงแล้วมากหรือน้อยกว่านั้น นายวิษณุกล่าวว่า ยังต้องสู้กันอีกหลายศาล บอกตัวเลขไม่ได้ เมื่อถามว่า ตัวเลขจำนวนเงิน 5 แสนล้านบาท ที่จะยื่นฟ้องนั้นรวมคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวกใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ โดยคำร้องจะแยกเป็นสองประเภท คือ กระทรวงพาณิชย์เป็นโจทย์ประเภทหนึ่ง และกระทรวงการคลังเป็นโจทก์ประเภทหนึ่ง จำเลยแบ่งเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรง และพวก 5-6 คน การฟ้องแต่ละคนจะไม่เท่ากัน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการนำตัวเลขค่าฝากข้าวมานับรวมในค่าความเสียหายนั้น ทั้งที่มีการประกันราคาข้าวไว้แต่ละขั้นตอน โดยที่มีเซอเวเยอร์ดูแล รองนายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้มีการทำบัญชีย่อยแยกเอาไว้แล้ว และบางทีเซอเวเยอร์อาจต้องรับผิด ต่อข้อถามว่า ข้อสังเกตว่าการดำเนินการของ ป.ป.ช.อาจจะไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเหมือนการพิจารณาของศาล รองนายกฯ กล่าวว่า เพราะตรงนี้ถึงต้องนำเรื่องไปฟ้องที่ศาล และเราไม่ขัดข้องที่เรื่องจะไปศาล อย่างลืมว่าคดีที่จะไปศาลมี 2 คดี คือ ที่ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นจำเลยคนเดียว ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กับคดีที่ฟ้องนายบุญทรงกับพวก ประเด็นขายข้าวแบบจีทูจี และยังมีเอกชนที่เกี่ยวข้อง การฟ้องร้องตรงนี้จะพิสูจน์กันว่าการทำงานของ ป.ป.ช.ว่าถูกหรือผิด และอีกส่วนคือการฟ้องแพ่งที่ต้องไปที่ศาลปกครอง

เมื่อถามว่า หากฝ่ายปฏิบัติประวิงเวลาในการระบายข้าวออก แล้วบอกว่าขาดทุนตัวเลข ตรงนี้จะพิสูจน์ได้อย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่เป็นไร โจทก์คือรัฐบาล จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่าไรก็ว่าไป เมื่อถึงเวลาต้องสืบพยานและให้ความเป็นธรรมว่าตัวเลขที่แท้จริงคือเท่าไรกันแน่ แต่คงไม่มากกว่าความเป็นจริง เพราะสุดท้ายต้องดูว่าความเสียหายเกิดจากใคร อย่างไร แล้วอะไรที่ต้องหักออกไป ผิดที่รัฐบาลไหน ขนาดไหน เพียงใด แล้วจำเลยผิดจริงหรือไม่ หากผิดจริงแล้วทำผิดแค่ไหน ซึ่งเราจะไปเอาผิดเกินกว่าที่เขาจะต้องรับผิดไม่ได้ ทั้งนี้ ปกติโจทก์จะฟ้องเกินไว้ดีกว่าขาด หากฟ้องแล้วขาดแต่ศาลเห็นว่ามีความเสียหายมากกว่านี้ก็จะให้ไม่ได้ เพราะศาลพิพากษาเกินคำขอไม่ได้ แต่ถ้าฟ้องมากแล้วศาลเห็นว่าความเสียหายไม่ถึงก็อาจจะให้ไม่ถึงก็เป็นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น