คลอด 8 มาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งปี 58/59 พร้อมไฟเขียว 3 แนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย
วันนี้ (22 ก.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทาง 8 มาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในช่วงฤดูแล้งปี 58/59 ประกอบด้วย
1. การส่งเสริมความรู้และปัจจัยการผลิตเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ซึ่งมีการแยกงานอย่างชัดเจน เน้นสนับสนุนการสร้างอาชีพและส่งเสริมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช โดยกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
2. การชะลอ หรือขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ของเกษตรกรต่อสถาบันการเงิน มีกระทรวงเกษตร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการ
3. การจ้างงานและรายได้ให้เกษตรกร มีกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงแรงงานดำเนินการ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงไปในระบบ 130,000 ล้านบาท ผ่านกองทุนหมู่บ้าน ชุมชนเมือง ตำบลละ 5 ล้าน รวมไปถึงการกระตุ้นโครงการของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท
4. การเสนอโครงการตามความต้องการของชุมชน กระทรวงเกษตรฯดำเนินการ
5. การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำที่ทุกส่วนราชการต้องรณรงค์อย่างประหยัด และปฏิบัติให้เป็นตัวอย่าง
6. การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ให้กระทรวงเกษตรฯดำเนินการขุดลอกแหล่งน้ำเกษตร และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลการขุดบ่อน้ำบาดาล
7. การเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อช่วยลดรายจ่ายให้เกษตรกร และ 8. การสนับสนุนด้านอื่น ๆ ที่มีกระทรวงมหาดไทย ธ.ก.ส. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการหารือในรายละเอียด และเสนอโครงการที่จำเป็น
มาตรการดังกล่าวที่ประชุม ครม. เห็นชอบในรายละเอียด แต่ในทางปฏิบัตินั้นคงต้องหารือกันต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งในที่ประชุมถึงสถานการณ์น้ำ ขณะนี้ในเบื้องต้นลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 2,500 ล้าน ลบ.ม. ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง มีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 4,300 ล้าน ลบ.ม. ส่วนที่เหลือทั้งประเทศมีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 7,800 ลบ.ม. ยังถือว่าไม่เดือดร้อน เพราะยังมีฝนตกลงมาอยู่ แต่อนาคตข้างหน้าพื้นที่ที่อาจจะมีปัญหาวิกฤต คือ พื้นที่เฉพาะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีพื้นที่ 10.7 ล้านไร่ ซึ่งมีเกษตรกร 476,000 ครัวเรือน
ขณะนี้ประเมินว่า สถานการณ์น้ำคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา มีรายงานว่า ในช่วง 2 - 3 สัปดาห์หน้า จะมีฝนตกบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ และอีสานตอนบน ส่งผลให้สถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก ๆ พัฒนาดีขึ้น เพราะฉะนั้นจากที่เคยมีข้อสรุปว่า จะต้องมีมาตรการงดส่งน้ำ คงยังไม่พูดถึง เพราะต้องประเมินสถานการณ์น้ำเป็นรายสัปดาห์ คาดว่า อาจจะพัฒนาดีขึ้น เพราะนอกจากรายงานของกรมอุตุฯแล้ว ยังมีทีมฝนหลวงอีก 9 ทีมที่ดำเนินการในพื้นที่ที่สามารถจะทำให้ฝนตกลงมาในแอ่งรับน้ำ เพื่อไหลลงสู่เขื่อน โดยไม่ให้ไปซ้ำเติมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำจากพายุหว่ามก๋อ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ครม. ยังเห็นชอบช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหา การทำการประมงผิดกฎหมาย ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (กขย.) เสนอ ซึ่งประกอบด้วย 1. การให้ความช่วยเหลือในเรื่องภาระหนี้สิน ที่เกิดจากการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งแหล่งเงินกู้อื่น ๆ และการกู้เงินนอกระบบ เนื่องจากการที่ผู้ประกอบการประมงต้องหยุดออกเรือ ทำให้ไม่สามารถผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้ยืมได้ 2. การให้ความช่วยเหลือในระหว่างที่ไม่สามารถออกทำการประมงได้ และ 3. การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงที่มีความต้องการเปลี่ยนเครื่องมือทำการประมงและ/หรือเปลี่ยนอาชีพ